xs
xsm
sm
md
lg

“ธนาธร”วันที่ขาดทุนป่นปี้-เจ็บปวดแบบต้องตีอกชกหัว !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

แม้ว่าหลายคนมีความเห็นตรงกันแล้วว่าสำหรับพรรคอนาคตใหม่ก็คงหมายถึง นายธนาธร จึงงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค หรืออาจจะแถม “ช่อ” น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคไปด้วยอีกคน ซึ่งตั้งแต่ตอนเย็นวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตำแหน่งของทั้งสามคนก็เป็นอดีตไปแล้วก็ตาม แต่สำหรับคอการเมืองที่ติดตามแบบใกล้ชิด ก็จะเข้าใจได้ไม่ยากว่าทุกอย่างในพรรคอนาคตใหม่ล้วนมาจากการ “ลงทุน” ของ นายธนาธร เพียงคนเดียวเท่านั้น

ส่วนคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็น นายปิยบุตร น.ส.พรรณิการ์ ล้วนเป็นแค่องค์ประกอบ ที่มาตามเส้นทางความสัมพันธ์ทั้งแบบเพื่อน หรือมีแนวทางความคิดในแบบเดียวกัน แต่อย่างที่บอก “คนที่ลงทุน” ล้วนมาจาก นายธนาธร และมาจากธุรกิจในครอบครัวของเขาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นไม่น่าแปลกใจว่าการถูกยุบพรรคอนาคตใหม่ และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งเหมือนกับโทษประหารดับอนาคตแทบจะสิ้นเชิงแล้ว

ที่บอกว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ล้วนเป็นทุกอย่างของพรรคอนาคตใหม่ ที่แม้แต่ที่ทำการพรรคก็ยังใช้ตึกของบริษัทไทยซัมมิท ถนนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งอย่างที่รู้กันก็คือธุรกิจในเครือบริษัทนี้เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับชิ้นส่วนยานยนต์ และรถยนต์ ซึ่งถือเป็นทุนใหญ่กลุ่มหนึ่งในประเทศไทย

ดังนั้นก็ต้องเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่า นายธนาธร และครอบครัวได้ทำธุรกิจที่แสวงหากำไร ไม่ได้ทำมูลนิธิเพื่อการกุศลแต่อย่างใด มีการคาดกันว่ามีทรัพย์สินรวมกันนับหมื่นล้านบาท

ส่วนแนวความคิดทางการเมืองก็ต้องมาว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่ต้องปูพื้นแบบคร่าวๆดังกล่าวเพื่อให้เห็นถึงแบ็กกราวด์ว่าเขามาจากไหน โดยเฉพาะแนวทางการเมืองในแบบที่เรียกว่า “นายทุนที่สร้างจุดขายเป็นฝ่ายซ้าย”หรือเปล่า เพราะหากพิจารณาจากข้อร้องเรียนกล่าวหาในอดีตเมื่อไม่กี่ก่อนบริษัทในเครือไทยซัมมิทที่เคยมีข้อพิพาทในเรื่องสวัสดิการการจ้างแรงงาน และถูกร้องเรียนในเรื่องการกดขี่ข่มเหงด้านสิทธิของพนักงาน ในย่านนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกจนเป็นเรื่องอื้อฉาวกันมาแล้ว

ดังนั้นหากพิจารณาจากแนวทางการทำธุรกิจของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจจึงถือว่าเป็น “นายทุน” อย่างเต็มตัว เพียงแต่ว่า “มีแนวทางแบบฝ่ายซ้าย” ส่วนจะเป็นฝ่ายซ้ายที่เห็นใจคนยากไร้จริงหรือไม่นั้น ในทางการเมืองในแบบรัฐสภาก็คงต้องรอไปอีก 10 ปีให้หลังจากนี้เสียก่อน เพราะพรรคอนาคตใหม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไปแล้ว จากความผิดกรณีปล่อยเงินกู้ให้กับพรรคจำนวน 191.2 ล้านบาท ตามที่ทราบรายละเอียดกันไปแล้ว

แม้ว่านาทีนี้ยังเป็นที่จับตามองกันว่าแนวทางใหม่ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวกที่ต้องเล่นบทการเคลื่อนไหนการเมืองนอกสภาในชื่อ “คณะอนาคตใหม่”ที่ประกาศออกมาทันควันหลังถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยย้ำว่าจะเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นต่อไปโดยจะมีการรณรงค์ไปทั่วประเทศ จะสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ หรือเป็นเพียงการคำพูดที่แสดงอารมณ์โกรธจนต้องหลุดโพล่งออกมาเท่านั้น

อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงทางการเมืองในเวลานี้ก็ต้องยอมรับมีความกระเพื่อมอยู่บ้างหลังจากพรรคอนาคตใหม่ถูกสั่งยุบ แต่ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบกับการยุบพรรคไทยรักไทยของ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อหลายปีก่อนอารมณ์ความอ่อนไหวของมวลชนต่างกันแทบจะสิ้นเชิง ครั้งนั้นอารมณ์ความรู้สึกคลั่งใคล้ของมวลชนผู้สนับสนุนยังอยู่ในจุดที่เรียกว่า “พีค” และสร้างแรงสั่นสะเทือนมาจนถึงวันนี้ แม้ว่าจะลดน้อยถอยลงจนแทบไม่มีพลังแล้วก็ตาม

ดังนั้นเมื่อเทียบเคียงกับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกสั่งยุบจากการกฎหมายพรรคการเมืองในเวลานี้ถือว่ายังต่างกันลิบลับ อีกทั้งอารมณ์สนับสนุนก็ยังเป็นมวลชนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ก็คงไม่ใช่ทั้งหมด ที่สำคัญหากยอมรับความจริงก็ต้องไม่ปฏิเสธผลที่ออกมาวันนี้ล้วนมาจากการกระทำส่วนตัวของ เขาเองที่ผิดพลาดเอง ตั้งแต่เรื่องการถือหุ้นสื่อบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด จนต้องพ้นสภาพการเป็น ส.ส.มาแล้วก่อนหน้านี้

ที่ผ่านมาจะว่าไปแล้วหากพิจารณาจากมวลชนก็ต้องยอมรับว่ามีการ “ถ่ายเท” หรือ “ยืม” มาจากเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย ดังที่พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา หลังความผิดพลาดจากยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พัน” ของ นายทักษิณ ชินวัตร ทำให้พอมองออกว่ามวลชนที่สนับสนุนและเข้าใจแนวทางของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยังมีไม่มากพอ อีกทั้งเมื่อพิจารณาตามความเป็นจริงแนวความคิด “ฝายซ้าย”แบบนี้ก็มีมาทุกสมัย อยู่คู่กับสังคมไทยมาตลอด

แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจสรุปว่าหนทางข้างหน้าจะมีบทสรุปแบบไหนสำหรับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แต่เมื่อพิจารณาจากรูปการณ์และมวลชลจริงที่มีอยู่ถือว่ายังไม่น่าจะมีพลังที่แรงพอ ที่จะสร้างความชอบธรรมจนเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบขนานใหญ่ อีกทั้งอีกฝ่ายก็มีการปรับตัวสู้อยู่ตลอดเวลา มันถึงไม่ง่าย ขณะเดียวกันหากระบุว่าในตอนนี้ถือว่าเขาขาดทุนป่นปี้ และพลาดแบบต้อง “ตีอกชกหัวตัวเอง” ที่พึ่งพาใช้งานคนไร้ประสบการณ์ เคลื่อนไหวแบบกิจกรรมนักศึกษา มันถึงต้องมีสภาพอย่างที่เห็น !!


กำลังโหลดความคิดเห็น