“บิ๊กตู่” สบายใจหลังสภาโหวตไว้วางใจ ชี้ยังมีหลายอย่างรอให้เผชิญอยู่ข้างหน้า ยันไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ยืนยันไม่มีการปรับ ครม. ย้ำยังไม่ถึงเวลา
วันนี้ (28 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.20 น. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโหวตลงมติไว้วางใจด้วยคะแนน 272 ว่า ทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งหมดเป็นเรื่องของสภาฯ และการประชุมเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ได้ทำตามข้อบังคับ เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและรัฐธรรมนูญทุกประการ ตนต้องขอขอบคุณทุกคนและประชาชนและประชาชนที่ให้กำลังใจกับรัฐบาล
“ผมจะทำทุกอย่างให้กับทุกคน วันนี้ก็ได้สบายใจไปอีกอย่างหนึ่งเพราะได้ผ่านพ้นตรงนี้ จะได้ไปทำงานด้านอื่นๆ ซึ่งมีอีกหลายงานที่รออยู่ และนี่คือความจำเป็นของรัฐบาลที่ต้องทำงานที่ต้องทำงานและเตรียมการในด้านงบประมาณ ได้มีการประกาศใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าทุกโครงการที่รัฐบาลทำไปจะลงไปสู่กลุ่มต่างๆ ให้ครบทุกกลุ่ม ทั้งประชาชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มผู้ใช้แรงงาน รวมทั้งมนุษย์เงินเดือนต่างๆ แต่ก็ขึ้นกับว่าเราจะมีงบประมาณมากน้อยเพียงใด เพราะมีงบประมาณทั้งที่ลงไปถึงมือประชาชนโดยตรงซึ่งต้องมาพิจารณาร่วมกันอีกหลายกระทรวง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญวันนี้เราต้องให้ความสำคัญต่อปัญหาภัยแล้ง เรื่องเศรษฐกิจภาพรวม ซึ่งมีมาตรการหลายอย่างที่จะลงไปโดยตรง ทั้งเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งมาตรการของกระทรวงการคลัง เงินทุน การลดอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่างการหารือ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและ พร.บ.งบประมาณรวมทั้ง พ.ร.บ.การเงินการคลังด้วย ซึ่งรัฐบาลต้องทำงานให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงต้องขอโทษที่หลายอย่างอาจมีความล่าช้าไปบ้าง แต่ตนพยายามเร่งรัด และทุกหน่วยงานก็รับปากจะทำให้เร็วที่สุด สิ่งที่รออยู่ข้างหน้าไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง แต่เราต้องให้ความสำคัญกับประเทศที่ต้องเผชิญกับหลายสิ่งหลายอย่างในขณะนี้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทั้งนี้เรื่องที่พูดกันในสภาที่ระบุว่าตนได้ไปรับปากกับประเทศต่างๆ นั้น ไม่จริงเป็นเพียงการไปรับข้อมูลต่างๆ และต้องนำมาพิจารณาภายในประเทศซึ่งมีหลายขั้นตอนในทุกๆเรื่อง สิ่งสำคัญที่สุดคือการค้าการลงทุน เพราะโลกไร้พรมแดนแล้ว ยอมรับว่ามีปัญหาบ้างในเรื่องของสินค้าประเทศมีการจำกัด ของเราก็มีการห้ามบางอย่าง ยืนยันว่ารัฐบาลคิดในทุกแง่ทุกมุม พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกคนโดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ไม่ได้ฟังเฉพาะกลุ่มที่เชียร์หรือรัก ยิ่งว่าก็ยิ่งต้องดูว่ามีปัญหาอะไรจะต้องแก้ปัญหาให้เขาด้วย เราต้องพิจารณาตัวเองว่าอะไรยังบกพร่องอยู่หรือยังมีปัญหา ทั้งในเรื่องการสร้างความเข้าใจ มาตรการและการปฏิบัติต้องทำให้ทุกคนยอมรับได้ แต่แน่นอนว่าไม่มีใครเห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนรุ่นใหม่ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับคนทุกวัยตั้งแต่อยู่ในท้องมาถึงแม่เลี้ยงลูก จนถึงอายุ 15 ปี มีงบประมาณในการดูแลสูงขึ้น
