“สนธิรัตน์” เผย ก.พลังงาน ไม่นิ่ง เร่งปลดล็อกโรงงานทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ชี้“วีระกร” ได้ข้อมูลคลาดเคลื่อน คงเป็นห่วงประชาชนจึงออกมาพูด แต่เรื่องในพรรคควรคุยภายในพรรคก่อน
วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาเรียกร้องขอให้ประกาศปลดล็อกเงื่อนไขบางประการ เพื่อนำแอลกอฮอล์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสต๊อก 100 ล้านลิตร ออกมาจำนวน 50 ล้านลิตร เพื่อผลิตเจลและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เพื่อวางจำหน่ายหรือแจกให้ประชาชน หลังจากพบว่า เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิค-19 ภายในประเทศ ขาดตลาดและมีราคาแพง ว่า คงเป็นความเข้าใจผิด
เพราะจริงๆ แล้วจำนวน 100 ล้านลิตร เป็นแอลกอฮอล์ที่เรียกว่า Denatured Alcohol ที่มีการผสมน้ำมันเข้าไปเพื่อใช้ในการทำแก๊สโซฮอล์ ในเรื่องนี้ทางกระทรวงพลังงาน ร่วมกับกระทรวงการคลัง รับทราบปัญหาแล้ว ว่า แอลกอฮอล์จะขาดแคลนตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราพยายามปลดล็อก โดยตามกฎหมายไม่อนุญาตให้นำเอทานอลมาใช้ในด้านอื่น นอกจากด้านเชื้อเพลิง เราจึงได้แก้ระเบียบเรื่องนี้ขึ้นมา ก่อนที่จะนำไปสู่การปฏิบัติยังคงต้องปรับปรุงบางอย่างอยู่ทางกระทรวงพลังงานจะประสานกับกรมสรรพสามิต เพื่อดึงเอาแอลกอฮอล์ส่วนเกินจากการเริ่มผลิตมาใช้ในการทำเจลล้างมือ เราไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะประกาศเพิ่งจะออกมาได้ไม่ถึงสัปดาห์เท่านั้นเอง ทั้งนี้ เราได้แจ้งกับโรงงานต่างๆ แล้ว ขณะนี้มีบางโรงงานที่ยื่นรายละเอียดเข้ามา
เมื่อถามว่า จะสามารถนำมาผลิตได้จำนวนมากหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า จะมีส่วนเกินจำนวน 1 ล้านลิตร ซึ่งจะมีประโยชน์มาเติมในช่วงที่เราขาดแคลนแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังสามารถนำมาใช้ผลิตสเปรย์ฆ่าเชื้อทำความสะอาดได้ด้วย
เมื่อถามว่า จะสามารถเริ่มกระบวนการได้เมื่อไหร่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายเริ่มแล้ว ด้านกระทรวงพลังงานได้ประสานไปที่กรมสรรพสามิต เพื่อขอให้ประกาศปลดล็อก เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่มีข้อปฏิบัติ โดยไม่ต้องมาขออนุญาตในเรื่องของปริมาณอีก ทางโรงงานสามารถติดต่อได้ที่กรมสรรพสามิตแล้วดำเนินการซื้อขายได้ทันที เพื่อลดขั้นตอนปฏิบัติเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติแล้วค่อยมาว่ากันต่อไป
เมื่อถามว่า ได้แจ้งเรื่องนี้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หรือยัง นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ได้นำเรียนนายกฯแล้วเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนายกฯ ก็เร่งรัดและมีความเป็นห่วงถึงความขาดแคลนที่เกิดขึ้น เพราะนายกฯ ทราบเรื่องนี้ดี
เมื่อถามว่า การที่ นายวีระกร ออกมาแสดงออกเช่นนี้ จะมีการพูดคุยภายในพรรคหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจข้อมูล ซึ่งไม่มีอะไร เป็นการชี้แจงความเป็นจริงให้รับทราบ เพราะนายวีระกรอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ส่วนจะมีปัญหาทางการเมืองหรือไม่นั้น นายวีระกร ก็อาจจะมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน จึงพูดออกมาด้วยข้อมูลที่มีไม่ครบ
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องในพรรคควรพูดคุยภายในก่อนออกมาพูดข้างนอกหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนนี้ก็ต้องคุยกัน เพราะเราพูดเสมอว่าเรื่องในพรรคให้คุยกันภายในพรรค น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด