“วัฒนา” โต้ “ปิยบุตร” เพื่อไทยยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการมาก่อนจะมีพรรคอนาคตใหม่ ปัดข้อครหาจงใจยื้อเวลาอภิปรายฯ “บิ๊กป้อม” บอกเป็นพรรคที่ถูกรังแกจากเผด็จการมากที่สุด
หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามที่ได้ยื่นญัตติไว้ เนื่องจากเวลาที่ตกลงกันไว้ไม่เพียงพอ และต้องปิดการอภิปรายเมื่อเวลาประมาณ 19.10 น.วานนี้ (27 ก.พ.) หลังจากนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียว่า สาเหตุที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้อภิปราย เนื่องจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยใช้เวลาเกินและแซงคิว และทำลายข้อตกลงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า พรรคเพื่อไทยแอบมีข้อตกลงกับฝ่ายรัฐบาลที่จะไม่ให้มีการอภิปราย พล.อ.ประวิตรหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ (28 ก.พ.) นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก “Watana Muangsook” ตอบโต้เตือนสติ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ออกมาโพสต์ข้อความแฉเบื้องหลังการเจรจากับพรรคเพื่อไทยในการจัดผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี แต่เพื่อไทยทำผิดข้อตกลงเหมือนเป็นการช่วยฝ่ายรัฐบาล ว่าพรรคเพื่อไทยต่อสู้เผด็จการมาก่อนพรรคอนาคตใหม่ โดยเนื้อหาระบุว่า
“เย็นวานนี้ พรรคฝ่ายค้านซึ่งรวม อนค.มีมติวอล์กเอาต์
(walk out) จากห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรเนื่องจากฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมให้ฝ่ายค้านอภิปรายต่อทั้งที่ยังมีเวลา จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านยกเว้นสมาชิกจาก อนค.ไม่ได้ประชุมด้วย ที่ประชุมมีมติร่วมกันว่าจะประท้วงโดยการไม่มาลงมติปล่อยให้รัฐบาลลงมติกันไปเอง
การวอล์กเอาต์ หรือการไม่ไปลงมติ คือการประท้วงหรือการแสดงความไม่พอใจ อันถือเป็นการแสดงออกทางการเมืองแบบหนึ่ง ก่อนหน้านี้พรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งรวม อนค.ก็เคยปฏิบัติกรณี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลขอให้มีการนับคะแนนใหม่ในการลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบตามมาตรา 44 เมื่อประธานอนุญาตให้ลงมติใหม่ด้วยการขานชื่อ พรรคฝ่ายค้านซึ่งรวม อนค.ด้วยก็ประท้วงโดยการไม่ลงมติ การไม่ลงมติจึงไม่ใช่เรื่องใหม่และไม่ได้หมายความว่าไม่ทำงาน
พรรคเพื่อไทยถูกกล่าวหาว่าจงใจอภิปรายยืดเยื้อเพื่อให้หมดเวลาอภิปราย พล.อ.ประวิตร ผมไม่โกรธที่เพื่อนกล่าวหาเราแบบนั้น เพียงอยากเตือนสติว่าพรรคเพื่อไทยยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการมาก่อนจะมีพรรค อนค. และเป็นพรรคที่ถูกรังแกจากเผด็จการมากที่สุด ผมยอมรับว่าคนของพรรคมีส่วนผิดที่คุมเวลาไม่ได้ แต่คนของเพื่อไทยก็เสียสิทธิอภิปรายหลายคนเช่นกัน การจัดลำดับอภิปราย พล.อ.ประวิตรเป็นคนสุดท้ายก็เป็นมติของพรรคร่วม ดังนั้น ข้อกล่าวหาว่ามีการวิ่งเต้นเพื่อไม่อภิปรายใครจึงเป็นการกล่าวหาลอยๆ ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียหาย วิธีการแบบนี้ผมไม่คุ้นเพราะไม่เคยระแวงหรือกล่าวหาเพื่อนโดยไม่มีหลักฐาน แม้จะมีข่าวว่าเพื่อนแอบไปคุยกับทหารมาก็ตาม
วัฒนา เมืองสุข 28 กุมภาพันธ์ 2563”