xs
xsm
sm
md
lg

ปวิน สาวก “ทักษิณ” ขำกลิ้ง คอนเฟิร์ม “อยู่ไม่เป็น” คือ “อยู่เป็น”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปวิน” สาวก ทักษิณ เหน็บ “ธนาธร-อนาคตใหม่” โคตรเจ็บ “งาน “อยู่ไม่เป็น” จัดเพื่อคอนเฟิร์มความ “อยู่เป็น” ของตัวเอง ขำฉิบหาย”

หลังดราม่าท่วมโรงละครแห่งความฝัน “เจเจ มอลล์” ข้างสวนจตุจักร เมื่อวาน(16 พ.ย.) จากนั้นเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำศูนย์วิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต สาวกนายทักษิณ ชินวัตร คนเคยรักพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ก็โพสต์ตามติดมาทันควัน ด้วยข้อความสั้นๆ แต่หลายคนอ่านแล้ว สะใจ ว่า “งาน “อยู่ไม่เป็น” จัดเพื่อคอนเฟิร์มความ “อยู่เป็น” ของตัวเอง ขำฉิบหาย”

คอนเฟิร์มความ “อยู่เป็น” หมายถึงอะไร นับว่าน่าคิดไม่น้อย

ถ้าจะให้ชัด ต้องกลับไปดูสาระสำคัญของกิจกรรม “อยู่.ไม่.เป็น”ของพรรคอนาคตใหม่ ว่าส่วนใหญ่พูดถึงอะไร

นับแต่ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการและบูธนำเสนอนโยบายพรรคที่หาเสียงเอาไว้ เช่น “ท.ทหาร ทันสมัย สมัครใจไม่บังคับ” นำเสนอ 8 มาตรการสร้างกองทัพทันสมัย, “อยู่ไม่เป็น เพราะแรงงานอยู่ไม่ได้" นำเสนอแนวทางป้องกันสถานประกอบการละเมิดสิทธิแรงงาน, “LGBTQI” นำเสนอการแก้กฎหมายสมรสระหว่างเพศเดียวกัน และบูธแอพพลิเคชัน “พรรคอนาคตใหม่” ที่เปิดให้คนมาร่วมงานโหลดไว้สำหรับส่งเรื่องร้องเรียนมายังพรรค โดยมีผู้มาร่วมงานประมาณ 1,800 คน

ส่วนกิจกรรมบนเวที เมื่อเวลา 14.00 น. เป็นการปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายที่ออกบูธของ ส.ส.และแกนนำพรรค บนเวทีที่ออกแบบเป็นรันเวย์ยาวให้ผู้พูดสามารถเดินไปมาได้ ทันสมัยกว่าทุกพรรคที่เคยจัดมา แม้แต่พรรคมหาเศรษฐีอย่างเพื่อไทย

ไฮไลท์ของงานอยู่ที่การปราศรัยของชนชั้นนำในพรรค อย่าง นายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ปิดท้ายรายการ

โดยสรุปนายปิยบุตร ชี้เห็นคำว่า “อยู่เป็น” ใช้กันมากหลังจากการรัฐประหารวันที่ 22 พ.ค.2557 หมายถึงคนไทยส่วนใหญ่เป็นพวกที่ยอมอยู่ภายใต้เผด็จการ บ้านเมืองจึงไม่พัฒนาอยู่เช่นนี้ ขณะนักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ ต่อต้านรัฐประหารเป็นพวกอยู่ไม่เป็น
“นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเราก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่ 16 พฤศจิกายน เพราะทนเห็นสภาพสังคมไทยเป็นแบบนี้อีกต่อไปไม่ได้”

อีกประเด็น สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ต้องออกมาอยู่ไม่เป็น ทั้งที่รู้ว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบมาให้เป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง แต่เรามีความตั้งใจมุ่งมั่นพอที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ได้ เพื่อไม่ให้ประเทศเกิดรัฐประหารอีก และรัฐธรรมนูญต้องเป็นของประชาชนที่ช่วยกันออกแบบอย่างแท้จริง

“ด้วยความคิดความอ่านแบบนี้หลังจากที่เราได้ ส.ส. 81 คน กลายเป็นพรรคที่คนพูดถึง จึงนำมาซึ่งคดีความถึง 25 คดี นอกจากนี้ในโซเชียลมีเดีย มีเพจแปลกๆ ใส่ร้ายพรรคเราแบบรายวัน และสื่อบางค่ายพูดถึงเราในแง่ลบทุกวัน บางครั้งบอกว่าพวกเราคือพวกชังชาติ ล้างสมองคน...”