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ถ้าเราทำอะไรไม่ได้เลย แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาดูแล สิ่งที่จำเป็นต้องร่วมมือและช่วยกันวันนี้คือ การทำตามแนวทางของในหลวง ร.๙ ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ที่สามารถใช้จ่ายเงินได้แต่ต้องมีเหตุผลพอประมาณและมีภูมิคุ้มกันที่ดี โดยต้องประเมินตัวเองแต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนยากจนทั้งหมด ทั้งนี้หลายมาตรการที่รัฐบาลออกมาเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ อย่างไรก็ตาม ตนเองในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจก็ไม่ได้สั่งทั้งหมด พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกคน และการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนที่เข้ามาและเจอหน้ากันนั้น เป็นการเชิญมาร่วมมือกับรัฐบาล ไม่ใช่ไปบอกก่อนว่าเราจะทำอะไรไม่ใช่ไปบอกก่อนว่าเราจะทำอะไร ดังนั้นอย่าคิดว่าอะไรก็เอื้อประโยชน์กันทั้งหมด ประเทศไทยอย่างไรคนไทยก็ต้องลงทุนร่วมกัน แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย สิ่งสำคัญที่สุดประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด รวมทั้งประเทศชาติต้องได้ประโยชน์ไปด้วย ดังนั้นขอร้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลชุดนี้บ้างเราทำงานด้วยความตั้งใจ ซื่อสัตย์สุจริตทุกประการ อะไรที่เป็นปัญหาก็ให้กระบวนการยุติธรรมว่ากันไป ตนไม่ได้กล่าวอ้างหรือคัดค้านอะไรทั้งสิ้น
“ทุกคนต้องเคารพกระบวนการยุติธรรม ผมก็คงไปบังคับใครไม่ได้ ถ้าทุกคนต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขต้องเริ่มจากที่ตัวเองก่อนรัฐบาลไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น เราเผชิญกับความขัดแย้งมานานแล้วเป็นสิบๆ ปี เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสจากศักยภาพที่มีอยู่ และขอขอบคุณอีกครั้งขอให้ช่วยกันกับผม ขอให้ช่วยกันกับผม ถ้าไม่อยากให้ผมก็ขอให้ช่วยประเทศชาติ ช่วยประชาชนของเรา วันนี้งบประมาณก็ลงไปเกือบทุกท้องถิ่นแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่หากวันข้างหน้ายังมีความจำเป็นเพิ่มเติมก็ยังมีงบกลางอยู่ รัฐบาลนี้ทำงานโดยมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนถ้าไม่มียุทธศาสตร์มันทำอะไรไม่ได้ งานจะมาเป็นจ็อบเรื่องๆ เราต้องวางหลักเกณฑ์ให้ได้ไม่เช่นนั้นจะกลับไปสู่ที่เดิม เพราะความเจริญเราไม่เท่ากัน โอกาสจึงไม่เท่ากัน”
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยืนยันว่า “ไม่มีการปรับ” เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้โผ ครม.เตรียมพร้อมไว้แล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยบางส่วนจะมาร่วมด้วยหากเป็นเช่นนั้นต้องเกลี่ยสัดส่วน ครม.ใหม่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่าเอาข่าวมาจากไหน
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า หลังจากนี้เสียงของรัฐบาลจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่หลังจากผลโหวตมีคะแนนเพิ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังหารือกันอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยสีหน้าเรียบเฉยและใช้เวลาให้สัมภาษณ์ยาวถึง 12 นาที ก่อนจะเดินทักทายพร้อมถ่ายรูปกับเจ้าหน้า ประจำรัฐสภาเพื่อเป็นที่ระลึก ก่อนจะเดินทางกลับไปยังทำเนียบรัฐบาลทันที โดยนายกฯ ไม่มีวาระงานอย่างเป็นทางการ แต่ใช้เวลาในการตรวจเอกสารและโครงการต่างๆ ภายหลัง พ.ร.บ.งบประมาณมีผลบังคับใช้