xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง มหากาพย์การบินไทยเจ๊งแล้ว เพราะใคร? - เบื้องลึกยืดเวลาแบนสารพิษเพื่อนายทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์







วันนี้ (29 พ.ย.) เวลาประมาณ 09.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ในสไตล์ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง แฉเบื้องหลังการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีมติให้ยืดเวลาการแบนสารเคมี 2 ตัวออกไปอีก 6 เดือน และไม่แบนไกลโฟเซต และประเด็นที่ทุกคนรอคอยฟัง การบินไทยใกล้จะเจ๊งจริงหรือ?

คำต่อคำ : SONDHI TALK [29 พ.ย.62] มหากาพย์ 'การบินไทย' เจ๊งแล้วจริงหรือ? / ยืดเวลาแบนสารพิษออกไป เบื้องลึกเป็นอย่างไร?

สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพรัก วันนี้ก็เป็นเช่นเคย ทุกๆ วันศุกร์ที่เราจะมาพบกันในการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก ในรายการ คุยทุกเรื่องกับสนธิ วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 อีก 2 วันก็จะขึ้นเดือนธันวาคมแล้ว วันนี้จริงๆ แล้วตั้งใจจะให้เวลาทั้งหมดที่จะพูดเรื่องการบินไทย แต่อย่าเพิ่งตกใจนะครับ ยังพูดอยู่ เผอิญว่าเมื่อวานนี้มันมีเรื่องใหญ่ที่เข้ามากะทันหัน คือเรื่องการที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตคนสนิทสุดของคุณทักษิณ ชินวัตร และอดีตผู้ต้องสงสัยที่ถูกตรวจสอบในคดี CTX เครื่องฉายเอกซเรย์ ในสมัยที่ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอยู่ ในยุคที่การบินไทยเริ่มตกต่ำ

คุณสุริยะ มางวดนี้ มาในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องสารพิษ เพราะเขาเพิ่งตั้งคุณสุริยะมา คุณสุริยะออกมาพูดอะไรบางอย่าง ประกาศออกมา ทำให้ผมรู้สึกโกรธ แต่ก็ต้องพยายามระงับความเกรี้ยวกราด ไม่ออกอาการในวันนี้ แต่เอาเถอะครับ คุณสุริยะพูดประโยคทองประโยคหนึ่ง ซึ่งเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ว่าประโยคทองประโยคนี้ผมอยากจะให้ท่านผู้ชมจำเอาไว้ให้แม่นยำ แล้ววันหนึ่งเราจะได้เอาคืนคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ


คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ บอกว่ามติของคณะกรรมการสารพิษมีมติเป็นเอกฉันท์ ท่านผู้อย่างนี้ ว่าสารพิษ 3 ตัว คือ ไกลโฟเซต พาราควอต และเจ้าคลอร์ไพริฟอส สองตัวหลัง คือ พาราควอต กับคลอร์ไพริฟอส ให้เลื่อนเวลาในการแบนไปอีก 6 เดือน อีก 6 เดือนนี้ คุณสุริยะให้ความเห็นว่า เนื่องจากจะได้ให้สารพิษ 2 ตัวนี้ ให้คนที่นำเข้าเขามีเวลาเตรียมการที่จะเอาไปทำลาย เพราะว่าในการประกาศแบน เมื่อเร็วๆ นี้มันมีเวลาไม่ถึง 2 เดือน แค่ 30 กว่าวัน เพราะฉะนั้นแล้วให้โอกาสผู้ประกอบการพวกนี้ไป ผมก็พอจะฟังได้เรื่องนี้ แต่ถึงฟังได้ ผมก็ยังมีข้อคิดที่อยากให้ท่านผู้ชมมาช่วยผมคิดในเรื่องนี้หน่อย

ส่วนสารพิษตัวแรก คือ ไกลโฟเซต คุณสุริยะบอกว่า จากมติที่ให้แบน กลายเป็นไม่แบนแล้ว สามารถเอามาใช้ได้ คุณสุริยะพูดออกมาว่า เนื่องจากว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเขาก็ยังใช้กัน เพราะฉะนั้นแล้วทำไมประเทศไทยถึงใช้ไม่ได้ และในโลกนี้มีประเทศที่ไม่ใช้สารนี้อยู่ไม่กี่ประเทศเอง ผมว่าคุณสุริยะเข้าใจอะไรผิดบางอย่างหรือเปล่า ประการแรก ผมขอพูดถึงสารพิษตัวแรกก่อน คือ ไกลโฟเซต ผมถามว่าทำไมประเทศสหรัฐอเมริกาบางส่วนเขายังใช้กัน และทำไมเราต้องใช้ ก็ในเมื่อมันมีผลพิสูจน์ออกมาแล้ว จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ท่านผู้ชมครับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ผมไว้ใจและเชื่อใจนักวิทยาศาสตร์ไทย สถาบันจุฬาภรณ์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ล้วนแล้วแต่พิสูจน์มาแล้วว่า สารพิษไกลโฟเซตนั้น มีผลที่จะกระทบต่อประชาชน และมีการพิสูจน์แล้วว่ามีการกระทบต่อประชาชน แล้วคุณสุริยะพูดไม่หมด พูดความจริงแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ผมยังมองคุณสุริยะในแง่ดีว่าคุณสุริยะนั้นถูกกลุ่มที่สนับสนุนสารพิษหลอก บอกว่าแม้กระทั่ง EPA : Environmental Protection Agency คือหน่วยงานของสหรัฐฯ ที่คอยปกป้อง ไม่ให้เกิดมลพิษ มลภาวะขึ้นมา ยังอนุญาตให้ใช้ได้ แต่คุณสุริยะไม่ทราบว่าผลที่ออกมานี้มันเป็นผลทางการเมือง เหตุผลเพราะว่าในสมัยนายบารัก โอบามา เป็นประธานาธิบดีนั้น EPA ไม่ได้มีมติออกมาแบบนี้ แต่นายทรัมป์ขึ้นมา นายทรัมป์ก็เลยเอาลูกน้องคนสนิทคนหนึ่ง ชื่อนาย Pruitt หมอนี่เป็นคนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมของโลกตลอดเวลา หมอนี่เป็นคนที่สนับสนุนการใช้ถ่านหิน ซึ่งเข้าทางนายทรัมป์ นายคนนี้ขึ้นมาก็ประกาศบอกว่าสารพิษพวกนี้ไม่ต้องไปแบน ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น เกิดอะไรขึ้นมา ท่านผู้ชม ปรากฏว่ากลุ่มต่างๆ ในอเมริกาฟ้องศาลเป็นร้อยๆ คดี แล้วปรากฏว่า EPA แพ้หมด แพ้ถึงขนาดที่เรียกว่าศาลมีคำสั่ง ศาลอเมริกามีคำสั่งให้เก็บสารพิษตัวนี้ออกไปให้หมด


