นายกฯ ขอบคุณชาวจังหวัดชายแดนใต้ รอต้อนรับ ครม.สัญจร ย้ำ ครม.ช่วยกันขับเคลื่อนพัฒนาพื้นที่ ชี้รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาราคายางตกมาตลอด ขอทุกคนเรียนรู้
วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการประชุม ครม.สัญจร จังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ 20-21 ม.ค.นี้ ซึ่งประชาชนชายแดนใต้แสดงความดีใจที่นายกฯ จะมาเยือนว่า ขอบคุณที่ทุกคนรอต้อนรับการทำงานของครม. ก็ช่วยกันทำงาน ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน ตนก็ได้พูดกับ ครม.ว่าเราต้องช่วยกันขับเคลื่อนลงไปเยือนภาคใต้อีกครั้ง ที่ผ่านมาเราไม่อยากให้เกิดปัญหาการสิ้นเปลืองของฝ่ายความมั่นคงที่ดูแลประชาชน แต่ต้องมาดูแลพวกเราอีก แต่เมื่อจำเป็นก็ต้องไป ให้รบกวนคนให้น้อยที่สุด ซึ่งวันนี้เน้นเรื่องมาตรการต่างๆที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้ ครม. ให้ประชาชน ให้ส่วนราชการที่ลงไปในพื้นที่ สิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นคือเกิดการหมุนเวียนการใช้จ่ายขึ้นในจังหวัดต่างๆ เหล่านั้นด้วย ทุกครั้งที่ไปจังหวัดไหนก็ตาม ไปนอกสถานที่ที่ไหนก็ตาม การใช้จ่ายทางเศรษฐกิจก็จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาระยะสั้นก็ตาม มีการเตรียมการของหน่วยงานต่างๆ ลงไปเยอะแยะ ต้องการให้เป็นดินแดนแห่งความสงบสุข เจริญรุ่งเรือง ข้อสำคัญคือเกิดการพัฒนา
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีสภาเกษตรกรขอให้รัฐบาลช่วยส่งเสริมอาชีพอื่นๆแทนยางพารา เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำและได้รับผลกระทบจากโรคใบร่วงยางพาราว่า ทำไปตั้งเยอะแล้ว กรุณาฟังแล้วก็จำ และชี้แจงกันด้วย เรามีมาตรการทั้งลดพื้นที่ปลูกยาง ส่งเสริมการปลูกพืชชนิดอื่นแซมสวนยาง การตัดต้นยางที่อายุเกินเป็นวัสดุชีวมวล ทำมาทั้งหมด ปัญหามีอยู่ว่าหลายคนที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวสำเร็จ แต่การปลูกพืชเชิงเดี่ยวไม่ใช่อาชีพที่ยั่งยืนอีกต่อไปแล้ว ต้องมีการปลูกพืชเสริม พืชที่เป็นความต้องการของตลาด อะไรก็ตามที่มันมากเกินไปบางทีมันก็ทำให้ราคาตกเหมือนกัน เพราะปริมาณสำรองมีเยอะ ทุกคนก็เป็นห่วงเรื่องการเกษตร พยายามจะปลูกกันเองแต่ละประเทศไม่ต้องง้อคนอื่น จึงกลายเป็นมีปัญหาสำหรับเรามากเหมือนกันในเรื่องของยางและทุกประเภท เรื่องการตลาดสำคัญ ทุกคนต้องเรียนรู้ ว่าจะทำอย่างไรถึงจะไม่มีปัญหา รัฐบาลช่วยมากๆมันก็ไม่ไหว บางอย่างผิดกติกา ขอให้เข้าใจด้วยพืชเกษตรหลักๆมีปัญหาองค์การการค้าโลก (WTO) อีก ทุกคนก็ทราบดีครั้งที่ผ่านมาก็มีปัญหาเรื่องอ้อย ถ้าเรารับฟังความต้องการอย่างเดียวรัฐบาลก็ทำได้บางอัน แต่บางอันผิดกติกาพันธสัญญาก็ทำไม่ได้ มันก็มีผลกระทบอย่างอื่นไปด้วย เช่น การกีดกันทางการค้า ไม่ใช่เราอยู่คนเดียวเรากำหนดกติกาเองได้เมื่อไหร่ ทุกคนเชื่อมโยงกันหมด