ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คืบหน้าคดีเผานั่งยางนักธุรกิจสาวใหญ่ ในพื้นที่ป่าพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนท.นำชิ้นส่วนกระดูกส่งตรวจเอกลักษณ์บุคคลว่าตรงกันหรือไม่ ด้านตำรวจเร่งล่าอดีตสามีผู้ต้องสงสัยเกือบจับตัวได้ พร้อมกันพื้นที่บ้านพักจุดเกิดเหตุเป็นเขตหวงห้าม
ความคืบหน้าคดีพบศพเผานั่งยางเหลือเพียงเศษกระดูก ในป่าพรุพื้นที่บ้านท่านางหอม หมู่ 5 ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) เบื้องต้นจากหลักฐานที่พบ ทั้งแหวนเพชรและฟันปลอม น่าจะเป็นศพของ น.ส.ภิญญดา แป้นจันทร์ อายุ 48 ปี นักธุรกิจขายตรง และขายประกันที่ญาติแจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (2 มิ.ย.) พ.ต.อ.สืบสกุล มณีนวล ผู้กำกับการสอบสวน สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ขั้นตอนของคดียังอยู่ระหว่างการส่งเศษกระดูกที่พบไปให้แพทย์ฝ่ายนิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ตรวจพิสูจน์เพื่อยืนยันเอกลักษณ์บุคคลว่าเป็นศพของ น.ส.ภิญญดา จริงหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ จากนั้นก็จะนำไปสู่ขั้นตอนของการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลพร้อมหมดแล้ว และน่าจะเป็นอดีตสามีเก่า
ในส่วนของการติดตามตัวอดีตสามีซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย ทางชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้ลงพื้นที่หาเบาะแส โดยเมื่อวานนี้เกือบได้ตัวแล้ว แต่เมื่อผู้ต้องสงสัยทราบทางสื่อมวลชนว่าพบศพ น.ส.ภิญญดา ก็ได้ชิ่งหนีไปทันที โดยหลบหนีออกนอกพื้นที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่พบทราบเบาะแสแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยเป้าหมายในการติดตาม เพื่อไม่ให้ผู้ต้องสงสัยไหวตัวทัน
ด้าน พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า คดีนี้ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา และ สภ.คอหงส์ เร่งสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ ให้รัดกุมที่สุด เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกัน 2 พื้นที่ หากผลตรวจออกมาว่าเป็นศพของ น.ส.ภิญญดา ก็สามารถออกหมายจับได้ทันที
ส่วนบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 418/7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ภิญญดา และคาดว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่ถูกฆ่าตายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้เข้าเก็บหลักฐานเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงกันเป็นเขตหวงห้ามเพื่อป้องกันการทำลายหลักฐาน
มีรายงานจากชุดสืบสวนถึงสาเหตุของการฆ่าว่า แม้ว่าทั้งผู้ตาย และอดีตสามีจะเลิกรากันไปแล้ว แต่พักหลังสามีได้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังเดียวกัน ในวันเกิดเหตุคืนวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีปากเสียงกันในเรื่องที่อดีตสามี ขอเงินผู้ตายใช้เพียงไม่กี่ร้อยบาท แต่อาจจะทำให้ผู้ตายอารมณ์เสียหรือหงุดหงิด จึงมีปากเสียงกัน และบานปลายถึงขั้นฆ่ากันตาย ส่วนวิธีการฆ่ายังไม่สามารถระบุได้ ก่อนที่จะนำศพมาเผาทำลายหลักฐาน และหนีไปพร้อมกับรถเบนซ์