ส.ว.ประภาศรี เห็นใจไกด์ตกงาน 3 หมื่นคนเดือดร้อนหนักโดนพิษโควิด-19เล่นงาน ตามด้วยธุรกิจท่องเที่ยว แนะรัฐบาลตั้งวอร์มรูมเศรษฐกิจออกมาตรการช่วยเหลือด่วน
นางประภาศรี สุฉันทบุตร ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง วุฒิสภา เปิดเผยว่า รู้สึกเห็นใจ ผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์หรือไกด์ที่ต้องตกงานไม่น้อยกว่า 30,000 คน จากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนระงับการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเมื่อวันที่29ก.พ.ที่ผ่านมา สมาพันธ์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย จัดประชุมมัคคุเทศก์ที่จังหวัดกระบี่ มีการสะท้อนปัญหาการยกเลิกทัวร์จากจีนเกือบทั้งหมด ส่งผลให้ มัคคุเทศก์ ไม่มีงานทำขาดรายได้ต้องการให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
“ไม่เพียงแต่มัคคุเทศก์และบริษัททัวร์เท่านั้นที่เดือดร้อน แต่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเป็นวงจรกับการท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย เช่น โรงแรมที่พัก ภัตตาคาร ร้านอาหาร สวนสนุก ร้านขายสินค้าต่างๆ“
นอกจากนี้ ยังกระทบถึงการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม จากข้อมูลที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแถลงล่าสุดระบุว่า ปี2562 สถานประกอบการปิดกิจการ 1,107 แห่ง ลูกจ้างตกงานเป็นจำนวนมาก ตนเชื่อว่าปี 2563 หากเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทอดระยะเวลาออกไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก็จะยิ่งทำให้ธุรกิจต่างๆเพิ่มจำนวนการปิดตัวและลูกจ้างต้องตกงานจำนวนมาก ความเดือดร้อนหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะรับได้
นางประภาศรี กล่าวเสนอแนะว่ารัฐบาลควรจะตั้งคณะกรรมการเศรษฐกิจชุดพิเศษหรือที่เรียกว่าวอร์รูมเศรษฐกิจ เพื่อกำหนดมาตรการ การช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยวอร์รูมนี้ประกอบด้วยรัฐมนตรี ข้าราชการประจำ หน่วยงานภาคการเงิน การธนาคาร องค์กรภาคธุรกิจเอกชน เช่นสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย เป็นต้น
‘การแก้ปัญหาต้องบูรณาการร่วมกัน ต่างคนต่างทำไม่ได้ หากรัฐบาลตั้งหลักได้เร็วเท่าไรก็จะบรรเทาความเสียหายและความเดือดร้อนของผู้ประกอบการธุรกิจและลูกจ้างพนักงานได้เร็วเท่านั้น’ นางประภาศรี กล่าว