"เฉลิมชัย" ตอบกระทู้ ชี้จำกัดการใช้สารพิษเหมือนแบนตามหลักสากล ยันไร้ผลประโยชน์

"ชวลิต" ตั้งกระทู้สดถามปมเลื่อนแบนสารพิษ ติงไม่สนสุขภาพปชช. ส่อถูกกล่าวหารับสินบน รมว.เกษตรฯ แจง จำกัดการใช้เหมือนกับการแบน ยึดตามหลักสากล ยันไม่มีผลประโยชน์

วันนี้ (11ธ.ค.) การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ก่อนเข้าสู่ญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางและวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี กรณีคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเลื่อนแบนสารเคมีภาคการเกษตร พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส และจำกัดการใช้ไกลโฟเซต ทั้งที่แพทยสภา สภาเภสัชกรรม และผู้ตรวจการแผ่นดิน รวมถึงสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม ว่าควรแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิด แต่รัฐบาลกลับเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพประชาชนน้อยกว่ากลุ่มทุน โดยอ้างปัญหาเรื่องการจัดการสต๊อกตกค้าง พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมเสี่ยงกับการถูกกล่าวหาว่าทุจริตรับสินบน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การจำกัดการใช้เหมือนกับการแบน เพราะใช้กับพืชได้เพียง 6 ชนิดเท่านั้น ผู้ซื้อหรือผู้ใช้ต้องมีใบอนุญาต ต้องแจ้งเนื้อที่และจำนวนที่ต้องใช้แต่ละปี และต้องผ่านการฝึกอบรม จากกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมวิชาการเกษตร และใช้ห้ามใช้สารเคมีในพื้นที่ต้นน้ำเด็ดขาด ย้ำว่ามาตรการเพื่อจำกัดการใช้ เป็นไปตามหลักการสากล โดยมอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรและกรมพัฒนาที่ดินตรวจสอบแหล่งน้ำทั่วประเทศซึ่งผลเป็นปกติทั้งหมด ยืนยันว่ารัฐบาลมีความห่วงใย ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ซึ่งสัดส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีเพียง 5 คน จาก 29 คน เท่านั้น ดังนั้นเมื่อมีมติให้เลื่อนการแบนสารเคมี มาตรการจำกัดการใช้ก็ต้องดำเนินต่อไป และเป็นมาตรการเพื่อสร้างความปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคและเกษตรกร และยืนยันว่าตนเองไม่มีผลประโยชน์ ทำหน้าที่ภายใต้หลักการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม และไม่คิดว่ากลุ่มเอกชนมีคุณค่ามากกว่าประชาชน