“ศรีสุวรรณ” จี้ กกต.เร่งดำเนินคดีอาญา อนค.-ธนาธร-ยึดเงินเข้ากองทุนฯ หลังศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคปมเงินกู้ เรียกเงินจากพรรคกว่า 181 ล้านบาท เข้ากองทุนพัฒนาการเมือง
วันนี้ (24 ก.พ.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.ขอให้พิจารณาดำเนินคดีอาญาต่อพรรคอนาคตใหม่ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค จากเหตุพรรคกู้ยืมเงินนายธนาธร จำนวน 191.2 ล้านบาท โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องนี้ตามกฎหมายพรรคการเมือง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 66 ก็จะมีโทษทางอาญา ตามมาตรา 124 และ 125 ซึ่งเป็นโทษทางอาญา ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงคือ กกต.ที่ต้องไต่สวน สอบสวนเพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นอกจากนี้ ตามมาตรา 66 การที่มีผู้บริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท ทาง กกต.จะต้องดำเนินการเรียกเงินที่เกินกฎหมายกำหนด เข้าสู่กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองต่อไป อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เงินที่เป็นรายได้ของพรรคการเมืองจะนำไปใช้ในกิจกรรมอื่นไม่ได้แต่พรรคอนาคตใหม่กลับนำเงินดังกล่าวไปใช้หนี้นายนาธร จึงเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่เป็นไปตามมาตรา 87 ของกฎหมายพรรคการเมืองซึ่งถือว่าเป็นอีกความผิดหนึ่ง การยื่นเรื่องในวันนี้จึงขอให้ กกต.เร่งพิจารณาใน 3 ประเด็นเพื่อเอาผิดทางอาญา และเรียกเงินตามที่กฎหมายกำหนดเข้าสู่กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง และแม้กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่า กกต.ต้องดำเนินคดีหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อใด แต่จากการฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีการระบุว่า กกต.ได้สืบสวนสอบสวนเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา กับพรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น กกต.จึงควรรีบดำเนินการ
นายศรีสุวรรณยังกล่าวถึงการยื่นคำร้องให้ กกต.ตรวจสอบ พรรคการเมืองอื่นที่กู้เงินในลักษณะเช่นเดียวกันกับพรรคอนาคตใหม่ ว่ายังมีพรรคการเมืองอื่นอีก 32 พรรคการเมือง ที่มีลักษณะเทียบเคียงกับพรรคอนาคตใหม่ แต่รายละเอียดของแต่ละพรรคจะแตกต่างกันในการแสดงบัญชีค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองที่ส่งมาให้ กกต. โดยบางพรรคใช้คำว่ากู้ยืม บางพรรคใช้คำว่าเงินทดรองจ่าย และบางพรรคใช้คำว่าเงินยืม ซึ่งแต่ละพรรครายงานยอดเงินมาที่ กกต.ไม่เหมือนกัน แต่มีอยู่ 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ที่รายงานยอดเงินเกินกว่า 10 ล้านบาท จะเอาผิดได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ กกต. เพราะขณะนี้มาตรฐานเกิดขึ้นแล้วจากการเอาผิดพรรคอนาคตใหม่ แต่หาก กกต.ไม่ดำเนินการ ละเลย เพิกเฉย ก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามว่าหากพรรคการเมืองอื่นใช้วิธีการกู้เงินไม่ถึง 10 ล้านบาท อาจเพียง 9 ล้านบาท จะสามารถเอาผิดได้หรือไม่ นายศรีสุวรรณกล่าวว่า มีองค์ประกอบในคำวินิจฉัยหลายเรื่อง ซึ่งการกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ มีการเก็บดอกเบี้ยที่ไม่เท่ากันซึ่งผิดปกติวิสัย โดยจากเงินกู้จำนวน 191 ล้านบาท หากคิดดอกเบี้ยก็ถือว่าเป็นประโยชน์อื่นใด และเมื่อมารวมกับเงินที่นายธนาธรได้บริจาค 8 ล้านบาท เมื่อมารวมกันก็ถือว่าเกิน 10 ล้านบาทแน่นอน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ศาลวินิจฉัยว่าได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย