“เทพไท” ท้า “อัจฉริยะ” เปิดชื่อ ที่ปรึกษา รมต.เอี่ยวงาบหน้ากากอนามัย ยัน รมต.พรรคทุกคนเน้นซื่อสัตย์ สุจริต แต่หากลูกน้องผิดจริง ต้องรับผิดชอบฐานเซ็นแต่งตั้ง
วันนี้ (13 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ออกมาเปิดโปงถึงนักการเมืองหญิงเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี มีเอี่ยวกับการส่งออกหน้ากากอนามัย ว่า เป็นข้อมูลที่น่าสนใจในภาวะที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหาเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด มีการขาดแคลนหน้ากากอนามัย แต่ยังมีบุคคลบางกลุ่มฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์บนความเดือดร้อน และความเป็นความตายของผู้คนอยู่ แต่การที่ นายอัจฉริยะ ออกมาเปิดโปงแบบครึ่งๆ กลางๆ อาจจะทำให้สังคมสับสนและเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงได้ ซึ่งอาจจะพาดพิงไปยังตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองอื่นๆ ที่อาจจะได้รับความเสียหายได้ จึงขอเรียกร้องให้นายอัจฉริยะ เปิดเผยความจริง โดยระบุชื่อ นามสกุล บุคคลที่เกี่ยวข้อง กับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
“หากนายอัจฉริยะมั่นใจในข้อมูลของตัวเอง ก็ไม่ต้องเกรงกลัวการถูกฟ้องร้อง หรือดำเนินคดีทางศาล เพราะนายอัจฉริยะ ก็เป็นนักกฎหมาย น่าจะรู้ว่าการพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะย่อมสามารถกระทำได้ การที่บุคคลใกล้ชิดของรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์การส่งออกกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย จะเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่รัฐมนตรีและสร้างความเสื่อมเสียต่อรัฐบาลโดยรวม ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีคนไหน กระทรวงใด พรรคการเมืองอะไร ก็ไม่ควรที่จะละเว้นการตรวจสอบ” นายเทพไท กล่าว นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ 3 ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ 3 ที่ระบุถึงการทุจริตคอร์รัปชัน จะต้องได้รับการจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นกับรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ หรือรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดก็ตาม จะต้องได้รับการตรวจสอบและต่อต้านจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน
สำหรับข้อมูลที่นายอัจฉริยะเอาออกมาแฉนั้นถ้าเป็นความจริง ตนเชื่อว่า จะไม่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน เพราะรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนนั้น ทางพรรคได้เน้นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ความรับผิดชอบในหน้าที่ และต้องมีความรับผิดชอบต่อบุคคลที่ตนเองแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา, เลขานุการ และทีมงานรัฐมนตรีทุกคนด้วย เพราะเชื่อว่าได้มีการกลั่นกรองคุณสมบัติของบุคคลเหล่านั้นมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่หากคนใกล้ชิดรัฐมนตรีคนใดก็ตาม มีพฤติกรรมที่สร้างความเสียหาย หรือมีการทุจริตต่อหน้าที่ รัฐมนตรีผู้ที่ลงนามแต่งตั้ง จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้เป็นที่ยอมรับของสังคมด้วย