สัญญาณร่ำลา! “ชาญวิทย์” ครวญ “ธนาธร-ปิยบุตร” ไม่รอดดงตีนการเมือง “อัษฎางค์” ปล่อยคลิปเด็ด “ล้มเจ้า?”

'ชาญวิทย์' ปรมาจารย์ซ้ายค่ายท่าพระจันทร์ ส่งสัญญาณร่ำลาแด่ศิษย์รัก “ธนาธร-ปิยบุตร” ไม่พ้นดงตีนการเมือง “อัษฎางค์” ปล่อยคลิปเด็ด จับโกหก “ปิยบุตร-ธนาธร” ล้มเจ้า?

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(20 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก ชาญวิทย์ เกษตรศิริ Charnvit Kasetsiri ของ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่

โพสต์ ข้อความ ระบุว่า “20/1/2020/2563 สองวัน อันตราย...และวิตกจริตของคนชรา

Will Thanathorn & FFP survive ? แล้วธนาธร กับอนาคตใหม่ จะรอดหรือ ?

แน่นอน, วันที่ 21 ม.ค.63 เวลา 11.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย คดีแกนนำและพรรคอนาคตใหม่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ ซึ่งมีโทษถึง “ยุบพรรค” ที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ

ดังนั้น โพสต์ของ 'ชาญวิทย์' คล้ายเป็นการส่งสัญญาณอำลาอาลัย อย่างไรไม่รู้ หรือว่า รู้ตัวอนาคตจบเสียแล้ว

สำหรับ คดีล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯดังกล่าว ในส่วนของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เห็นว่า ถ้าว่ากันตามข้อเท็จจริงแล้วพวกตน พรรคตนไม่ผิด

โดยโพสต์คลิป อธิบาย ผ่านเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul เมื่อเช้าวันที่ 17 ม.ค.63 ว่า

“ที่นายณฐพร โตประยูร ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวหาว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายปิยบุตร, และพรรคอนาคตใหม่ มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรรมนูญเพื่อขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญจะมีการอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 21 ม.ค. นั้น

ถ้าเราลองอ่านดูมาตรา 49 จะพบว่า มาตรานี้ไม่ใช่เหตุแห่งการยุบพรรค แต่เป็นเรื่องของคนที่ใช้เสรีภาพเป็นการล้มล้างการปกครอง ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ามีบุคคลที่ใช้เสรีภาพในการล้มล้างจริง ก็จะมีคำสั่งให้เลิกการกระทำนั้น ยกตัวอย่างเช่น มีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าการชุมนุมหนึ่งเป็นการล้มล้างการปกครอง ถ้าเห็นแบบนั้น ก็จะสั่งให้เลิกการชุมนุม


มาตรา 49 ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการยุบพรรค และเมื่อไปอ่านคำร้องและคำแถลงปิดคดีของนายณฐพรแล้ว จะพบว่า เหตุหนึ่งที่นายณฐพรใช้ คือการที่พรรคอนาคตใหม่มีสัญลักษณ์ของพรรคเป็นสามเหลี่ยมรูปคว่ำ เหมือนสัญลักษณ์ขององค์กรอิลลูมินาติ แต่ถ้าอ่านลงไปดีๆ จะพบวัตถุประสงค์แอบแฝงเร้นซ่อนเอาไว้อยู่ เช่น การเอาการรณรงค์เรื่องการแก้ไข ป.อาญามาตรา 112 ที่ตนทำกับเพื่อนนักวิชาการคณะนิติราษฎร์และเพื่อนนักวิชาการจากหลากหลายมหาวิทยาลัย
เอาการแสดงความคิดเห็นในทางวิชาการของตนหลายที่เอามาผูกโยงเต็มไปหมด เอาการให้สัมภาษณ์ของนายธนาธรในหลายครั้งหลายหนตั้งแต่ก่อนตั้งพรรคการเมือง ความเป็นหุ้นส่วนในการลงทุนหุ้นประเดิมเพื่อก่อตั้งวารสารวิชาการ

นายณฐพรยังตามมาดูนโยบายของพรรคอนาคตใหม่อีก เช่น การจัดการมรดกบาปของคณะรัฐประหาร คสช., การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนเหมือนที่เราทำมาแล้วตอนปี 2540, การให้สัตยาบันในธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยการก่อตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศ

ตนต้องถามว่า นโยบายเหล่านี้เป็นการล้มล้างการปกครองตรงไหน ก็ในเมื่อประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหลายประเทศก็อยู่ในธรรมนูญนี้ ยอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศนี้ ไม่มีตรงไหนเลยบอกว่าเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีแต่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้นพัฒนาก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยซ้ำไป...”

แต่ถ้าลึกลงไปในการบรรยายทางวิชาการ และการเคลื่อนไหว ของ “ปิยบุตร” ถ้อยคำที่ใช้ และเนื้อหาที่พูด ล้วนส่อเสียดเป็นการดูหมิ่นดูแคลนสถาบันอยู่เหมือนกัน

อย่างกรณี วันนี้(20ม.ค.63) เฟซบุ๊ก อัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความและคลิปผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“ผมทำคลิปวีดีโอมาให้ดูกันว่าคำพูดของอนาคตใหม่นั้นจริงเท็จ ย้อนแย้ง หรือไม่อย่างไร?

อนาคตใหม่ถูกใส่ร้ายว่าไม่จงรักภักดี
ถูกใส่ร้ายว่าปลุกปั่นมวลชน จริงหรือไม่?

ธนาธรกล่าวไว้ว่า :
“การที่มีหลายฝ่ายเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมืองนั้น จะยิ่งสร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันพระมหากษัตริย์”

แล้วใครคือคนนั้น?

ที่น่าสนใจ ในคลิปมีการตัดต่อภาพการบรรยายของ ปิยบุตร สลับกับการให้สัมภาษณ์ของ ธนาธร อันทำให้เห็นความเชื่อมโยงกันในประเด็นนี้

เพื่อที่จะทำให้เห็นว่า อนาคตใหม่ถูกใส่ร้ายว่าไม่จงรักภักดี ถูกใส่ร้ายว่าปลุกปั่นมวลชน จริงหรือ?

ในขณะที่หลักฐานการบรรยายของ “ปิยบุตร” ในคลิปนั้น ชัดเจนว่า มีการพูดถึงสถาบันในหลายด้าน เพื่อที่จะสรุปให้เห็นว่า อาจอยู่ได้ในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น...

จึงต้องมาดูกันว่า วันที่ 21 ม.ค.63 ที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 11.30 น.เป็นต้นไปตามกำหนด ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยตามข้อมูล หลักฐาน ข้อเท็จจริงต่างๆ ของทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องออกมาอย่างไร “ยุบ” หรือ “ไม่ยุบ” พรรคอนาคตใหม่ ก็คงจะได้รู้กันเสียที