สองผู้มากประสบการณ์ “สุทิน - พล.ท.นันทเดช” ใจตรงกัน เตือน “ปิยบุตร-แกนนำส้มหวาน” ไม่เแกร่งพอ “นรกมีจริง” เย้ยสุดสงสาร อ่อนข้อมูลประวัติศาสตร์ ชี้2475 แพร่เชื้อ “เผด็จการ”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(8 ก.พ.63) เฟซบุ๊ก Sutin Wannabovorn นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวประจำสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์หัวข้อ “จัดม็อบ ถ้าไม่เแกร่ง พอก็หมอบตั้งแต่ออกโรง” หลังจากนายปิยบุตร ขู่ว่าหากยุบพรรค “ส้มหวาน” จะออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้นอกสภาฯร่วมกับนายธนาธร ควบคู่กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ รวมทั้งขู่ว่าประชาชนอาจไม่พอใจจนเกิดม็อบ
โดย “สุทิน” ระบุว่า “เห็นนักการเมืองส้มอมแดง ออกมาขู่ศาลรัฐธรรมนูญว่า ถ้าตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ต้องเจอกับการเคลื่อนไหวต่อต้านทั่วประเทศ
ในฐานะที่ผ่านการชุมนุมประท้วงใหญ่ มาตั้งแต่ปี 2516 จนถึงการประท้วงครั้งประวัติศาสตร์ปลายปี 2556 ถึงกลางปี 2557 อยากบอกนักการเมืองส้มอมแดงว่า การทำม็อบถ้าไม่แข็งแกร่งจริงรับรองว่าหมอบตั้งแต่โหมโรง
การประท้วงของมวลมหาประชาชนในอดีตที่ผ่านมา ล้วนมีสาเหตุมาจากที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล อันเนื่องมาจากการโกงกินอย่างมโหฬาร หรือมาจากที่พรรครัฐบาลโกงการเลือกตั้ง
มีน้อยครั้งที่ประชาชนถูกจัดตั้งให้ลุกขึ้นมาประท้วงเพื่อปกป้องฟอกความผิดส่วนตัวให้กับนักการเมือง เหมือนการประท้วงของมวลชนเสื้อแดง ที่เริ่มตั้งแต่ 2552 ต่อเนืี่องยาวนานมาตลอดเวลา 10 ปี
การประท้วงของคนเสื้อแดง มีสาเหตุมาจากการที่นายทักษิณ ถูกดำเนินคดี ศาลตัดสินให้มีความผิดติดคุกและยึดทรัพย์กว่า 47,000 ล้าน ก่อนแล้วถึงมีการจัดตั้งมวลชนขึ้นมาประท้วงสร้างความวุ่นวาย
ใส่ร้ายโจมตีผู้ที่คิดว่าอยู่ตรงข้ามกับนายทักษิณ ตั้งแต่รัฐบุรุษคนสำคัญที่สุด ลงมาถึงทหาร ถึงพรรคการเมืองคู่แค้นและมวลมหาประชาชน ที่ประท้วงต่อต้านนายทักษิณตลอดถึงสมุนบริวารของเขา
ต้องเข้าใจด้วยว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝ่ายสนับสนุนนายทักษิณ จัดการประท้วงอย่างรุนแรงและยาวนานได้นั้นเป็นเพราะ อิทธิพลทางการเมือง การเงินและบารมีส่วนตัวของนายทักษิณ ครอบงำอยู่ทุกภาคส่วน ตร.มะเขือเทศทั้งกรม ทหารแตงโมจำนวนมากอยู่ภายใต้อิทธิพลและเป็นมือไม้ของนายทักษิณ
นอกจากนั้น ยังมีนักธุรกิจการเมืองจำนวนมากเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้มวลชนเสื้อแดงและรัฐบาลเพื่อนบ้านบางประเทศที่สนิทสนมกับนายทักษิณให้การสนับสนุนกำลังคนบางส่วน ในทางการเมืองระหว่างประเทศมหาอำนาจตะวันตกให้การสนับสนุนมวลชนเสื้อแดงออกหน้า หลายครั้งหลายครา นักการทูตมาสุมหัวกับคนเสื้อแดงหลังเวทีอย่างไร้มารยาท
จากเหตุที่ทั้งนักธุรกิจการเมือง ตร.มะเขือเทศ ทหารแตงโม ผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน และมหาอำนาจที่สนับสนุนนายทักษิณ เป็นผู้ช่วยเหลือจัดตั้งมวลชนนี้เอง ทำให้การประท้วงรุนแรงของฝ่ายเสื้อจึงแข็งแกร่งและยาวนาน
ดังนั้นเมื่อนักการเมืองส้มอมแดง ขู่ว่าจะนำมวลชนลงถนนประท้วง ต้องตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองว่า มีแนวร่วมและผู้สนับสนุนแค่ไหน สิ่งแรกคือมีประชนชนจำนวนมากสนับสนุนไหม มีนักธุรกิจการเมืองสนับสนุนไหม (ไม่นับรวมไอ้ตี๋)
มีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และ ข้าราชการพลเรือนสนับสนุนไหม ประเทศเพื่อนบ้านพร้อมส่งกองกำลังเถื่อนและมวลชนมาช่วยเหลืิอไหม
มหาอำนาจตะวันตกสนับสนุนทางยุทธวิธีและการเงินไหม ถ้าไม่มีสักอย่างที่กล่าว และแม้แต่มวลชนที่มีอยู่ทุกวันนี้ยังต้องยืมมาจากคนเสื้อแดง
