xs
xsm
sm
md
lg

รวบโบรกเกอร์ขายประกันภัยสาวแสบตุ๋นเหยื่อสูญ 50 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - บช.น.แถลงรวบโบรกเกอร์ขายประกันภัยสาวแสบ ตุ๋นเหยื่อซื้อประกันภัยรถยนต์ เสียหายกว่า 50 ล้าน เคยถูกจับปี 58 แต่ไม่เข็ดกลับมาทำซ้ำ พบมีหมายจับ 6 หมายติดตัว

วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. แถลงข่าวการจับกุม น.ส.จุฑาภาส อังกาพย์ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ข้อหาฉ้อโกง และร่วมกันฉ้อโกง ตามหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ 2 หมายจับ ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ 1 หมายจับ ศาลจังหวัดมหาสารคาม 1 หมายจับ ศาลจังหวัดเชียงราย 1 หมายจับ และศาลจังหวัดเลย 1 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ลานจอดรถอาคารเดอะกั๊มคอนโด เลขที่ 567/397 หมู่ 5 ต.คลองตำหรุ อ.เมืองชลบุรี

พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกว่า 200 รายทั่วประเทศ ได้รับความเดือดร้อนถูกกลุ่มมิจฉาชีพฉ้อโกง หลอกลวงว่าเป็นโบรกเกอร์ขายประกันภัย โทร.ไปหาลูกค้าที่เคยทำประกันภัย และกำลังหมดอายุเพื่อให้ต่อประกันภัย โดยเสนอส่วนลด หรือมอบของกำนัล เช่น กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ เพื่อจูงใจผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี ตกรายละ 10,000-25,000 บาท แต่ไม่ได้มีการทำประกันภัยรถยนต์แต่อย่างใด ผู้เสียหายจำนวนมากร้องเรียนไปยังที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เทสโก้ โบรกเกอร์ และหน่วยงานต่างๆ ผู้เสียหายได้รวมตัวแจ้งเตือนในสื่อสังคมออนไลน์ หน่วยงานต่างๆ ให้ระวังตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ กลุ่มคนร้ายก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทุนประกันเกินกว่า 50 ล้านบาท จึงสั่งการให้ บก.สส.เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี

พล.ต.ท.ชาญเทพกล่าวต่อว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า น.ส.จุฑาภาสก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี แต่ยังไม่ยอมเลิก มาเปิดบริษัทใหม่กระทำความผิดซ้ำอีก โดยเพิ่มรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากขึ้นยากต่อการสืบสวนติดตามจับกุม น.ส.จุฑาภาสเคยทำงานเป็นตัวแทนขายประกันภัย จึงรู้ช่องทางในการติดต่อซื้อขายประกันภัย รวมถึงมีช่องทางเข้าถึงข้อมูลของลูกค้า ผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทหลายบริษัท และเปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัทเพื่อให้น่าเชื่อถือว่าเป็นโบรกเกอร์ขายประกันภัย เช่น บริษัท ที.ไอ.เอส ควอลิตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด, บจก.ไอ.ซี.มอเตอร์ เซลล์ เซอร์วิส จากนั้นโทร.ไปหาเหยื่อหลอกให้ซื้อประกันภัยรถยนต์ เมื่อเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี ผู้ต้องหาจะถอนเงินไปใช้โดยที่ไม่ได้เอาเงินไปทำประกันทำให้เหยื่อได้รับความเสียหายและเดือดร้อนเมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ

พล.ต.ต.อัจฉริยะกล่าวว่า การทำประกันภัยรถยนต์ลักษณะแบบนี้ ควรตรวจสอบจากตัวแทนน่าเชื่อถือ หรือติดต่อกับบริษัทประกันภัยด้วยตนเอง ไม่ควรทำประกันผ่านตัวแทนที่ไม่เคยรู้จัก โดยเฉพาะกรณีที่มีการแจกสิ่งของเพื่อจูงใจ หรือมีราคาถูกเป็นพิเศษ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ในท้องที่เกิดเหตุ เพื่ออายัดตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดี เบื้องต้นพบว่า น.ส.จุฑาภาสถูกออกหมายจับ 6 หมาย มีผู้แจ้งความไว้ 8 คดีอยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับ และผู้เสียหายอีก 30-40 คน รวมตัวกันแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม ผู้ที่ถูกหลอกลวง หรือจะขอคำปรึกษาได้ที่ เฟซบุ๊ก “วิเคราะห์ข่าว นครบาล” เป็นเฟซบุ๊ก ของกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บก.สส.บช.น.) นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ กองปราบปราม นายสุภวัฒน์ ถาวรทวีวงษ์ อายุ 36 ปี พนักงานบริษัท พร้อมด้วยผู้เสียหายจำนวน 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผบก.ป. เพื่อติตามคดีที่กลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกให้ซื้อประกันภัยรถยนต์แต่กลับไม่ได้รับการคุ้มครอง

นายสุภวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมทติดตามความคืบหน้ากรณีที่ผู้เสียหายหลายรายร่วมทั้งตนด้วยที่ถูกกลุ่มคนร้ายหลอกขายประกันภัยรถยนต์ โดยได้แจ้งความไว้ที่กองปราบแล้วเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.สส.บช.น.จับกุมคนร้ายได้แล้ว จึงได้มาติดตามความคืบหน้าที่กองปราบ และยังได้พาผู้เสียหายรายอื่นมาแจ้งความเพิ่มเติม
นายสุภวัฒน์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะเร่งดำเนินการให้ภายใน 7 วัน สำหรับการดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้ในความผิดฐานกระทำการเป็นตัวแทนประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันวินาศภัยโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ส่วนกรณีของผู้เสียหายรายใหม่ ขอให้ไปดำเนินแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง ตามท้องที่ที่เกิดเหตุของแต่ผู้เสียหาย



กำลังโหลดความคิดเห็น