ด้าน นายธนาธร บอกว่า ก่อนที่จะเลือกเส้นทาง “อยู่ไม่เป็น” ตนมีแต่ชีวิตที่สะดวกสบายจัดสรรเวลาให้ครอบครัวเพื่อนฝูงและงานอดิเรก แต่วันที่เลือกมาทางนี้มีแต่คนถากถาง บอกว่าการเมืองมันสกปรก แต่เชื่อว่าถ้าเราจริงใจ หนักแน่นพอ เราจะเปลี่ยนแปลงโลกได้...

“เราต้องการเห็นประเทศไทยที่มีดอกผลถูกกระจายไปอย่างเท่าเทียมกันไม่ใช่การผูกขาด เราอยากเห็นประเทศเข้มแข็ง แต่ไม่ใช่เข้มแข็งเพราะมีเรือดำน้ำ แต่เราเข้มแข็งจากการยอมรับจากนานาประเทศ เอื้อเฟื้อประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในความต้องการเช่นนี้ทำให้เขากล่าวหาว่า เราเป็นพวกรุนแรง ก้าวร้าว ชังชาติ และอยู่ไม่เป็น”

ที่สำคัญ นายธนาธร กล่าวว่า หัวใจของเราถูกโบยตีด้วยความอยุติธรรมไปแล้ว ถูกว่าเป็นพวกอยู่ไม่เป็น แต่หัวใจของพวกเรายังอุ่น มีเลือดมีเนื้อ เห็นใจเพื่อนมนุษย์ นั่นคือสิ่งที่เราเชื่อ...

ดูแล้ว งานนี้นอกจากหาเสียงว่าจะทำตามนโยบาย และตอกย้ำว่าพวกตนไม่ได้ทำผิด แต่ความผิดมาจากพวกตนได้ส.ส.เยอะ จึงมีคนกลั่นแกล้งแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรใหม่

แต่เรื่องนี้ ต้องมีคนรู้ทันเกม จึงจะสนุก ย้อนไปก่อนหน้าที่จะมีกิจกรรมอยู่.ไม่.เป็น. เมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 เฟซบุ๊ก Pichit Chaimongkol ของ นายพิชิต ไชยมงคล อดีตโฆษกกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และอดีตเพื่อน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เคยเคลื่อนไหวสมัยอยู่ สนนท.ด้วยกัน โพสต์หัวข้อ

"อยู่ไม่เป็น" หรือจะเป็น "อยู่ไม่ได้"

โดยระบุว่า ธนาธรกำลังจะทำในสิ่งที่ ทักษิณ เคยทำผิดพลาดมาแล้ว นั่นก็คือ การโยนความผิดของตนไปให้สังคมร่วมรับผิดชอบ แน่นอนว่าคะแนนของพรรคอนาคตใหม่โตเร็วและก้าวกระโดดอย่างน่าภูมิใจ นั่นก็อาจทำให้คนของพรรคหลงตนเองไปกับคะแนนเลือกตั้งก็เป็นไปได้

แต่อย่าลืมนะครับเพื่อน คะแนนเลือกตั้ง คือความคาดหวังในการเปลี่ยนการเมืองเดิมๆให้เป็นการเมืองที่พวกคุณขายวาทกรรม นั่นเอง พูดง่ายๆคือ เขาเลือกพวกคุณเพราะเขาเบื่อการเมืองหรือนักการเมืองเก่าๆ นั่นแสดงว่า เขาต้องการเปลี่ยนการเมืองพอสมควร

แต่ผมว่า พรรคอนาคตใหม่ เอกธนาธร กำลังหลงคะแนน และเอาความผิดส่วนตัวและของพรรคไป "ฟอกความผิดด้วยคะแนนการเลือกตั้ง" ซึ่งเป็นคะแนนของความต้องการเปลี่ยนการเมือง เสมือนยุค ทักษิณ ชินวัตร ที่บอกว่า ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก เพราะ "เขามาจากการเลือกตั้ง" ด้วยคะแนนเสียงของประชาชน

ทั้งที่มันต้องแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ประชาชนมีความคาดหวัง หากวัดจากผลคะแนน แต่ก็ใช่ว่า พวกคุณจะเอาความคาดหวังมาเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กเพื่อป้องกันความผิดของตนเองได้ ด้วยการโยนความผิดพลาดส่วนตัวและความผิดพลาดของพรรคลงไปเป็นความผิดร่วมของสังคม โดยการอธิบายว่า "ถูกกลั่นแกล้ง" ผมคิดว่ามันเอาเปรียบความฝันของการเปลี่ยนแปลงเกินไป

พรรคที่เคยทำเช่นนี้ในอดีตก็เคยมี เอามวลชนปกป้องความผิดของพรรค ด้วยวาทกรรม ประชาธิปไตย สุดท้ายคนผิด "ไม่ได้อยู่" ประเทศไทย ทั้งพี่ทั้งน้อง ซึ่งไม่ใช่ "อยู่ไม่เป็น"แต่เป็น "อยู่ไม่ได้" เพราะต้องติดคุก

ผมก็ไม่อยากให้เพื่อน ต้องออกนอกประเทศเหมือนใคร ฝาก รุ่นพี่ สนนท. 2 ต. ชนชั้นนำ ของพรรคอนาคตใหม่ช่วยมองใหม่ เรื่องการเมืองกับความคาดหวังมวลชนด้วยนะครับ จาก 1 ต.ชนชั้นล่างการเมืองไทย

สิ่งที่พิชิต ชี้ให้เห็นก็คือ ต้องแยกแยะ ระหว่างความผิด กับ สิ่งที่เป็นความคาดหวังของสังคม ที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ จากการเสนอทางเลือกที่สังคมกำลังเบื่อหน่ายการเมืองแบบเก่า และไม่ควรนำมาแอบอ้าง เพื่อที่จะต่อรองกับคดี กับความผิดที่หัวหน้าพรรค แกนนำพรรค เป็นคนก่อคดี และอาจส่งผลต่อพรรคในอนาคต ซึ่งขบวนการยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน

หรือแม้แต่ เรื่อง “ชังชาติ” ก็เป็นการกระทำของ นายธนาธร นั่นเอง

อย่าง “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์เฟซบุ๊ค(11 ต.ค. 62)ระบุว่า หยุดชักศึกเข้าบ้าน เขาคงคิดไม่ถึงว่า สิ่งที่เขากระทำที่ฮ่องกง จะนำไปสู่การเตือนแรงๆจากทางการจีน จนหลายฝ่ายมองว่า มีพฤติกรรมชักศึกเข้าบ้าน ถ้ามองแล้ว เขาได้มีพฤติกรรมชักศึกเข้าบ้านหลายเหตุการณ์มาก แต่ไม่เคยจดจำ

1.เชิญ 12 ทูตประเทศอียู และผู้สังเกตการณ์ยูเอ็นไปร่วมสังเกตการณ์ที่ สน.ปทุมวัน ในกรณีที่เขาถูกแจ้งดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 116 จนมองว่าประเทศกำลังถูกแทรกแซง

2.ไปเรียกร้องให้ประเทศต่างๆในอาเซียนว่า ประชาธิปไตยคือหนทางไปสู่ความกินดีอยู่ดีของประชาชน จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขัดหลักการอาเซียน ที่จะไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกัน

3.เดินสายยุโรป และอเมริกา ประเด็นพูดคุยมีเรื่องการเลือกตั้งในไทย ความผิดปกติเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยไม่ใช่การกลับคืนสู่ประชาธิปไตย ซึ่งพูดแต่มุมมองด้านเดียว จนมองว่าประจานประเทศ

4.จ้าง APCO Worldwide LLC บริษัทล็อบบี้ยิสต์ในสหรัฐอเมริกา จนถูกวิจารณ์ว่าเป็นการกระทำเพื่อหวังผลทางการเมือง และอาจขัดต่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่

5.ล่าสุดไปพูด และถ่ายภาพกับแกนนำประท้วงที่ต้องการให้อเมริกามาปลดปล่อยฮ่องกง จนทางการจีนไม่พอใจ
เพราะไปหนุนผู้ประท้วงที่นั่น อาจนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนได้

สิ่งเหล่านี้คือพฤติกรรมชังชาติ ชักศึกเข้าบ้าน ที่อาจสร้างปัญหาให้ประเทศของเราได้ในอนาคตได้

ดังนั้น โพสต์ของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ที่ระบุ “งาน “อยู่ไม่เป็น” จัดเพื่อคอนเฟิร์มความ “อยู่เป็น” ของตัวเอง ขำฉิบหาย” ก็แทบไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว

เพราะทุกอย่างที่ นายธนาธร นำพรรคอนาคตใหม่ ประกาศให้โลกรู้ว่า อยู่.ไม่.เป็น. ก็คือ การ “อยู่เป็น” โดยปลุกกระแสมวลชนขึ้นมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง เพื่อสร้างพลังต่อรองกับศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีคำวินิจฉัยในคดีถือหุ้นสื่อของนายธนาธร ในวันที่ 20 พ.ย.นี้นั่นเอง ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร พวกเขาพิพากษาเองไปก่อนแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น