ท่านผู้ชมครับ น่าเสียดายที่ประเทศไทยมันไม่มีกฎหมายที่จะให้คนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐ หรือการกระทำขององค์กรใดก็ตาม แล้วกระทบต่อคนหมู่มาก แล้วคนพวกนี้สามารถทำตัวเป็นโจทก์ร่วม วิธีการนี้ที่สหรัฐอเมริกาเขาเรียกว่า Class Action คือสมมุติว่า บริษัทๆ หนึ่งปล่อยสารพิษออกมาในแม่น้ำลำคลอง และพิสูจน์ได้ชัดว่าสารพิษในแม่น้ำลำคลองนั้นก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ก่อให้เกิดคนพิการ เจ็บไข้ได้ป่วย คนที่ได้รับผลกระทบนี้จะมาเข้าชื่อกัน จ้างทนาย บางกรณีมีโจทก์ร่วมประมาณ 2,000 คน แล้วพวกนี้ก็ไปต่อสู้กันในศาล และ 7 ใน 10 กรณี ประชาชนชนะหมด และมีการจ่ายเงินชดเชยให้ ถ้านับเป็นเงินไทยก็เป็นแสนๆ ล้านบาทแล้ว เมืองไทยยังไม่มี ผมอยากให้ท่านผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายในประเทศไทย หรือสภาผู้แทนราษฎร คิดถึงประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะถ้าวันดีคืนดีเกิดมีโรงงานๆ หนึ่ง หรือแม้กระทั่ง ปตท. ถ้า ปตท. ทำน้ำมันรั่วออกไปในทะเลที่ระยอง แล้วก่อให้เกิดปัญหามลพิษ ก่อให้เกิดปัญหาให้ชาวประมงที่ริมฝั่งไม่สามารถทำมาหากินได้ ออกไปจับปลาไม่ได้ คนพวกนี้มีสิทธิจะรวมตัวกันแล้วก็มาฟ้องศาล แต่ว่ากฎหมายเมืองไทยที่ออกมาเพื่อต่อต้านนายทุน หรือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ดูเหมือนว่าจะยาก นี่คือประเทศไทย

เอาล่ะครับ เรากลับมาเรื่องของคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นิดหนึ่ง อีกข้อเท็จจริงหนึ่งที่ผมจะเรียนให้ท่านผู้ชมทราบ สารไกลโฟเซตมันเป็นสารส่วนหนึ่งของบริษัทมอนซานโต บริษัทมอนซานโต เป็นบริษัทอะไร บริษัทผลิตพืชผีดิบ ก็คือเอาพืชมาตัดต่อพันธุกรรมกัน แล้วสมมุติว่า ตัดต่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะผลิตออกมาเป็นเมล็ดมะละกอ เมล็ดฝรั่ง สมัยก่อนชาวไร่ ชาวนาคนไทย เวลามีผลไม้อะไรออกมา ที่ปลูกในไร่ ในสวน พอมีเมล็ด ก็เอาเมล็ดหว่านลงไป พอหว่านไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว มะละกอ หรือมะม่วง ก็จะขึ้นมา แต่ถ้าเมื่อไรก็ตาม เราใช้สารนี้เมื่อไรก็ตาม ใช้เมล็ดพันธุ์พืช ซึ่งผมเรียกว่าเมล็ดพันธุ์พืชผีดิบ เขาเรียกพืช GMO เราใช้เมื่อไร สมมุติว่าเราใช้ เราปลูกมะละกอเสร็จ เราจะปลูกมะละกอต้นต่อไป เราใช้เมล็ดมะละกอ หรือเมล็ดของมะม่วง ไปปลูกต่อไม่ได้ ต้องไปซื้อเมล็ดพันธุ์จากมัน เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้ามอนซานโตทำสำเร็จ ในโลกนี้ทุกคนจะเป็นทาสของบริษัทมอนซานโต ประเทศอุตสาหกรรมจะต้องเป็นทาสของบริษัทมอนซานโต ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยังครับ และสารไกลโฟเซต เป็นส่วนหนึ่งของพืชผีดิบของมอนซานโต เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าไกลโฟเซตไม่สามารถเข้าในประเทศไทยได้ พืช GMO ที่มอนซานโตพยายามทำมา ก็จะเกิดไม่ได้ ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยังครับที่ผมพูด เพราะฉะนั้นแล้ว มอนซานโตถึงพยายามที่จะซื้อ ว่าจ้าง ให้เงินให้ทอง นักวิชาการที่ขายตัวหลายคน หรือกลุ่มคนซึ่งไม่เข้าใจ บางคนก็จิตใจใสซื่อบริสุทธิ์ ฟังความเห็นข้างเดียว ให้มาเป็นพรรคพวกตัวเอง เพื่อที่จะให้พันธุ์พืชผีดิบ หรือที่เรียกว่า GMO นั้นเกิดขึ้น


ด้วยเหตุนี้ ไกลโฟเซตถึงมีความสำคัญมาก สำคัญขนาดไหน สำคัญขนาดบริษัท อย่างเช่นไบเออร์ และมอนซานโต พวกนี้จะมีงบประมาณก้อนหนึ่ง สามารถจะเอางบประมาณก้อนนี้ไปจ้างล็อบบียิสต์ในอเมริกา ในสภาคองเกรส หรือวุฒิสภา เพื่อวิ่งเต้น ให้ ส.ส.อเมริกันนั้นเห็นด้วยกับเรื่องราวต่างๆ ที่เขากำลังเสนอไป มอนซานโตก็มีกลุ่มล็อบบียิสต์ที่ใหญ่มากกลุ่มหนึ่ง เผอิ๊ญ...เผอิญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งดูแลเรื่องการค้าขายสินค้าเกษตรระหว่างประเทศ ชื่อ นายเท็ด แมคคินนีย์ (Ted McKinney) เป็นคนที่ทำจดหมายมาถึงสถานทูตอเมริกัน มาถึงรัฐมนตรี มาถึงนายกรัฐมนตรีเรา ว่า การแบนสารพิษนี้ จะทำให้ต้นทุนการเกษตรของเราสูงขึ้นอีก 70,000-100,000 ล้าน เขาบอกว่าประเทศไทยจะแบนสารพิษเพราะเขากลัวคนตาย ถ้าแบนแล้วสินค้าการเกษตรจะสูญเสียเท่านี้ ซึ่งยังไม่มีการพิสูจน์ เพราะยังไม่ได้พูดถึงสารทดแทน แต่พอเช็กไปเช็กมา ไอ้หมอนี่ทำงานอยู่ 19 ปี 19 ปีอยู่กับบริษัท ดาวเคมิคัล (Dow Chemical) หรือบริษัท ดูปองต์ ซึ่งเป็นบริษัทกลุ่มเดียวกับพวกมอนซานโต ท่านผู้ชมครับ เหมือนกับที่ผมพูดเรื่องการแบนสารพิษครั้งนั้น ท่านผู้ชมจำได้ไหมที่ผมบอกไปว่า มีตัวแทนมอนซานโตเข้าไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนจะไปพบคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน หรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ แต่คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน ท่านก็ออกมาพูดจาขึงขังว่าไม่มี ท่านไม่ได้พบ แต่ที่แน่ๆ มอนซานโตได้เข้าไปในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ประเดี๋ยวผมจะกลับมาที่ท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน และผมจะกลับมาที่พรรคประชาธิปัตย์


ด้วยเหตุนี้ก็เลยมีการปล่อยให้สารไกลโฟเซตสามารถที่จะขายต่อไปได้ มีแถมพ่วงอีกนิดนะ เพื่อให้พวกเราสบายใจ แต่จำกัดพื้นที่การใช้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่โกหกตอแหลที่สุด เพราะว่ากระทรวงเกษตรฯ มีชื่อมากในเรื่องจำกัดพื้นที่การใช้ แต่ว่าปล่อยให้มีการลักลอบเอาเมล็ดพันธุ์พืชพวกนี้ หรือสารประเภทนี้ เอาไปใช้ในที่อื่นได้ ท่านผู้ชมครับ เงินไม่ได้เข้าใครออกใคร ผมจะบอกให้ท่านผู้ชมฟัง อธิบดีบางอธิบดี ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงเกษตรฯ บางทีขึ้นมาเป็นอธิบดี ต้องเสียเงิน 20 ล้าน 30 ล้าน 40 ล้าน ในยุคสมัยคุณมนตรี พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อธิบดีทุกคนที่ขึ้นมาต้องจ่ายเงินจ่ายทองทั้งนั้น ถ้าไม่จ่ายเงินจ่ายทอง ไม่ได้เป็นหรอกครับ ฝากลมได้ลม ไม่มีทาง ถ้ามีสิ่งที่แนบท้าย หรือสิ่งที่ส่งมาด้วย สัก 3-4 กระเป๋า ก็ได้เป็นแน่นอน

