นายกฯ ถก “คลัง” หารือมาตรการแก้ผลกระทบโควิด-19 ก่อนร่วมรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องพิษสุนัขบ้า สั่งกวาดล้างร้านค้าไม่มีใบอนุญาต ขายพันธุ์ไม่มีใบรับรอง ส่งผลสุนัขอ่อนแอ สุดท้ายคนเลี้ยงทิ้งกว้าง กลายสุนัขจรจัดรวมกลุ่ม บอกเข้าใจหมาหมู่ เดี๋ยวต้องฉีดวัคซีน หนุนใช้ “โค้ดดิ้งแก้โควิด” จัดระเบียบสมอง วิเคราะห์ข่าวโซเชียล สกัดสังคมขัดแย้ง รับ จนท.ไล่จับไม่ทัน เหตุต้องยึดขั้นตอนกฎหมาย
เมื่อเวลา 08.40 น. วันนี้(10 มีนาคม) นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงการคลัง ได้ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดเป็นการสรุปเกี่ยวกับมาตรการลดผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศ และค่าครองชีพประชาชนจากผลกระทบสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ภัยแล้ง โดยเฉพาะมาตรการคืนเงินประกันค่ามิเตอร์ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ประเภทครัวเรือนและกิจการขนาดเล็ก 2.15 ล้านราย วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท
จากนั้นก่อนการประชุม ครม. ที่หน้าตึกบัญชาการ 1 น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ โดยนายกฯ ระบุว่าสินค้าเกษตรที่จะนำไปขาย ขอให้ได้มาตรฐานกลาง รวมถึงให้กระทรวงเกษตรฯ ไปคิดในส่วนราคาข้าวให้เป็นราคากลางเพื่อที่รัฐบาลจะได้เข้าไปช่วย ซึ่งรัฐบาลต้องการให้กลุ่มเกษตรกรประสบความสำเร็จอย่างที่ต้องการ ข้อสำคัญขอให้นึกถึงผู้ประกอบการรายย่อยอย่าง ชาวบ้าน ซึ่งขอให้ยึดหลักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือปลูกไว้กิน ถ้ามีก็แบ่งปันซึ่งกันและกัน และปลูกไว้ขาย
นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังนำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการความร่วมมือการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ปีงบประมาณ 2563 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โดยนายกฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องแก้ที่ต้นเหตุเริ่มจากคนเลี้ยงต้องไม่ปล่อยปละละเลย ต้องฉีดยา วันนี้ขอประชาสัมพันธ์บริการฉีดวัคซีนฟรีป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าครอบคลุมทุกพื้นที่ ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.-31 ก.ค.63 ขอให้ทุกคนมีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงทุกตัวให้ฉีดวัคซีนตามกำหนด หากทิ้งกว้างเห็นแล้วน่าสงสาร กลายเป็นสุนัขจรจัด สร้างปัญหาให้สังคมโดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว วัด พอสัตว์เหล่านี้อดอยากก็ไปรวมกลุ่มกัน กลายเป็นสัญชาติญาณเดิมของสัตว์ออกมา มีการล่าหาอาหาร สัตว์ก็ดุ ดังนั้นต้องแก้ที่คนเลี้ยง เพราะผลกระทบจะเกิดกับประชาชนเมื่อถูกสุนัขกัดต้องไปรักษาฉีดยาให้เรียบร้อย
นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนเป็นห่วงเรื่องการเลี้ยงสุนัขพันธ์ต่างประเทศที่มีการนำมาขายข้างถนน ไม่ใช่ร้านขายที่มีใบอนุญาต เราต้องควบคุมและกวาดล้างให้หมด เพราะบางทีการผสมพันธุ์สัตว์ไม่ถูกต้อง ทำให้สัตว์อ่อนแอ ไม่ทนทานต่อโรค อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลสุนัขมีราคาแพง ทำให้คนที่นำมาเลี้ยงดูแลไม่ไหว สุดท้ายก็นำมาทิ้ง ดังนั้นขอให้ประชาชนซื้อในร้านที่มีใบอนุญาต ใบรับรอง หากพบร้านที่ไม่มีใบอนุญาต ขายในที่ที่ไม่ถูกต้อง หรือพันธุ์ไม่ได้รับการรับรอง ขอให้มีช่องทางที่แจ้งได้ทันที ต้องดำเนินคดีถือว่าเป็นการหลอกลวงทรมานสัตว์ และตนเห็นมีเพจออกมารักษาสุนัขเยอะ ก็ดีต้องช่วยกันดูแล ทั้งนี้ส่วนใหญ่ตนก็เลี้ยงสุนัขไทย เพราะสุนัขต่างประเทศบางทีต้องเลี้ยงเหมือนกับลูก
