“พี่เต้” เตรียมคุย กก.บห.พรรค ประกาศเลิกเป็นฝ่ายค้านอิสระ หลัง “บิ๊กตู่” ขอในงานเลี้ยง บอกรัฐบาล จำนวนเสียงอันตรายมาก เผยกำลังดีลพรรคอื่นให้ครบ 270 เสียง โวฟิตหุ่นมาดีหลังโดนนายกฯ ล็อกคอ พร้อมเสนอไอเดีย ส.ส.ชายรุ่นใหม่ ฝึกทหารกองหนุน 1 เดือน พร้อมรบ-ร่างกายแข็งแรง-หุ่นดี-ปลอดโรค ลดงบประมาณประเทศ
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา เกียกกาย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะฝ่ายค้านอิสระ ให้สัมภาษณ์ว่า การนับองค์ประชุมในวันนี้ฝ่ายรัฐบาลจะเหลือ 249 เสียง บวกฝ่ายค้านอิสระ 2 เสียง เป็น 251 เสียง และหากวันนี้ ส.ส.รัฐบาลโดนจับ 1 คน จะทำเสียงรัฐบาลรวมฝ่ายค้านอิสระ 250 เสียง ซึ่งองค์ประชมจะต้องมี 249 เสียง เมื่อตัวเลขของรัฐบาลอยู่ที่ 250 เสียงถือว่าอันตรายมาก เพราะหากองค์ประชุมไม่ครบอีกรอบหนึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์และความมั่นใจที่ประชาชนมีต่อสภาน้อยลง ทั้งนี้ ในส่วนของตนจะเลิกเป็นฝ่านค้านอิสระหรือไม่ ต้องรอให้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ก่อน
เมื่อถามว่า ช่วงนี้มีข้อสังเกตเรื่องการแจกกล้วย เช่น นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่าย) ค้านก็พูดถึงเรื่องนี้ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ต้องดูว่ามีหลักฐานหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ตนได้ยินมานานแล้ว และได้ไปคุยกับคนที่ได้รับแจกกล้วย เขาบอกว่าเป็นกล้วยปลอม เมื่อถามว่าการโยกกลับเข้ารัฐบาลเกี่ยวกับการแจกกล้วยใช่หรือไม่ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน และต้องอย่าลืมว่าคนที่ชวนตนเข้าร่วมรัฐบาล คือแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งชวนกันทั้ง 11 พรรค ตอนนั้นเราต้องการให้ตั้งรัฐบาลได้ แต่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มาพูดคุยกับตนเป็นการส่วนตัวด้วยตัวเอง ท่านบอกว่าอย่าเป็นเลยฝ่านค้านอิสระ และชวนให้มาร่วมรัฐบาล ตนก็บอกไปว่าถ้านายกฯ ชวน ตนก็จะคุยกับ กก.บห.พรรค และหากกลับมาร่วมรัฐบาลอีกก็ต้องดูว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ และรัฐบาลสามารถบริหารงานไปได้ราบรื่นก็จะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตนกลับไปร่วมรัฐบาลในเรื่องการตรวจสอบรัฐบาลก็จะดำเนินการเหมือนเดิม ซึ่งการตรวจสอบมี 2 รูปแบบคือ ตรวจสอบเรื่องที่เสียหายไปแล้ว และตรวจสอบเรื่องก่อนการเสียหาย เช่น เรื่องการจัดซื้อเครื่องบินของการบินไทยที่ยังไม่มีการจัดซื้อ เป็นเรื่องที่ตนได้ตรวจสอบไปแล้ว สุดท้ายรัฐบาลก็รับไปพิจารณา ถือเป็นการแนะนำอย่างสร้างสรรค์ให้รัฐบาลเดินหน้าไปได้ แต่ถ้าทุจริตก็คงอยู่ไม่ได้
“ผมไม่อยากให้รัฐบาลมี 255 เสียงแบบนี้ เพราะหากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่เหมาะ อยากให้มีสัก 270 เสียง ขณะนี้กำลังคุยอยู่กับ 2 พรรค ขอเป็นการพูดคุยภายในก่อนเพราะยังดีลกันไม่จบ ส่วนจะเป็นพรรคไหนนั้นก็มีไม่กี่พรรคหรอก ยังมีความพยายามอยู่ เพราะผมเพื่อนเยอะ และผมเป็นคนดีลเอง ส่วนเรื่องงูเห่าผมว่าไม่ค่อยมี นอกจากเป็นการโกรธเคืองกัน ในพรรคอนาคตใหม่ 2-3 เสียงเท่านั้น เขาไม่เรียกว่างูเห่า แต่เรียกว่าน้อยใจ” นายมงคลกิตติ์กล่าว
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่นายกฯ มากอดคอในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ดีที่ตนเล่นกล้ามตลอด ไม่อย่างนั้นคออาจจะเคล็ด เพราะนายกฯ เล่นแรง ตัวหนัก และดื่มไวน์ไปนิดหนึ่งด้วย ตนจึงเสนอนายกฯ ไปว่า ช่วงปิดสมัยประชุมสภาได้ทำความเข้าใจกับคนรุ่นใหม่ว่าปัจจุบันการเกณฑ์ทหารรับสมัครได้แค่ 30 เปอร์เซ็นต์ อีก 70 เปอร์เซ็นต์ยังขาดอยู่ และหากจะให้สมัครใจเป็นทหาร เราก็ยังมีเงินไม่พอที่จะจ่ายเงินเดือน และถ้ารับประจำเข้าไปอายุมากก็จะไม่พร้อมรบ เพราะคนที่พร้อมรบต้องอายุ 20-30 ปี
“ผมเองอายุ 38 ปี ถือว่ายังพร้อมรบอยู่ ผมจึงบอกว่าถ้าเป็นไปได้ช่วงปิดสมัยประชุมสภา ส.ส.คนรุ่นใหม่ที่เป็นชายไทย และ ส.ส.ประเภท 2 อยากให้ไปฝึกทหารสัก 1 เดือน เพื่อให้พร้อมรบตลอดเวลา โดยไม่ได้เป็นการเข้าค่าย แต่เป็นการฝึกทบทวน ซึ่งเป็นการฝึกกำลังกายและใจ ร่างกายแข็งแรง หุ่นดี ไม่เป็นเบาหวาน มะเร็ง ไขมันมันอุดตันในเส้นเลือด เพราะการให้ฝึกทหารจะทำให้ลดงบประมาณรายหัวของกระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเป็นการลดรายจ่ายของประเทศไทย และทุกคนก็เป็นทหารกองหนุน เมื่อมีเหตุเภทภัยขึ้นมา บางทีก็ต้องถอดเสื้อ ส.ส.ออกไปเป็นทหาร ก็จะทำให้มีความพร้อม และอีกอย่างจะได้เป๋นพรีเซ็นเตอร์ให้เด็กม.ปลาย และเด็กเทคนิกทั่วประเทศ ว่าการเป็นทหารได้อะไรมากกว่าที่คุณคิดเยอะซึ่งนายกฯ ก็บอกว่าจะไหวหรือ ผมก็บอกว่าไหว” นายมงคลกิตติ์กล่าว