เอาล่ะ ท่านผู้ชม ลองมาคิดดูดีๆ เมื่อสารนี้ยังใช้ได้อยู่ ก็เป็นการที่จะเอาใจ คุณสุริยะเป็นคนเดียวที่พูดออกมาตอนนั้น ด้วยความตกอกตกใจว่าการที่เราไปแบนสารพิษไกลโฟเซต พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส มันจะทำให้อเมริกาบีบเราเรื่องการค้า แล้วดูสิ GSP ก็มาจากเรื่องนี้ แต่พอเรื่องนี้เป็นข่าวออกมา ทุกคนก็ตกใจ เพราะว่าถ้าเชื่อ หรือยอมรับตรงนี้ ก็เท่ากับว่ารัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้ต่างอะไรกว่าข้าทาสของรัฐบาลอเมริกัน ที่สำคัญเราเป็นข้าทาสของบริษัทข้ามชาติ ก็เลยออกมาปฏิเสธกันซ้ายขวาหน้าหลังตลอดเวลาว่า ไม่ใช่ ไม่เกี่ยว ไม่ใช่ ไม่เกี่ยว ท่านผู้ชมครับ เกี่ยวแน่นอน ท่านผู้ชมจำคำพูดผมเอาไว้อย่างนะ อะไรที่ออกมาจากปากรัฐบาลในบางกลุ่ม บอกว่าไม่ใช่ คำตอบสุดท้ายคือใช่ ท่านผู้ชมครับ รัฐบาลที่ทะเลาะกัน วันดีคืนดีมีข่าวฟาดงวงฟาดงากัน เสร็จเรียบร้อยแล้วออกมาแถลงข่าวบอกว่ารัฐบาลยังมั่นคง ไม่มีร้าว แต่ในข้อเท็จจริงก็คือ มันร้าว เหมือนครั้งหนึ่ง ผมผ่านลักษณะการประชาสัมพันธ์ หรือการโกหกตอแหลอย่างนี้มามากแล้วในชีวิตผม 72 ปีที่ผ่านมา ผมยังจำได้เลยว่า ในยุคที่เมืองไทยลดค่าเงินบาท พอมีข่าวว่าจะลดค่าเงินบาททีไร เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แม้กระทั่งคนอย่างนายกรัฐมนตรี ก็บอกว่า ไม่มี ค่าเงินบาทไม่มีวันลด แล้วไม่เกิน 7 วัน มันลดทันทีเลย เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าเพิ่งไปเชื่ออะไรมากมายนัก ให้ฟังหูไว้หู

ผมก็เลยอยากจะบอกท่านผู้ชมว่า ผมอยากจะดูซิว่า GSP ที่อเมริกาตัดเราไป แล้วพื้นฐานการตัด GSP ของเรามันอ้างเรื่องแรงงานต่างด้าว และอียูก็กำลังพิจารณาที่จะตัด GSP เรา ถ้าหากเรายังแก้แรงงานต่างด้าวไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสารพิษ 3 ตัวนี้เลย

ท่านผู้ชมครับ อันหนึ่งที่ต้องพูดจาให้เห็นชัดเจนสักนิด วันนี้เราจำเป็นต้องพูดถึงคน 2 คน และพรรค 2 พรรค คนแรก คือ คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คนที่ 2 คือ รัฐมนตรีฯ เฉลิมชัย ศรีอ่อน แห่งพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 3 คือ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล แห่งพรรคภูมิใจไทย และแถมคุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์ อีก เรื่องของมันเป็นอย่างนี้ ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะว่าทุนของต่างชาติเข้ามาวิ่งล็อบบนี้และใช้ทางการทูตเข้ามาบีบประเทศไทย ในขณะเดียวกัน การที่จะเลื่อนการแบนสารพิษไปอีก 6 เดือน เลื่อนเพื่อใคร เลื่อนเพื่อนายทุนที่นำสารพิษพวกนี้เข้ามา มันอาจจะอ้างว่า 30 วัน มันทำลายไม่ทัน จริงๆ ไม่ต้องทำลาย ก็แค่ยึดคืนมาเท่านั้นเอง แล้วรัฐบาลก็มีหน้าที่ทำลายมันเอง แต่นั่นก็คือว่า เงินทองทั้งหมดมันต้องสูญหายไป เช็กสตอกก่อนที่จะมีเรื่อง สตอกมีเป็นล้านๆ กิโลฯ ล้านๆ กิโลฯ ไหนๆ วันนี้อีกหน่อยก็จะขายต่อไม่ได้แล้ว ก็ขอโละสตอกหน่อย ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าเงินมันสะพัดขนาดไหน ผมไม่ได้กล่าวหาว่าเงินเข้ากระเป๋าใครบ้างนะครับ แต่ถ้าเข้ากระเป๋าใคร ก็ขอให้มันพินาศฉิบหายไปทั้งวงศ์ตระกูลก็แล้วกัน เอากันง่ายๆ ดีไหมครับท่านผู้ชม ผมว่าบางครั้งเวลาเราสู้เรื่องอะไร เราสู้มันไม่ได้ เราต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ล่ะ

เอาเป็นว่า ถ้าเงินพวกเจ้าของ พวกนำเข้าสารพิษมาแล้วเอาไปกระจายออกไปให้ใครบ้าง เรื่องสารพิษเดิมทีเจรจาเลื่อนกัน 1 ปี แต่ผมเข้าใจว่าบางคนอาจจะเห็นว่า 1 ปี เดี๋ยวโดนกระทืบตาย เอา 6 เดือนก็แล้วกัน กำลังสวยๆ 6 เดือนไหวไหม ไหว แล้วทำไมสารพิษนี้ถึงสั่งเข้ามาเยอะ ที่สั่งเข้ามาเยอะ เพราะมันไม่เคยคิดว่าจะมีการแบน เพราะมีความพยายามหลายครั้งผ่านรัฐมนตรีเกษตรฯ แทบจะทุกรุ่น ปรากฏว่ารัฐมนตรีเกษตรฯ ไม่มีใครทำตาม คือยอมต่างชาติ และยอมนำเข้าสารพิษ ไม่เชื่อลองไปถามท่านรัฐมนตรีฯ ฉัตรชัย สิครับ ที่ท่านมีฉายาว่า นมชง ยุคท่านก็เป็นยุคที่พวกนำเข้าสารพิษมีความสุข เพราะพูดกับท่านรู้เรื่องดี ความหมายต่อท้ายอะไร ผมไม่พูดนะครับ ท่านผู้ชมตีความเอาเอง ผมไม่เกี่ยวนะครับ (คิดกันเอาเองก็แล้วกัน)

ทีนี้ พวกนี้พอเห็นว่า มาอีกแล้ว เสนอแบนสารพิษ ไบโอไทย คุณวิฑูรย์ คนโน้นคนนี้ หมอธีระวัฒน์ จะมีอะไร โวยวายกัน พอเข้าคณะกรรมการสารพิษ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหลักสำคัญ ก็บอกลูกน้องตัวเองว่า เฮ้ย อย่าไปแบนเขา มันก็ไม่แบน ก็เลยรีบสั่งเข้ามาๆ ก็เลยกลายเป็นสตอกล้น พอสตอกล้นแล้ว เกิดความกดดันทางสังคม ท่านผู้ชมต้องเข้าใจ บทบาทของท่านผู้ชมที่ฟังเรื่องราวต่างๆ ของผม แล้วท่านผู้ชมแชร์ออกไป เมื่อแชร์ออกไปแล้ว มีคนเห็นด้วยกับท่านผู้ชมมากมาย เยอะแยะ อย่าลืมแชร์ทุกเรื่องออกไป เมื่อเยอะแยะแล้ว มันสร้างความกดดัน สร้างความกดดันในสังคม แล้วญาติพี่น้อง คนโน้นคนนี้ ที่เกี่ยวข้องกับคนที่มีอำนาจในการเห็นด้วยกับสารพิษ ก็เริ่มไปพูดกับคนในบ้าน อ้าวพ่อ ทำไมเป็นแบบนี้ นี่เขาด่าพ่อนะ โน่นนี่นั่น มันก็เลยเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่านผู้ชมเริ่มเห็นด้วยกับผมไหมล่ะครับ แต่เผอิญเรื่องนี้ เขาเรียกว่าติ่ง ติ่งต่อเนื่องไป แต่ผมก็จะต้องพูดถึงเรื่องติ่งนี้สักนิดหนึ่ง

