รองโฆษก ปชป. ระบุ พรรคพร้อมรับการตรวจสอบกักตุนหน้ากาก แสวงหาประโยชน์จากโควิด-19 แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่แท้จริง ไม่ใส่ร้าย บิดเบือน ซ้ำเติมสถานการณ์ ย้ำ รมต.พรรคเน้นซื่อสัตย์ สุจริต
วันนี้ (15 มี.ค.) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีกระบวนการกล่าวหาพาดพิงบนโซเชียลมีเดีย เรื่องการทุจริตเกี่ยวกับการกักตุนและส่งออกหน้ากากอนามัย ที่มีการฉวยโอกาสและแสวงหาประโยชน์ จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน โดยตั้งข้อสงสัยและพาดพิงถึงคนของพรรคประชาธิปัตย์ด้วยนั้น เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน พรรคจึงขอทำความเข้าใจ และชี้แจงในประเด็นดังต่อไปนี้
สำหรับกรณีข้อมูลบนโซเชียลมีเดียและมีบุคคลพาดพิงถึงรัฐมนตรี หรือคณะทำงาน โดยเฉพาะข้อมูลการส่งออกหน้ากากอนามัย เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีอนุกรรมการพิจารณาเป็นคณะตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา อย่างโปร่งใส ชัดเจน ภายใต้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยตรวจสอบแล้ว พบว่า ในการพิจารณามีคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตส่งออกไปนอกราชอาณาจักรที่ กกร. แต่งตั้งขึ้น จาก 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ผู้แทนองค์การเภสัชกรรม ผู้แทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ ผู้แทนจากกรมการค้าภายใน
โดยผู้แทนจากสี่หน่วยงานได้ร่วมกันพิจารณาตามหลักเกณฑ์ หากปรากฏว่าเป็นสเปกใดที่อยู่ในเงื่อนไขลิขสิทธิ์ ผลิตเฉพาะเงื่อนไข เพื่อการส่งออกสำหรับบางประเทศ และไม่ใช้ในประเทศไทย จึงจะอนุญาตให้ส่งออกได้ แต่หน้ากากอนามัยแบบที่ไทยต้องใช้ ไม่มีการอนุญาตให้ส่งออก ดังนั้น ตามที่มีการเผยแพร่ภาพใบอนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้น จึงเป็นไปตามเงื่อนไขการส่งออกที่กำหนด
พรรคขอยืนยันว่า รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน เน้นเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตที่ถือเป็นอุดมการณ์หลักของพรรคมาโดยตลอด และทำงานภายใต้ความรับผิดชอบในหน้าที่ ในกรณีที่มีบุคคลหนึ่งคนใด ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเกี่ยวข้องรัฐมนตรีคนไหน กระทรวงใด พรรคการเมืองอะไร เข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ หรือกระทำการทุจริตประพฤติมิชอบ อันจะสร้างความเสียหายให้แก่รัฐมนตรีและสร้างความเสื่อมเสียต่อรัฐบาลโดยรวม จะต้องมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาดเช่นเดียวกัน
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสืบหาข้อเท็จจริง และยืนยันจะไม่มีการปกป้อง หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงตามที่ได้ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่รัฐมนตรีของพรรค หรือผู้ที่เกี่ยวข้องหากได้รับความเสียหายจากการถูกกล่าวหา ให้ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลในการที่จะปกป้องชื่อเสียงของพรรคและตนเองตามกฎหมายด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในยามที่บ้านเมืองกำลังประสบกับวิกฤต พรรคขอส่งกำลังใจให้ทุกคนทุกฝ่าย ทั้งในส่วนของรัฐบาลและภาคส่วนต่างๆ ในการร่วมกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง รวมถึงพี่น้องประชาชนทุกคน และขอให้คนไทยผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันได้โดยเร็ว