การขู่จัดม็อบก็จะหมอบตั้งแต่ออกโรง สิ่งสำคัญที่สุดถ้ายังไม่ลึกซึ้งในวลีที่ว่า #สู้แล้วรวย# การจัดม็อบออกมาปกป้องช่วยเหลือตัวเองให้ผิด "แค่คิดก็จะรู้ว่านรกมีจริง"
ขณะเดียวกัน วันนี้ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรค รปช. อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) และอดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก เช่นกัน ความว่า
“กรณีคุณปิยบุตร กับพวก เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ ศึกษาการต้านรัฐประหาร
ผมฟังแล้วรู้สึกสงสาร คุณปิยบุตร ท่ีอายุยังน้อยแต่ได้หน้าลืมหลัง หรืออาจจะเป็นเพราะไม่ได้เป็นนักประวัติศาสตร์ จึงลืมไปว่า พรรคอนาคตใหม่ ยึดแนวของคณะราษฎรเป็นหลักการดำเนินงานของพรรค
คณะราษฎรนั้น เริ่มต้นด้วยการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ด้วยกำลังทหารโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนอะไรเลย หลังจากนั้น แกนนำคณะราษฎร ก็แย่งชิงอำนาจกันไปมา ด้วยการทำรัฐประหารเข่นฆ่ากันเอง ถึง 14 ครั้ง จนหมดอำนาจของคณะราษฎรคนสุดท้าย คือจอมพล ป. ซึ่งก็กินเวลานานถึง 25 ปี
การทำรัฐประหารของคณะราษฎร จึงเป็นแม่แบบของการรัฐประหารที่ทำกันติดต่อมาตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมาถึงยุคโลกาภิวัตน์ ที่เต็มไปด้วบข้อมูลข่าวสาร
ส่วนการทำรัฐประหาร 2 ครั้งหลัง ที่คุณปิยบุตร มักจะโจมตีอยู่เสมอหรือรู้สึกอิจฉานิดๆ นั้น ได้มีรูปแบบที่เปลี่ยนไป โดยมีองค์ประกอบ 3 ข้อ คือ
(1) รัฐบาลทุจริตชัดเจน
(2) ประชาชนออกมาต่อต้านการทุจริต ถูกฆ่าด้วยอาวุธสงคราม
(3) ประชาชนเป็นฝ่ายเรียกร้องให้ทหารออกมาช่วย
การปฏิวัติ ปี 2549 ประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาลทุจริต ถูกเข่นฆ่าด้วยอาวุธสงคราม แม้แต่กรมทหารราบยังถูกยิงเลย ทหารก็ต้องออกมาทำรัฐประหาร รัฐบาลทหารก็อยู่มาได้เกือบ 3 ปี ซึ่งถ้าอยู่ต่อไปอีกก็ได้ เพราะไม่มีประชาชนออกมาต่อต้านการบริหารบ้านเมืองโดยรัฐบาลทหารเลย
การทำรัฐประหารครั้งล่าสุด เมื่อปี 2557 นั้น ก็มาจากเรื่องทุจริตอีกเช่นเดิม และคราวนี้เป็นการทุจริตนับแสนล้าน นับว่ามากที่สุดในบรรดาการทุจริตทั้งหมดที่เคยมีมา ประชาชนก็ออกมาขับไล่มีจำนวนมากที่สุดในโลก และถูกลอบทำร้ายเข่นฆ่าอีก ทหารต้องออกทำรัฐประหารตามคำเรียกร้องของประชาชน เพื่อยุติความรุนแรง ซึ่งเป็นการทำรัฐประหารที่ไม่ต้องใช้กำลังอำนาจทางทหารเลยด้วยซ้ำ
ขอฝากไปให้ คุณปิยบุตร เข้าใจด้วยว่า เมื่อตอนเป็นอาจารย์จะพูดแบบไหน นักศึกษาก็ต้องเชื่อ แต่ตอนนี้เป็น ส.ส. พูดให้ประชาชนฟัง ควรต้องค้นคว้าหาความจริงให้ดีก่อนพูด เพราะที่พรรคอนาคตใหม่มีคดีมากมายเช่นนี้ ก็มีสาเหตุมาจากการขยันพูดนั้นเอง แต่ถ้าคิดว่าพูดแบบนี้แล้ว คดีกู้เงินพรรค จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ก็ตามสบายเถอะครับ
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คุณปิยบุตรช่วยศึกษาการเรียกร้องประชาธิปไตย ที่บริสุทธิ์ของประชาชน เช่นในปี 2516 สักนิด อย่ายึดติดอยู่แค่จำนวนตัวเลข การปฏิวัติ หรือแค่ปี 2475 เพราะขนาดคุณปิยบุตร เกิดทันเหตุการณ์ในปี 2549 และปี 2557 คุณปิยบุตรยังพลาดข้อเท็จจริงไปมากมายเลยแล้ว ประสาอะไรจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนปี 2522.
ข้อมูลชุดนี้ เป็นอีกชุดหนึ่ง ที่สะท้อนให้เห็นถึงอุดมการณ์ในการต่อสู้ทางการเมือง ว่าต้องการหมายถึงอะไร แค่ไหน อย่าลืมว่า สัญลักษณ์ของ 2475 ใครก็รู้ว่า ล้มอะไร ส่วนจะเอาไปอธิบายเรื่องประชาธิปไตย ก็จึงเป็นประชาธิปไตยที่หลายคนเชื่อว่า ขอบเขตมากมายแค่ไหนอยู่ดี จึงมีคนออกมาต่อต้านอย่างมากนั่นเอง