ท่านผู้ชมครับ คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คงไม่ทราบ หรือว่าคงทราบ รวมทั้งคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน ด้วย ว่ากระบวนการต่ออายุสารพิษอีก 6 เดือน และการยกเลิกสารพิษตัวที่ผมพูดออกไป คือไกลโฟเซต นั้น มันเป็นกระบวนการทำกันมาตั้งแต่ต้นแล้ว ตั้งแต่มีการแบนสารพิษ พอมีการแบนสารพิษ ก็มีการเอาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสารพิษเอาไปให้การกับคณะกรรมาธิการพาณิชย์ แล้วใครเป็นประธานคณะกรรมาธิการพาณิชย์รู้ไหม คนของพรรคประชาธิปัตย์ สายตรงของคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน คณะกรรมาธิการพาณิชย์ก็เอาคนซึ่งไม่ต้องการให้แบน นี่ก็มาใส่ข้อมูลเป็นเรื่องใหญ่ว่าจะทำให้ export บ้านเราตก สินค้าทุกอย่างที่เราทำทุกวันนี้ เราก็ส่งออกอียู และเราก็ใช้พาราควอต เราก็ใช้สารบ้าบอคอแตกนี้มา ทำไมอียูไม่ปฏิเสธ มันก็เลยเป็นวิธีการ propaganda เอาเรื่องตัวนี้เข้าไปสู่กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมก็เป็นห่วง ใช่ ผู้ประกอบการจะแย่นะ เกษตรกรแย่นะ เจ้าของไร่ข้าวโพดจะแย่นะ เจ้าของมันสำปะหลังก็แย่นะ ทั้งหมดที่พูดกันนะ ท่านผู้ชม มันพูดอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าไปแบนสารพิษพวกนี้ ประเทศไทยจะล่มจมทางการเกษตร ผมไม่อยากจะใช้แสลงที่ผมตั้งขึ้นมาแรกๆ คือพวกนี้คือไอ้พวกสันขวาน พวกสันขวานจริงๆ การเกษตรมันจะมีทางออกของมันตลอดเวลา อันนี้ใช้ไม่ได้ เขาจะหาวิธีใช้มา ภูมิปัญญาของบ้านเราในเรื่องการเกษตร เรานี่ต้องเป็นชาติมหาอำนาจทางการเกษตร หนึ่งในไม่กี่ประเทศ เพราะเราทำการเกษตรมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่สมัยรุ่นบรรพบุรุษของเรา ตั้งแต่ประเทศไทยตั้งประเทศขึ้นมา การเกษตรคือหัวใจสำคัญ เพราะฉะนั้นภูมิปัญญาพวกนี้เขาจะมีวิธีแก้ เป็นอย่างนี้ต้องแก้อย่างนี้ แต่ไม่เคยมีใครทำอะไร


แล้วที่สำคัญที่สุดคืออะไรรู้ไหม ท่านผู้ชม คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน คุณทำอะไรอยู่ที่กระทรวงเกษตรฯ คุณมีความสุขกับกรมวิชาการเกษตรเหรอ ไอ้กรมบ้านี่เมื่อไรจะยุบไปเสียที ทั้งๆ ที่คุณรู้ว่าสารนี้มันไม่ดี มันเป็นภัยต่อมนุษย์ แล้วมันมีสารตกค้าง ตกไปสู่พืชผักผลไม้ และมีผลต่อเนื่องไปถึงรุ่นลูกคุณ รุ่นหลานคุณ ทำให้เด็กที่ออกมาทีหลังมีมะเร็งมากขึ้น ผู้หญิงมีปัญหาเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น ก็เพราะสารตกค้างพวกนี้ ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุขท่านเพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ท่านบอกว่าสาธารณสุขส่งทีมไปตรวจสอบและวิจัย ค้นพบว่ากะหล่ำปลีเมื่อเอามาทดสอบแล้ว มีสารนี้ถึง 0.21 เปอร์เซ็นต์ สารพิษพวกนี้ และท่านผู้ชมทราบไหมว่าปริมาณมาตรฐานที่ตั้งเอาไว้ห้ามเกิน คือเท่าไร ท่านผู้ชมพร้อมหรือยัง 0.01 ครับ นี่คือ 0.01 คือมาตรฐานที่เขาตั้งไว้ห้ามไม่ให้สารพิษอยู่ในพืชผักผลไม้เกินเท่านี้ แต่เมื่อเราไปพิสูจน์โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กะหล่ำปลี พิสูจน์ทุกภาค มีสารนี่อยู่ถึง 0.21 เปอร์เซ็นต์ แล้วภาระมันตกกับใครล่ะ ภาระก็ตกมากับรัฐ ตกมาอยู่กับกระทรวงสาธารณสุข พอผู้หญิงไม่สบาย พอเด็กออกมาปัญญาอ่อน สมาธิสั้น เป็นโรคไทรอยด์ แล้วเรามี 30 บาทรักษาทุกโรค มันก็มาจากกระเป๋าพวกเราทั้งนั้น แต่มันเกิดขึ้นเพราะความโลภและความระยำตำบอนของพวกที่เห็นด้วยกับการใช้สารพิษ ผมไม่เถียง การใช้สารพิษบางตัวมันอาจจะดีในบางกรณี แต่ว่าคุณทำอย่างไรที่คุณจะควบคุมไม่ให้มันเกิน 0.01 ประเทศไทยทำไม่ได้ ทำไมประเทศไทยทำไม่ได้ เพราะข้าราชการคือตัวการ ถ้าทำได้จริงๆ ผมเฉยๆ แต่เนื่องจากมันทำไม่ได้ มันต้องยกเลิกไป แล้วผมก็ถามว่า ในเมื่อคุณรู้ว่าจะยกเลิก แล้วทำไมกรมวิชาการเกษตร ชื่อมันก็บอกแล้วว่า กรมวิชาการเกษตร มันถึงไม่สรรหา ใช้ความรู้ที่มีอยู่ หาตัวแทนที่จะมาทดแทน มันนั่งเฉยๆ เพราะว่ามันมีความสุขกับการได้รับการเอื้อเฟื้อเกื้อหนุนจากบริษัทที่นำเข้าสารพิษพวกนี้


ท่านผู้ชมไปดูสิครับ วันหนึ่งๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในกรมวิชาการเกษตรจะถูกเลี้ยงดูปูเสื่อโดยพวกเจ้าของบริษัทสารเคมีทั้งหลาย เพื่อ ... ท่านครับ อันนี้นะครับ อันนี้พิสูจน์แล้วนะครับ มีติดปลายนวมบ้าง พาไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง พาไปดูงานบ้าง ท่านครับ จะพาไปดูงาน ท่านเอาลูก-เมียไปด้วยก็ได้นะครับ ท่านอย่าไปคนเดียว เอ้าไป สมมุติว่าเมียไม่ว่าง หรือไม่อยากเอาเมียไป ท่านเอาใครไปก็ได้ครับ เราจะทำอย่างไรกับมันดี

