นายกฯ แจงส่งท้ายศึกซักฟอก ขอบคุณสภาและคนไทย ให้โอกาส รบ.ชี้แจงข้อเท็จจริง ย้ำต้องปฏิรูปไปด้วยกันทุกมิติ อาจมีถ้อยคำรุนแรงก็ต้องขออภัย ถือเป็นมิติใหม่ของการทำงานบริหารประเทศ ยอมรับบ้านเมืองยังมีปัญหาอีกมาก แต่ขอทุกคนร่วมด้วยช่วยกันเพื่อบ้านเมือง
วันนี้(27 ก.พ.) เวลาประมาณ 18.50 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกครั้ง โดยย้ำว่ารัฐบาลมีมาตรการเตรียมการรองรับทั้งเรื่องภัยแล้ง ไวรัสโคโรนา และเรื่องการลงทุนต่างๆ ซึ่งเริ่มชัดเจนเมื่อมีงบประมาณปี 2563 ออกมาแล้ว จึงขอชี้แจงเพิ่มเติมเพียงเท่านี้และขอบคุณประชาชน สมาชิกผู้ทรงเกียรติ รวมถึงคนไทยทุกคนที่ร่วมกันรับฟังอภิปรายตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา ถือว่าทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน ควรร่วมกันรับรู้ข้อเท็จจริง เข้าใจการปฏิบัติงานของรัฐบาล และสภาฯ ที่เลือกตั้งเข้ามา และขอขอบคุณประธานรัฐสภาและส.ส.ทุกคน ที่ให้โอกาสฝ่ายรัฐบาลได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องรับฟังข้อมูลของแต่ละฝ่าย และสุดแล้วแต่ว่าจะเชื่อมั่นในทางใด ด้วยหลักฐาน กระบวนการ วิธีการต่างๆ นั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีความเห็นว่าเราจะต้องปฏิรูปไปด้วยกันในทุกมิติ ทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ดังนั้นการอภิปรายในสภาฯ ครั้งนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะการรักษากติกา การรักษากฎเกณฑ์ระหว่างกัน บางครั้งอาจจะมีถ้อยคำต่างๆ ที่มีความรุนแรงกันบ้าง แต่ก็ต้องขออภัยประชาชนด้วย ในฐานะที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ร่วมกับรัฐบาลทุกคน ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วมในการอภิปรายในครั้งนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลายเรื่องต้องใช้เวลาชี้แจงนานพอสมควร แต่ล้วนเป็นสาระและประโยชน์ซึ่งอธิบายทุกอย่าง ไม่ว่าจะขั้นตอน กระบวนการ และการออกกฎหมายทั้งหมด ซึ่งการทำงานของรัฐบาลวันนี้ ได้เปิดมิติใหม่และร่วมมือกันสร้างความเข้าใจในระบบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายให้ตรงกัน ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ต้องการจะแก้ไขเกิดขึ้นไม่ได้การปฏิรูปจะไม่เกิดขึ้นเครื่องต้องทำใหม่แก้ไขของเก่าให้เกิดความยั่งยืนซึ่งขณะนี้มีปัญหาหลายเรื่องหลายประการทั้งความมั่นคงเศรษฐกิจสังคมการลดความเหลื่อมล้ำแก้ปัญหาความยากจนการสร้างเศรษฐกิจใหม่การลงทุนเพื่ออนาคตลูกหลานหากไม่เข้าใจกันก็จะทำอะไรไม่ได้เลยได้ทุกอย่างก็กลับไปที่เดิม
“ยืนยันว่าผมใช้อำนาจตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดินทุกประการและขอขอบคุณอีกครั้งยืนยันกับประชาชนว่าจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุดหากมีสิ่งใดที่จะทำได้เพิ่มเติมจาก จากคำแนะนำของบรรดาสมาชิกผู้ทรงเกียรติทั้งหลายซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนที่เลือกเข้ามาโดยตนเองจะทำงานโดยไม่เลือกพื้นที่ไม่เลือกภาค ให้ทั่วถึงทุกภาคทุกกลุ่มทุกจังหวัดทุกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนตามความเร่งด่วนซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 5 ปี 7 เดือนจะต้องทำให้ต่อเนื่องโดยรัฐบาลต้องระมัดระวังเรื่องกฎหมายความถูกต้องความชอบธรรมและความเท่าเทียมอย่างแท้จริงคำนึงถึงคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายเพราะไม่ใช่ศัตรูกัน”
นายกรัฐมนตรียอมรับว่าเรายังมีปัญหาอีกมากทั้งปัญหาเก่าและปัญหาใหม่ โดยทั้งปัจจัยภายในและภายนอก คนไทยยุคใหม่ต้องยอมรับว่ามีความคิดกระตือรือร้นในการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นหน้าที่พวกเราทุกคนในการช่วยกันสร้างความเข้าใจให้บุคคลเหล่านั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ศัตรูกัน เพราะทุกคนล้วนเป็นลูกหลานเราทั้งสิ้น ไม่ว่าจะใครก็ตามวันนี้จะต้องนำพาประเทศไปสู่ความสงบสุขร่มเย็น ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่าตนเองเข้ามาด้วยวิธีการใด และขอให้คำนึงถึงรัฐธรรมนูญกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับที่เกี่ยวข้องไม่เช่นนั้นปัญหาก็เกิดขึ้นอีก และความสงบสุขจะมากขึ้นจะเป็นเช่น 5 ปี 7 เดือนที่ผ่านมาหรือไม่ก็ฝากไว้ในมือทุกคน
“เราไม่ต้องการรีดภาษีจากคนจน แต่ต้องการจัดรูปแบบอย่างเป็นธรรมมากขึ้นและอย่างต้องใช้ความพยายามอย่างมากผ่านแรงเสียดทานมากในระยะเวลา 5 ปี 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเผชิญปัญหาหลายประการด้วยกัน และคิดว่าพวกเราทุกคนที่ร่วมมือกันในวันนี้ระหว่าง 3 วันที่ผ่านมาก็คงจะช่วยการทำความเข้าใจการเมืองก็คือการเมืองการบริหารแผ่นดินก็คือการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมดเกี่ยวข้องหมด รวมถึงกระบวนการยุติธรรมด้วย ทั้งเรื่องที่ดิน เรื่องการบริหารจัดการน้ำที่มีความเดือดร้อน ต้องช่วยกันแก้ไขและเตรียมความพร้อมดีกว่าที่จะให้มีความขัดแย้งกันต่อไป สิ่งสำคัญทุกฝ่ายต้องเข้าใจกันเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ซื่อสัตย์ รักษาสิทธิ์ เคารพกฎหมาย เผื่อแผ่แบ่งปันความดีตอบแทนแผ่นดิน ภายใต้พระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อนำความสงบสุขของเราคืนมา”พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทิ้งท้าย