วิบากกรรม “อนาคตใหม่” ยังไม่หมด “ธนาธร” จ่อถูก กกต.ดำเนินคดีอาญาซ้ำฐานบริจาคเงินเกินกฎหมายกำหนด โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน ถอนสิทธิเลือกตั้งอีก 5 ปี ส่วนพรรคผิดฐานรับบริจาคเงินเกินกำหนด โทษปรับ 1 ล้านบาท เพิกถอนสิทธิ กก.บห.พรรค 5 ปี ยึดเงินที่เกิน 10 ล้านบาท เข้ากองทุน ถ้าไม่มีเงินเหลือต้องไล่เบี้ยเอากับ กก.บห.พรรค แถมจ่อโดนอีกคดี ฐานเอาเงินรายได้พรรคไปใช้หนี้เงินกู้หัวหน้า ผิด ม.87 พ.ร.ป.พรรคการเมือง
วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี จากคดีที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาทแล้ว กกต.จะมีการไปดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร ในความผิดบริจาค และพรรคอนาคตใหม่ในความผิดรับบริจาคเงินเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ซึ่งตามมตรา 124 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองได้กำหนดไว้ว่า ผู้ใดบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้น 5 ปี
นอกจากนี้ มาตรา 125 กำหนดไว้ว่า พรรคการเมืองใดรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด มีมูลค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น 5 ปี และให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดส่วนที่เกินมูลค่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 10 ล้านบาทตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ทั้งนี้ เงินที่กู้มา 191 ล้านบาท ซึ่งศาลชี้ว่าผิดกฎหมายและต้องตกเข้าเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง หากพบไม่มีเงินเหลือต้องบังคับเอากับคณะกรรมการบริหารพรรค ในลักษณะแบบลูกหนี้ร่วมของกองทุนฯ และหัวหน้าพรรคต้องส่งบัญชีให้นายทะเบียน ภายใน 30 วัน เพื่อชำระบัญชีเนื่องจากพรรคถูกยุบ หากมีการฝ่าฝืนมีโทษปรับและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ทั้งนี้ ในการดำเนินคดีอาญาในความผิดดังกล่าว คณะกรรมการไต่สวนของ กกต.ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนของการแจ้งข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม กกต.อาจจะมีการดำเนินคดีอาญาจากกรณีที่พรรคอนาคตใหม่มีการนำเงินรายได้ของพรรคที่ได้จากการระดมทุน การรับบริจาค ขายของที่ระลึก ซึ่งกฎหมายกำหนดห้ามนำไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากการดำเนินงานของพรรคการเมืองตามมาตรา 87 ไปใช้หนี้เงินกู้ให้กับธนาธร โดยมาตรา 132 กำหนดโทษไว้หากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และเหรัญญิกพรรคผู้ใดนำเงินหรือยินยอมให้บุคคลนำเงิน ทรัพย์สินของพรรคไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอื่น หรือนำไปใช้เพื่อการอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 87 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี ปรับ ตั้งแต่ 1แสน-2 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามหาก กกต.มีการเอาผิดทางอาญากับพรรคอนาคตใหม่จะต้องต่อสู้กันในชั้นศาลถึง 3 ศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พรรคที่ใกล้ชิดของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นพรรคสำรอง อย่างเช่น พรรคสามัญชน เป็นพรรคการเมืองแล้ว ส่วนพรรคพลังอนาคต ยังอยู่ระหว่างรอเสนอ กกต.ให้ความเห็นชอบจดทะเบียน ขณะที่พรรควิชั่นใหม่ มีการยื่นจดทะเบียนแล้ว แต่ได้มีการขอนำเอกสารจดจัดตั้งกลับไปแก้ไข