เอาล่ะ กลับมาถึงประเด็นของคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก่อนไปถึงคุณสุริยะ ผมขอบังอาจเรียนถึงคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน นิดหนึ่ง ผมผิดหวังกับท่านรัฐมนตรีฯ เฉลิมชัยมาก เพราะว่าท่านเป็นประเภทเด้งเชือก ท่านเด้งเชือกหนีทุกเรื่อง อย่างเรื่องนี้ท่านบอกว่า ท่านไม่เอาสารพิษ ท่านเห็นด้วย แต่ท่านลืมนึกไปว่าคนไทยไม่ได้กินแกลบ คนไทยกินข้าวกัน ในเมื่อท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ถ้าท่านไม่เอาจริง ท่านต้องเรียกท่านอธิบดีกรมวิชาการฯ และตัวแทนกระทรวงเกษตรฯ ที่อยู่ในกระทรวง ที่จะต้องเข้าไปในคณะกรรมการพิจารณาแบนหรือไม่แบนสารพิษ มาสั่งการว่า นโยบายของผมไม่เอานะ เพราะมันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ถามว่าท่านพูดหรือเปล่า ท่านไม่พูดหรอก เพราะฉะนั้นแล้วท่านจะมาโกหกประชาชนได้อย่างไร ท่านนี่ล่ะตัวการ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น และพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก่อนมีคำขวัญว่า ประชาชนต้องมาก่อน มาวันนี้ผมอยากให้ท่านผู้ชมจำเอาไว้ คำขวัญพรรคประชาธิปัตย์ คือ ประชาชนต้องตายก่อน คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นถึงเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะบอกไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ จะบอกว่าผมไม่เกี่ยวนะครับ เพราะว่าผมไม่ชอบ ไม่ต้องการ แต่ว่ามติคณะกรรมการฯ คุณทำไมไม่สั่งคนของคุณ การที่คุณไม่สั่งคนของคุณก็คือว่า เข้าไปประชุมนะ นี่คือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เข้าไปประชุมนะ แล้วคุณเอาอย่างนี้แล้วกัน อย่าเอามาเกี่ยวข้องกับผมนะ แต่ผมอยากให้คุณค้านการแบน เข้าใจหรือยังครับท่านผู้ชม

และตั้งแต่ท่านเป็นรัฐมนตรีมา พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ผมยังไม่เคยเห็นนโยบายอะไรของท่านเลยที่เป็นรูปธรรม ที่ทำเพื่อก่อให้เกิดเกษตรยั่งยืน พอตอนที่สารพิษกำลังถูกโจมตีหนัก ท่านก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าท่านจะเน้นเรื่องเกษตรยั่งยืน กระทรวงเกษตรฯ นี่หัวใจหลักของเกษตรกร ท่านทำได้เพียงแค่นี้หรือ มีอะไรที่ท่านมีนโยบายแล้วผมสัมผัสได้บ้าง ถ้าท่านแน่จริง ถ้าท่านบอกว่าสินค้าการเกษตรที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ออร์แกนิก เป็นอนาคตของประเทศไทย ซึ่งถ้าถามคำนี้กับทุกคนในวงการ ทุกคนยอมรับ ไม่อย่างนั้นทำไมแม่บ้านต่างๆ เดี๋ยวนี้พากันไปซื้อผักผลไม้ แล้วบอกว่า อันนี้ออร์แกนิกหรือเปล่า อันนี้ปุ๋ยอินทรีย์หรือเปล่า เพราะคนใส่ใจเรื่องสุขภาพมาก ต้นทุนการใช้จ่ายของรัฐบาลทางด้านสาธารณสุขมันมีแต่เพิ่มขึ้น ไม่เพิ่มขึ้นได้อย่างไรล่ะครับ คนกินเหล้าเพิ่มขึ้น เพราะบริษัทเหล้าขายเหล้าและเชียร์ให้คนกินเหล้ามากขึ้น คนโดนสารพิษ ไม่สบาย ก็ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาล แล้วเดี๋ยวนี้ 30 บาทรักษาทุกโรค งบประมาณจะไม่มีอยู่แล้ว พวกท่านน่ะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศชาติต้องฉิบหายแบบนี้


ท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน ถ้าท่านทำงานเป็น ไม่ใช่พึ่งพาข้าราชการ อย่าให้คำพูดที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์คือพรรคข้าราชการ มันเป็นความจริง ทำไมท่านไม่เลือกจังหวัดสักจังหวัดหนึ่งล่ะ ท่านทำโครงการมาสิ ต้องการที่จะปลูกพืชผักผลไม้ในจังหวัดนั้นโดยใช้ออร์แกนิกหมด ไม่มีการใช้เคมีทั้งสิ้น ทำโครงการให้เรียบร้อยแล้วท่านพิจารณาว่าต้องเอาเงินชดเชยให้ชาวไร่ ชาวนา ที่ต้องฟื้นฟูดินใหม่ เพื่อมาใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ต้องใช้เวลา 2 ปีแบ็กอัพ ต้องเอาเงินสนับสนุนเขาเท่าไร ทำไมท่านไม่ทำโครงการนี้ขึ้นมา ขออนุมัติ ครม. แล้วไปเจรจากับกระทรวงการคลัง เจรจากับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ว่าขอกู้เงินพวกนี้ออกมา 2 ปี เพราะชาวไร่ ชาวนา จะไม่มีผลผลิตออกมาเลย 2 ปีนี้ ระหว่างที่ฟื้นฟูดิน ปีที่ 3 แล้วจะค่อยๆ ทยอยคืน เราก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ ท่านผู้ชม ว่าระหว่างสินค้าเกษตรที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ กับสินค้าที่ใช้ปุ๋ยเคมี ราคามันจะต่างกันอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ หรือบางครั้งเท่าตัว ถ้าท่านมีอย่างนี้มา ผมถือว่านี่คือผลงานนะ ท่านมี แสดงว่าท่านเข้าใจเกษตร

ท่านผู้ชมครับ เราโม้กันมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอว่า ประเทศไทยต้องเป็นครัวโลก ผมดูแล้วไม่เห็นจะเป็นครัวโลกตรงไหนเลย เป็น "ครัวโรค" ไม่ใช่ "ครัวโลก" "ครัวโรค" โ-ร-ค และถ้าท่านยังดำเนินการแบบนี้ ท่านมีการอนุญาต ไม่จริงจังกับการแบนสารพิษ แล้วท่านจะให้ประเทศไทยเป็นครัวโลกได้อย่างไร ผมถึงบอกว่าผมยังไม่เคยเห็นผลงานของท่านเลย นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงรัฐมนตรีคนอื่นอีกนะ ในพรรคประชาธิปัตย์

ท่านผู้ชมครับ ท่านผู้ชมที่เคยชอบพรรคประชาธิปัตย์ หรืออย่างไรก็ตาม ที่วางตัวกลางๆ ท่านพิจารณาคำพูดที่ผมพูดหน่อย ผมจะไม่บอกว่า งวดหน้าถ้ามีเลือกตั้งท่านควรจะเลือกหรือไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าท่านใช้ปัญญาของท่านคิดเองก็แล้วกัน ใครทำงานหรือใครไม่ทำงาน ใครมีวาระซ่อนเร้น ใครไม่มีวาระซ่อนเร้น ใครตรงไปตรงมากับประชาชน ใครลดเลี้ยวคดเคี้ยวกับประชาชน ท่านผู้ชมดูออก