นายกฯ กล่าวด้วยว่า การใช้กฎหมายก็อันหนึ่ง และต้องขอความร่วมมือกับพวกเรา สุนัขพวกนี้ต้องระมัดระวัง ซึ่งสุนัขจรจัดก็มาจากคนเลี้ยงแล้วปล่อย พอปล่อยไปมากๆ ก็หลายเป็นนักล่ารวมกลุ่ม เขาเรียกว่าอะไรนะ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตอบว่า หมาหมู่ ซึ่งนายกฯหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “หมาหมู่ๆ เข้าใจคำว่าหมาหมู่ เข้าใจ หมาหมู่ไม่มี เดี๋ยวต้องฉีดวัคซีนพวกหมาหมู่”
จากนั้นคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมคณะได้เข้าพบเพื่อให้นายกรัฐมนตรี ร่วมประชาสัมพันธ์การจัดนิทรรศการผลงาน “ใช้โค้ดดิ้ง ชนะโควิด” โดยตัวแทนนักเรียนได้สาธิตการใช้โค้ดดิ้งในใช้เจลล้างมือ และให้นายกฯ ปฏิบัติตาม โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลักการสำคัญวันนี้เราจะต้องให้คนทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่ารู้จักการคิดวิเคราะห์ เชื่อสิ่งต่างๆ อย่างมีเหตุผล สิ่งใดที่ไม่น่าเชื่อก็ต้องมาคิดวิเคราะห์ว่าใช่หรือไม่ โดยเฉพาะข่าวที่ออกมาทางโชเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำหน้าที่ของเขาแต่บางครั้งอาจไม่ทันการณ์ เพราะการดำเนินการต้องใช้กฎหมาย การจะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ต้องขอหมายศาล บางครั้งจึงไม่ทันการณ์ ทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งสูง เพราะบางทีไม่ใช่ข่าวจริงทั้งหมดหรือบางส่วน ฉะนั้น ขอให้ทุกคนต้องคิดวิเคราะห์ ซึ่งขั้นตอนการใช้โค้ดดิ้งเราไม่ได้มุ่งหวัง เรื่องคอมพิวเตอร์อย่างเดียว หากเราจัดระเบียบสมองให้ได้อย่างที่คอมพิวเตอร์ทำ วันหน้าก็จะทำให่้เราง่ายขึ้นในการไปเรียนหรือการศึกษาไปสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในโลก ซึ่งเราต้องการคนเพื่อไปสู่ยุค 4.0 ดังนั้น ต้องช่วยกัน
“ขอประชาสัมพันธ์ให้สื่อต่างๆ ช่วยสื่อไปถึงลูกหลานทุกบ้าน หากนำเวลาว่างที่มีอยู่ที่บ้านมาใช้ประโยชน์ เสริมจากห้องเรียน ก็จะไปสู่ 4.0 ตามที่ต้องการได้ ถ้าเราไม่ช่วยกัน มัวรอรัฐบาลอย่างเดียวคงไม่ได้ เราต้องเข้าใจการคิดแบบมีกระบวนการ ตรรกะและความจริงคืออะไร ต้องใช้ตรงนั้นเป็นบรรทัดฐาน เพราะบางทีข่าวที่ออกมา พูดรวมหลายอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างอาจจะไม่มีเหตุผลซึ่งกันและกัน แต่ทุกคนไปเชื่อหมด ตรงนั้นอาจทำให้เกิดความวุ่นวายสับสนในสังคมได้ วันนี้ต้องฝากความหวังไว้ที่เด็กๆ และผู้ใหญ่ก็ต้องช่วยกัน เราต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยคนทุกรุ่นทุกวัย รัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริมการโค้ดดิ้งคือ การให้ทุกคนคิดเป็นกระบวนการ เอาคำตอบมาว่าต้องการอะไร คนเราต้องเข้าใจคำว่าขั้นตอนและกระบวนการ การบริหารราชแผ่นดินก็มีขั้นตอน กระบวนการและมีกฎหมายคอนโทรลอยู่ นายกฯ คิดแบบนี้ ขอความเข้าใจไม่เช่นนั้นจะไม่เข้าใจกัน ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว