"ไตรรงค์ สุวรรณคีรี" ร่วมงาน "รวมกันเป็นเกลียว เหนียวแน่นเป็นประชาธิปัตย์" อัด ส.ส.บางกลุ่มกาลกิณี แนะพรรคต้องรู้อะไรควรพูดไม่ควรพูด เสนอปฏิรูปสังคายนาตัวเองไม่ต้องรอใครตายก่อน อย่ายึดติด 70 ปี ชม "จุรินทร์" ทำงานดีแต่ต้องกระจายอำนาจ
วันนี้ (28 ม.ค. 63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ จัดงาน "รวมกันเป็นเกลียว เหนียวแน่นเป็นประชาธิปัตย์" ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ซึ่งเป็นการงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น มีผู้อาวุโส แกนนำพรรค รวมทั้งอดีต ส.ส.และส.ส.ปัจจุบัน มาร่วมงานด้วย อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองหัวหน้าพรรค นายเจริญ คันธวงศ์ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตรองหัวหน้าพรรค นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และรมช.มหาดไทย นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
จากนั้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค กล่าวบนเวทีว่า งานในวันนี้เกิดขึ้นจากที่ไปร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนอดีต ส.ส.จากหลายภาคและหลายโอกาส ซึ่งหลายคนเสนอว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนมาเจอกันพูดคุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา จึงเป็นที่มาของการจัดงานนี้
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค กล่าวว่าตนเป็นคนง่าย ๆ อยู่กับหัวหน้าพรรคคนไหนไม่เคยขัดใจเลย อยู่กับนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ขัดใจ และมั่นใจว่าอยู่กับนายจุรินทร์ก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่ตนมีหลักของตน คือไม่ชอบให้ใครขัดใจเหมือนกัน วันนี้มีความมั่นใจที่เป็นคนหนึ่งทุ่มเทให้กับพรรค ทำให้สมาชิกมีอาการต่าง ๆ บ้างแ ต่ยืนยันว่าความรู้สึกของพวกเราตนรับทราบ ในบางช่วงอาจผิดพลาดไปบ้าง แต่ยืนยันว่าจะพาทุกคนเดินหน้าให้ได้ และงานวันรี้นับกันตั้งแต่ปีที่แล้ว จึงขอเรียนให้ทราบว่างานนี้จะไม่ใช่งานแรก แต่จะสานต่อทุกเดือนก็ได้ ตนยินดี
"ผมพยายามเดินตามหลังผู้ใหญ่แต่ไม่อาจตามทุกอย่างได้ แต่จะเป็นผู้นำให้ทุกคนเช่นกัน และหากไปจังหวัดอะไรก็จะมีการประสานสมาชิกให้มานั่งพูดคุยกัน ที่ผ่านมานายเทพไท บอกว่าถ้ารู้จักจะรักเอง แต่สำหรับผมถ้าเจอก็จะรักเอง" นายเฉลิมชัย กล่าว
ด้านนายไตรรงค์ กล่าวว่า ขอพูดตรง ๆ ว่าที่ผ่านมาพรรคไม่ค่อยดี ท่านทั้งหลายก็ทราบอยู่แล้วว่ามีการลาออกกัน ตนก็ต้องมาทบทวน เพราะเรานำของฝรั่งมาใช้ แล้วพวกเรามีจิตวิญญาณมากน้อยแค่ไหน ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เขาก็เลือกหัวหน้าพรรคแต่ไม่ค่อยขัดแย้ง หลังจากเลือกตั้งเสร็จเขาจะรวมเป็นหนึ่ง เพื่อสู้กับพรรคอื่น
นายไตรรงค์ กล่าวอีกว่า คนที่ลาออกไปเราไปตำหนิไม่ได้ เพราะเขาอาจมีเหตุผลส่วนตัวบางประการที่เขาเล่าให้ฟัง แต่ตนพิสูจน์ให้เขาเห็นไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องเข้าใจกันด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตย ซึ่งจิตใจของคนอาจคิดได้ แต่คนเหลืออยู่จะต้องปรับปรุงอย่าอ้างว่าพรรคอยู่มา 70 ปีแล้วต้องรักษาประเพณี เพราะหากอ้างถึง 70 ปีเราก็ไปไม่รอด ต้องเปลี่ยนแปลงไม่เช่นนั้นก็ไม่เจริญ และพรรคก็ไปไม่รอด ดูอย่างนายเติ้ง เสี่ยวผิง จะเปลี่ยนแปลงอะไรต้องรอจนกว่านายเหมา เจ๋อตุง ตาย จึงเอาแนวความคิดของตัวเองมาใช้ได้ แต่เราไม่ต้องรอให้ใครตาย เราต้องปฏิรูปสังคายนาพรรค
นายไตรรงค์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานายจุรินทร์ไปเป็นหัวพรรคไปตรวจราชการที่ไหนก็เรียกผู้อาวุโสมาพูดคุย ซึ่งทำถูกแล้วแต่ยังไม่พอ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณนายจุรินทร์ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคต่อนข้างดี ในเรื่องสมาชิกสัมพันธ์ แต่ไม่พอสำหรับโลกอนาคต ต้องมีการแบ่งอำนาจหน้าที่ หัวหน้าพรรคทำคนเดียวไม่ทัน ไม่เช่นนั้นจะเป็นลักษณะรวมศูนย์ ต้องกระจายอำนาจออกไป ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าหัวหน้าพรรคหาคะแนนเสียงทั่วทุกจังหวัด โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งไม่มีนายทุน ไม่มีทุนทางการเมืองต้องแข่งกับพรรคอื่น แล้วจะเอาชนะอย่างไร
ตนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครสามารถเอาเงินมาซื้อได้ ดังนั้นเราต้องศึกษาดูพรรคการเมืองใหญ่ ๆ ที่ประสบความสำเร็จ ว่าเขาแบ่งความรับผิดชอบอย่างไรกระจายอำนาจอย่างไรถ้าเราคิดแต่รวมศูนย์อย่างเดียวโดยไม่กระจายอำนาจก็ไปไม่รอดเพราะพรรคการเมืองมีมากขึ้น คนเก่งมากขึ้น มาลงการเมืองมากขึ้น คนชั่วก็มาลงการเมืองมากเช่นกัน และปัจจุบันเป็นที่หน้าอดสูที่ ส.สจำนวนมากในรัฐสภาที่ถูกประชาชนประณามว่าเป็นกาลกิณีของประเทศเป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ
ตนโชคดีที่ไม่ได้ลงเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ต้องไปร่วมกับพวกกาลกิณี พวกเราต้องปรับตัว ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด บางคนพูดแล้วทำให้ประเทศเสียหายอย่างเรื่องไวรัสโคโรนาก็มาให้สัมภาษณ์ ไม่รักษาหน้า รักษาตาของประเทศเอาเรื่องโรคมาเล่นการเมือง ผมไม่ได้รัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่เขามาอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และที่พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่เราทำนี้ถูกต้องแล้วไม่ต้องไปฟังใครวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรของพรรคถือว่าดีที่สุดแล้ว ยืนยันว่าแบบอื่นทำให้เสียหายมากแต่แบบนี้เสียหายน้อยที่สุด เพราะตนเคยบริหารแบบนี้มาก่อนดังนั้นต่อไปทุกคนมีอะไรก็ต้องอยู่กันแบบพี่แบบน้องรักษาน้ำใจกันแบบนี้ต่อไป