ท่านผู้ชมครับ มาถึงคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ท่านได้กล่าววจีทองออกมาคำหนึ่ง ท่านบอกว่า เรื่องนี้เดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง คุณสุริยะครับ เรื่องนี้คุณรับผิดชอบไม่ได้หรอก มันใหญ่เกินกว่าชีวิตคุณจะมารับผิดชอบ เอาล่ะ ไหนๆ คุณก็บอกคุณจะรับผิดชอบเอง ผมอยากให้ท่านผู้ชมจำเอาไว้ก็แล้วกัน เขียนชื่อคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เอาไว้ แปะเอาไว้ที่ฝาผนังห้องนอน มีลูกมีหลาน บอกว่าคนนี้ชื่อสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ขอรับผิดชอบ กระทรวงสาธารณสุขครับ ถ้ามีหลักฐานว่ามีคนบาดเจ็บหรือคนตายจากสารบ้าบอคอแตกนี้ หรือมีส่วนผสมของสารที่เขาเพิ่งยกเลิกแบน ช่วยแจ้งมาทางผมหน่อยได้ไหม ผมจะออกเงินออกทองของผมเอง ไปหาคนไม่สบาย แล้วผมจะพาเขาไปหาคุณสุริยะ แล้วผมจะบอกให้คุณรับผิดชอบนะ ตามคำพูดของคุณ

คุณสุริยะครับ คุณเป็นคนที่เรียนเก่งมาก คุณจบ UC Berkeley : University of California ที่เบิร์กเลย์ คุณกับผมก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน ผมคือ UCLA : University of California ที่ลอสแองเจลิส ของคุณที่เบิร์กเลย์ คุณจบสายวิทยาศาสตร์ คุณริที่จะเป็นนักการเมือง คุณคือคนสนิทของคุณทักษิณ ชินวัตร คุณปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้ คุณได้มาเป็นรัฐมนตรีเพราะว่าคุณลงทุนในพรรคการเมือง คุณลงทุนในกลุ่มของพวกคุณร่วมกับคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อคุณมี ส.ส.จำนวนหนึ่ง คุณก็เอา ส.ส.นี้ไปร่วมพรรครัฐบาล แล้วก็ต่อรอง ในที่สุดคุณก็ได้เป็นรัฐมนตรี แต่ตอนแรกคุณต้องการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพราะว่าคุณเชี่ยวชาญพลังงาน เนื่องจากคุณเคยไปนั่งที่นั่น มันอู้ฟู่ คุณก็เลยอยากกลับไป แต่เผอิญเขาไม่ให้ เถียงกันไปเถียงกันมา ท่านผู้ชมจำได้ไหม ถึงกับมาแถลงข่าวกันเลยนะตอนนั้น บอกว่าผิดสัญญาโน่นนี่นั่น จะถอนโน่นนี่นั่น จนในที่สุด พล.อ.ประวิตร ต้องมาไกล่เกลี่ย ในที่สุดคุณก็จบลงด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม


คุณสุริยะ คุณไม่ใช่ตัวแทนประชาชน คุณจำคำพูดนี้ไว้นะ คุณคือนักธุรกิจ ถ้าคุณเป็นตัวแทนประชาชน คุณจะทนไม่ได้ที่เห็นคนตายแล้วตายอีก แล้วคุณจะต้องออกมาฟาดงวงฟาดงาเรื่องนี้ คุณไม่ใช่ แต่เอาล่ะ คุณบอกคุณจะรับผิดชอบ คุณรับผิดชอบให้ตลอดนะครับ ผมสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมจะไม่ลืมคำพูดคำนี้ของคุณ ว่าผมขอรับผิดชอบเอง ท่านผู้ชมครับ จ่าหน้า เขียนชื่อคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เอาไว้ นามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ มีอยู่ 2 คนที่โดดเด่นในตอนนี้ คนหนึ่งคือ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเป็นหลานของคุณ พ่อของคุณธนาธร เป็นพี่ชายของคุณ คุณก็คืออีกหนึ่งจึงรุ่งเรืองกิจ จึงรุ่งเรืองกิจ คุณธนาธร ไปในทิศทางหนึ่ง ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องพูดถึง ทุกคนรู้อยู่แล้ว ส่วนคุณจะไปทิศทางไหน ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณ คุณอย่ามาพูดเพียงเพราะคุณต้องการให้เรื่องนี้จบ แม้กระทั่งสิ่งที่คุณพูดออกมาว่าเรื่องนี้เป็นมติเอกฉันท์ วันนี้ก็ถูกจับโกหกได้แล้ว ถูกจับโกหกได้โดยท่านนายกสภาเภสัชกรรมแห่งประเทศไทย และท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการ อย. อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่าไม่ได้มีการยกมือโหวตกัน คุณเหมารวมเข่งนี่ครับ คุณสุริยะ แต่ผมอยากจะประกาศให้ท่านผู้ชมและประชาชนที่ฟังเรื่องนี้ และที่ได้รับการแชร์เรื่องนี้ไป ให้จำชื่อคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เอาไว้จนตาย ถึงชั่วลูกชั่วหลาน และใครก็ตามที่ไม่สบายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยจากสารพิษนี้ ซึ่งยังมีขายอยู่ ซึ่งยังอนุญาตให้ทำต่อไปได้ ให้จำชื่อนี้เอาไว้เพื่อคุณจะได้ไปเช็กบิลให้ถูกคน

ท่านผู้ชมครับ ถ้าผมไม่ติดอะไรพวกนี้ ผมก็อยากจะชักชวนเอาผู้ป่วยทุกคน หรือญาติที่เสียชีวิตแล้ว พายกขบวนกันไปพบคุณสุริยะที่กระทรวงอุตสาหกรรมหน่อย จะดีไหม ใครที่ตายไปด้วยสารพิษนี้ ให้ถือรูปของพ่อตัวเอง แม่ตัวเองไป ใครที่ไม่สบาย จำเป็นต้องนั่งรถเข็น เดี๋ยวจะหารถเข็นให้นั่ง เพราะว่าคุณสุริยะพูดกับเราแล้วว่า เรื่องนี้ผมรับผิดชอบเอง ท่านผู้ชมครับ เป็นเรื่องที่อัปยศที่สุดในมติเมื่อวานนี้ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าคณะกรรมการที่เห็นด้วย ท่านมีความสุขดีหรือ ที่จะทำให้ประชาชนรุ่นนี้และรุ่นต่อๆ ไป จะได้รับผลกระทบ ซึ่งมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ของประเทศไทย สถาบันจุฬาภรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล และหลายๆ สถาบัน แต่ดันทะลึ่งไปเชื่อฝรั่ง ก็เอาเฉพาะแค่นี้ก็แล้วกัน

ท่านผู้ชมครับ วันนี้เรามาพูดกันต่อในเรื่องของการบินไทย ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการบินไทย ผมจะเอาตัวเลขบางอย่างให้ดู เขามีการจัด 10 อันดับสายการบินยอดเยี่ยม ปี 2020 โดยเว็บไซต์ AirlineRatings.com 10 อันดับยอดเยี่ยมมีใครบ้าง ผมเล่าให้ฟังนะ อันดับ 1 Air New Zealand อันดับ 2 Singapore Airlines อันดับ 3 All Nippon Airways (ANA) อันดับ 4 Qantas ของออสเตรเลีย อันดับ 5 Cathay Pacific ของฮ่องกง อันดับ 6 Emirates อันดับ 7 Virgin Atlantic อันดับ 8 EVA Air ของไต้หวัน อันดับ 9 Qatar Airways ของตะวันออกกลาง อันดับ 10 Virgin Australia


ท่านผู้ชมครับ ผมไล่ดูต่อไป 11-20 ยังไม่มีชื่อการบินไทยอยู่เลย หายไปไหน มันเกิดอะไรขึ้น เอาอีกสักนิดดีไหม ไหนๆ ก็ไหนแล้ว จะมาเรื่องนี้แล้ว

บริษัทต่างๆ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะนี้ สายการบินที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทย มีอยู่ 4 สายการบิน อันดับแรก คือ การบินไทย อันดับที่ 2 ก็คือนกแอร์ อันดับที่ 3 คือ บางกอกแอร์เวย์ส ของคุณหมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ อันดับที่ 4 คือ แอร์เอเชีย เรามาดูราคาหุ้นของแต่ละบริษัท ราคาหุ้นมันสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะซื้อหุ้นตัวนี้หรือไม่

