พท.ตั้งญัตติด่วนจี้ความคืบหน้าเหตุทำร้าย “จ่านิว” ฉะเรื่องแค่นี้ดูแลไม่ได้จะดูแลนักท่องเที่ยวยังไง “โรม” จวกเสริมรัฐมาเฟีย เพิกเฉย เด็ก อนค.โวยทีมงาน ปธ.สภาฯ ดูถูกเด็ก เจอกรีดสวนมีนักการเมืองคอยชักใย
วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติด่วนการเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจ สอบและศึกษา ติดตามการทำงานของหน่วยงานภาครัฐต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและถูกประทุษร้ายของประชาชน ตามที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ พร้อมกับนำญัตติอื่นๆที่มีเนื้อหาในทำนองเดียวกันมารวมพิจารณาไปด้วยกัน โดยนายจิรายุกล่าวว่า เหตุการณ์ลอบทำร้ายจ่านิว หรือนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กลาง กทม. ผ่านมา 6 เดือน แต่ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ แสดงว่าประเทศนี้อยู่ยาก รัฐบาลรณรงค์โครงการชิมช้อปใช้ ให้คนเดินทางไปท่องเที่ยว แต่ความปลอดภัยมีหรือไม่ เรื่องเล็กแค่นี้ยังดูแลไม่ได้จะไปดูความปลอดภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างไร การละเมิดสิทธิมนุษยชนมีมากมาย แต่ทุกเรื่องเหมือนเดิม อย่างน้อยประชาชนต้องมีความปลอดภัย 80% ขอให้ตั้ง กมธ.วิสามัญฯ เร่งรัดการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่คุยหนักหนาว่า ฆาตกรต่อเนื่องยังจับได้ แต่ทำไมเหตุทำร้ายร่างกายจ่านิวกลางวันแสกๆ กลาง กทม. ทำไมยังจับไม่ได้
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การก่อเหตุทำร้ายนักเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้ก่อเหตุมีการเตรียมการ แบ่งหน้าที่เป็นอย่างดี และมีการแจ้งความทุกคดี แต่ 13 เหตุการณ์ประทุษร้ายนักเคลื่อนไหวทางการเมืองสามารถจับคนร้ายได้แค่ 2คดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุทำแบบฉายเดี่ยว แต่ถ้าทำเป็นระบบกลับเอาตัวผู้ทำผิดมาลง โทษ หรือหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังไม่ได้ โดยเฉพาะคดีทำร้ายจ่านิวกลางวันแสกๆ มีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ผ่านมา 6 เดือน ยังไม่มีแม้กระทั่งการออกหมายจับ สังคมไทยจะอยู่กันแบบนี้ใช่หรือไม่ สุดท้ายคดีถูกดอง การเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่รัฐทำให้การก่อเหตุลักษณะนี้ลุกลามบานปลายทั้งด้านจำนวนและความรุนแรง วันนี้นักเคลื่อนไหวการเมืองถูกทำร้าย ถ้ายังปล่อยให้เป็นรัฐมาเฟียต่อไปเรื่อยๆ วันหน้าอาจเป็นตนหรือประธานถูกทำร้ายก็ได้ เพราะคนที่คุมคนกลุ่มนี้ได้มีกี่คน ประชาชนจึงตั้งคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้องกับการตีหัวจ่านิวหรือไม่ สิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ควรใช้ได้จริง ไม่ใช่ถูกเพิกเฉย เพียงเพราะการหย่อนยานของเจ้าหน้าที่รัฐ หากยังปล่อยให้คดีหายเข้ากลีบเมฆ ปัญหาการละเมิดสิทธมนุษยชนจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ หวังว่ากมธ.ชุดนี้จะช่วยให้ประเทศน่าอยู่ เป็นหลักประกันว่า สังคมไทยเคารพกฎหมาย
น.ส.อมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนยังมีให้เห็นอยู่ ล่าสุดการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงถูกผู้มีอำนาจกดดันไม่ให้ใช้สถานที่แถลงข่าวการจัดกิจกรรม ทั้งที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และโรงแรมรัตนโกสินทร์ สุดท้ายต้องไปใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นสถานที่แถลงข่าวแทน หรืออย่างเหตุการณ์ในสภาฯ เมื่อครั้งที่นายพริษฐ์ ชิวรักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มายื่นหนังสือและมอบพจนานุกรมให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ไปศึกษาคำว่าลงคะแนนใหม่ กับนับคะแนนใหม่ ตอนมีปัญหาการโหวตญัตติการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบจากมาตรา 44 แต่ปรากฏว่าถูกคณะทำงานประธานสภาฯ ที่ลงมารับเรื่องใช้ถ้อยคำดูถูกต่อว่ามีใครอยู่เบื้องหลังและรับจ้างใครมา ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ น.ส.อมรรัตน์อภิปรายจบ นายชวนที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น กล่าวชี้แจงว่า กรณีที่ระบุว่าคณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎรพูดไม่เหมาะสมนั้น ได้รับรายงานจากคณะทำงานว่า เหตุการณ์วันดังกล่าวมีนักการเมืองบางคนคอยส่งสัญญาณยุให้กลุ่มนักศึกษาพูด ตนได้รับฟังข้อเท็จจริงและข้อมูลเบื้องหลังที่เข้ามาให้กำลังใจตนในวันนี้ (19 ธ.ค.) ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับกลุ่มนักศึกษาที่มายื่นหนังสือให้ตน เล่าให้ฟังว่ามีลูกนักการเมืองคนหนึ่งและกลุ่มนักศึกษามีความเกี่ยวโยงกันอย่างไร ทำให้นางอมรรัตน์ประท้วงว่า นักการเมืองที่นายชวนพูดถึงอาจเป็นคนที่อยู่พรรคเดียวกับตน แต่ในวันดังกล่าวนักการเมืองคนดังกล่าวแค่ไปรอต่อคิวการแถลงข่าวเท่านั้น นายชวนจึงกล่าวตอบว่า ตนทราบข้อเท็จจริง ไม่เคยกล่าวร้ายใคร หากนางอมรรัตน์อยากทราบข้อเท็จจริงให้มาพบตนเป็นการส่วนตัวจะได้ทราบว่าใครเป็นใครอย่างไร