แอร์เอเชีย ราคาหุ้น ณ เมื่อวานนี้ที่ผมเช็ก 2.30 บาท ท่านผู้ชมอย่าเพิ่งตกใจว่าทำไมมันต่ำ เพราะว่าราคาพาร์ของแอร์เอเชีย ราคาหุ้นที่เขาตราเอาไว้ 10 สตางค์ เมื่อ 10 สตางค์ แล้วราคาขึ้นถึง 2.30 บาท ก็แสดงว่าราคาหุ้นของแอร์เอเชียมีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าที่ตราไว้ 23 เท่า อันที่ 2 บางกอกแอร์เวย์ส ราคาหุ้นที่ตราไว้ คือ 1 บาท ไม่ใช่ 10 สตางค์แล้วนะ 1 บาท ราคาหุ้นของบางกอกแอร์เวย์ส 7.20 บาท ก็เท่ากับ 7 เท่า เกือบ 8 เท่า นกแอร์ ราคาหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ คือหุ้นละ 1 บาท แต่ราคาหุ้นนกแอร์ปัจจุบัน เมื่อวานนี้ 2.02 บาท

เอาล่ะ เรามาถึงพระเอกของเราแล้ว การบินไทย มูลค่าที่ตราไว้ คือ 10 บาท ท่านผู้ชมอย่าสับสนนะครับ ราคาหุ้นต้องกลับไปดูมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ จำได้ใช่ไหมครับ แอร์เอเชีย มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 10 สตางค์ นกแอร์/บางกอกแอร์เวย์ส ราคาที่ตราไว้ 1 บาท การบินไทย ราคาตราไว้คือ 10 บาท ปรากฏว่าหุ้นเมื่อวานนี้ 7.20 บาท แปลว่าราคาที่ตราไว้ 10 บาท ราคาที่ซื้อขายเมื่อวานตกลงมาเหลือ 7.20 บาท ท่านผู้ชมครับ คนที่เล่นหุ้น หรือไม่เล่นหุ้น ตามผมมา

ตอนการบินไทยเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคา IPO คือราคาที่คนจะไปซื้อขายหุ้นจอง ถ้าผมจำไม่ผิด 60 หรือ 62 บาท วันนี้มันตกเหลือ 7.20 บาท ได้อย่างไร ตกได้นะครับ ผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไมมันถึงตก






ก่อนที่ผมจะพูดไปเรื่องนี้ ผมขอพูดเรื่องบางเรื่องก่อนเป็นภาพรวม ผมมีการ์ตูนให้ดู สนุกสนานมาก ท่านผู้ชมครับ (ภาพแรก) อันนี้เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงผู้บริหารการบินไทย นักการเมือง บอร์ด ประธานบอร์ด และบอร์ดบางคน กำลังมีความสุข อิ่มเอมเปรมฤทัย ดื่มแชมเปญบนเครื่องบินการบินไทย (ภาพที่ 2) รูปที่สอง ระหว่างอิ่มเอมอยู่นี้ ก็เอาแส้หวดคนลากเครื่องบิน (ภาพที่ 3) มาดูรูปที่ 3 คนลากคือใคร คือพนักงานการบินไทยระดับที่ผมเรียกว่าระดับ Front line หรือเราเรียกกันว่าพวกแนวหน้า พวกเช็กอิน พวกกราวนด์ พวกต้อนรับแขก พวกช่าง พวกโน่นพวกนี่ คือพวกที่พึ่งพาอาศัยว่าต้องมาทำงานตามเวลา เขาสั่งให้ทำล่วงเวลา ทั้งที่ไม่อยากจะทำก็ต้องทำ สิ้นปีเคยมีโบนัส ไม่มีโบนัสก็ต้องทำ เงินเดือนได้แค่นี้ มีค่าวิชาแค่โน้นแค่นี้ ก็อยู่เพียงแค่นี้ (ทั้งหมดนี้เป็นอภินันทนาการจากคุณบัญชา คามิน เพื่อนรักของผมที่เป็นนักวาดการ์ตูนในเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ) ประเด็นอยู่ตรงไหนที่ผมเอาการ์ตูนนี้มาให้ดู

ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ท่านผู้ชม จำคำพูดผมไว้ ทุกๆ ครั้งที่การบินไทยมีวิกฤต พวกที่มีอำนาจทั้งหลาย สิ่งแรกจะต้องบอกเลย ว่าต้องลดค่าใช้จ่าย คุณพูดอีกร้อยครั้ง ก็ถูกร้อยครั้ง ต้องลดค่าใช้จ่าย ประเด็นคือคุณลดอย่างไร หนึ่ง สิ่งแรกที่คุณทำ เพราะคุณเห็นปริมาณของคนที่อยู่ front line มันเยอะ เฉพาะแอร์การบินไทยอย่างเดียวก็ 5,900 คน พนักงานส่วนอื่นอีก พนักงานการบินไทยมีทั้งหมด 20,200 คน พวกที่อยู่ front line นี่กินพื้นที่ไป ผมเชื่อว่าน่าจะประมาณเกือบครึ่งหนึ่ง 50-60-70 เปอร์เซ็นต์ได้ พวกนี้จะโดนตลอดเวลา จะโดนแส้ฟาดตลอดเวลา เหมือนในรูปนี้ จะโดนแส้ฟาดตลอดเวลาเลย ต้องตัดค่าใช้จ่ายมัน ต้องลดเงินค่าล่วงเวลา ถ้าเป็นแอร์ก็บอกว่า เพอร์เดียม (perdium) มันสูงไป ต้องลดเพอร์เดียมมันลงไปอีก บางครั้งเวลาบินไประยะทางไกลจะได้นอน 1 คืน ภาษาแอร์เขาเรียกว่ามี "1 ขีด" เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เขาเรียกว่า "รอบเตียง" รอบเตียง คือ พอบินไปถึง วันรุ่งขึ้นตื่นปั๊บต้องบินกลับทันที เพื่อลดค่าใช้จ่าย คือการบินไทยจะเจ๊งเพราะใคร ไม่สนใจหรอก สนใจอย่างเดียว คือพอบอกว่าลดค่าใช้จ่าย ต้องมากระทืบคนพวกนี้ คนพวกนี้วันๆ ไม่ต้องทำอะไร ตื่นขึ้นมา ถึงเวลาที่จะต้องทำงานก็ไปทำงาน ถ้าเป็นแอร์ เป็นสจ๊วต จะต้องทำงาน ก็ต้องไปก่อนเวลาเครื่องออก 2 ชั่วโมง ที่เขาเรียกว่า Briefing เครื่องออก 10 โมง ต้องไปห้อง Briefing 8 โมง Briefing ก็คือเข้าไปนั่ง อธิบายให้ฟังว่า วันนี้เราไปไฟลต์นี้นะ เราไปอย่างนี้นะ คุณจะต้องดูแลตรงหัว ดูแลตรงกลาง ดูแลท้าย ฯลฯ

ไปบินก็ต้องไปเจอผู้โดยสาร ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง คละกันไป ไม่เป็นไร มันเป็นอาชีพก็ต้องทนไป พอกลับมา เหนื่อย เพราะฉะนั้นพวกที่เป็นแอร์ส่วนใหญ่อารมณ์จะเสีย ใครที่มีครอบครัว สามีจะรู้เลยว่าพอเมียบินลงกลับมาแล้วต้องทำตัวดีๆ ต้องเอาใจเมียให้ดีๆ โปรดิวเซอร์ของผมก็มีเมียเป็นแอร์ เขารู้ดีครับ เรื่องนี้ เอาล่ะ ไม่เป็นไร

พวกที่เป็นกราวนด์ ทำงานบางครั้ง บาง shift เกือบ 24 ชั่วโมง เข้าเช้าออกกลางคืน ต่อกลางคืนอีกรอบ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ แต่ว่าคนไม่พอ แต่คนพวกนี้จะโดนตัดตลอดเวลา ทั้งๆ ที่การบินไทยน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าปัญหาของการบินไทยมันอยู่ที่ไหน

มีคนบอกว่าการบินไทยกำลังจะเจ๊ง ไม่ใช่ครับ มันเจ๊งแล้ว ไม่เจ๊งได้อย่างไร แล้วผมจะบอกว่าทำไมมันถึงเจ๊ง แล้วจะทำอย่างไรถึงจะไม่เจ๊ง


ท่านผู้ชมครับ ถ้าเรามองการบินไทยเป็นบริษัทๆ หนึ่ง ทุนของบริษัทนี้มีเท่านี้ แต่จากการที่เราเจ๊งมา ท่านผู้ชมรู้ไหม 12 ปีที่ผ่านมา 2551-2561 สิบสองปีที่ผ่านมา การบินไทยกำไรแค่ 3 ครั้ง และครั้งที่กำไรเยอะที่สุดคือ 15,000 ล้านบาท ท่านผู้ชมตามผมมานะครับ มันมาจากไหน 15,000 ล้านบาท ถ้าพูดถึงการแต่งบัญชีนะ ไม่มีใครเทียบฝ่ายการเงินการบินไทยได้ แต่งบัญชีเก่งมาก ปีที่กำไร 15,300 ล้านบาท ก่อนหน้านั้น 1 ปี การบินไทยได้ตั้งสำรอง ตั้งสำรองก็คือตั้งเงินเอาไว้ก้อนหนึ่ง สำหรับสำรองในกรณีไหน เพราะตอนนั้นการบินไทยมีเรื่องกับอียู ฟ้องร้องกันในเรื่องค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือค่าธรรมเนียมเครื่องบิน การบินไทยก็กลัวว่าจะแพ้ พอกลัวจะแพ้ก็เลยตั้งสำรองค่าปรับเอาไว้ เรื่องที่สองก็คือว่า เนื่องจากการบินไทยตอนนั้นมีนโยบายขายเครื่องบินเจ้าปัญหา ซึ่งเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าใครเป็นคนก่อเรื่องนี้ เครื่องบินนั้นก็คือเครื่องบินแอร์บัส 340-500 และ 600 ตั้งสำรองไว้เผื่อขาย คือขายไปแล้วต้องสำรองค่าถดถอย ค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน อีกก้อนหนึ่ง ปรากฏว่าพลิกความคาดหมาย ในศาลที่อียู การบินไทยชนะ อันที่สอง เป็นนโยบายของบอร์ดว่า ไม่ขายเครื่องบินแล้ว ท่านผู้ชมเข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นเงินสำรองก้อนนี้ก็เลยเหลืออยู่ไง 2 ก้อน พออีกปีมันก็เอา 2 ก้อนนี้มาโปะว่าเป็นกำไร เพราะฉะนั้นแล้วกำไรจาก opertion ในการปฏิบัติการ มันไม่มี มันจะมีได้อย่างไรท่านผู้ชม


ค่าตั๋วการบินไทยแพงที่สุด ผมเป็นคนที่เดินทางบ่อยมากในอดีต ผมจำได้ เวลาผมบินไปธุระ ผมจะบินกรุงเทพฯ-ลองแองเจลิส ผมนั่งการบินไทยไป แต่พอช่วงหลังผมเปลี่ยนเป็น EVA การบินไทยจะบินจากกรุงเทพฯ ไปเปลี่ยนเส้นที่ไทเป สมัยนั้น พอผมเทียบราคาแล้ว EVA ถูกกว่าหลายพันบาท แล้วเครื่องก็เต็มเอาๆ การบินไทยเครื่องก็เต็มนะ ไม่ใช่ไม่เต็ม แต่ไม่มีกำไร แต่ EVA ทำไมมันกำไรเอาๆ ผมไม่เคยเข้าใจตรงนี้ ผมไม่เคยเข้าใจจริงๆ นะ ท่านผู้ชมที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ท่านผู้ชมรู้ใช่ไหมเวลาจองเครื่องการบินไทยไปญี่ปุ่น ไปโตเกียว ไปโอซากา ไปนาโกยา ไปซัปโปโร ท่านผู้ชมต้องจองเป็นเดือนๆ ล่วงหน้า ท่านผู้ชมจองตอนนี้มันเต็มหมด แต่พอผมคุยกับคนซึ่งอยู่ฝ่ายการเงินของการบินไทย พอบอก การบินไทยกำไรดี เขาบอก พี่ ขาดทุนตลอดเวลา เอ้าญี่ปุ่นคุณไฟลต์เต็มตลอด ขาดทุนพี่ ยังไงก็ขาดทุน เอ๊ะมันเกิดอะไรขึ้น แล้วถ้ามันบินทุกไฟลต์ คนเต็มทุกกรณี แล้วมันยังขาดทุน มันเกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นบริษัทมันต้องเจ๊งแล้วสิ เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าการบินไทยไม่ใช่กำลังจะเจ๊ง แต่มันเจ๊งแล้ว แล้วคนที่ทำเจ๊งก็ไม่ใช่พวกนี้ (front line) พวกนี้คือทาสในเรือนเบี้ย คนที่ทำเจ๊งคือพวกนี้ (ภาพแรก) เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังมันทำเจ๊งยังไง

การบินไทยชอบดำเนินนโยบายผิดพลาด เนื่องจากการบินไทยมียอดขาย 2 แสนล้าน ชอบมีการคนเอาของมาเสนอ เอาซอฟต์แวร์ในการบินมาเสนอ เอาซอฟต์แวร์การจองที่นั่งมาเสนอ เอาซอฟต์แวร์ในการจัด schedule ของลูกเรือมาเสนอ ปรากฏว่าห่วยแตกหมด ทำไมมันห่วยแตกล่ะ ก็เพราะมันไม่โปร่งใส มันไม่สามารถเลือกของที่ดีที่สุดเข้ามา เพราะมันมีผลประโยชน์ ทุกอย่างในการบินไทย ตั้งแต่มะละกอ 1 ลูก ที่อยู่บนเครื่อง ไล่ไปเรื่อยๆ ไปจนถึงผ้าเช็ดปาก ไปจนถึงช้อนส้อม ขึ้นไปจนถึงเก้าอี้นั่งเครื่องบิน ขึ้นไปจนถึงระบบเอนเตอร์เทนเมนต์ในเครื่อง ขึ้นไปจนถึงตัวเครื่อง แพงกว่าเขาหมด


อุปมาอุปไมยเหมือนเราเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว 2 ร้าน ที่นั่งมีอยู่ประมาณ 100 ที่นั่ง วันนี้การบินไทยบอกว่า load factor คำว่า load factor แปลว่าอะไร แปลว่า เครื่องบิน 100 ที่ การบินไทยบอกว่าตอนนี้มีคนซื้อประจำ นั่งไป 80 ที่ ถือว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มาตรฐานอุตสาหกรรมอยู่ที่ 82 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เป็นไร 80 เปอร์เซ็นต์ ก็กำไรได้ เพราะว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์ เขาแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ หรือ 81 เปอร์เซ็นต์ เขาก็มีกำไรแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว ก๋วยเตี๋ยว 2 ร้าน ร้านหนึ่งมีคนเข้านั่ง 80 ที่นั่ง กินก๋วยเตี๋ยว อีกร้านหนึ่งก็ 80 ที่นั่งเหมือนกัน ขายอาหารเหมือนกัน ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมูสับ ส้มตำปลาร้า ไก่ย่าง โน่นนี่นั่น เหมือนกันเป๊ะ เมนูเหมือนกันทุกอย่างเลย แต่ร้านหนึ่งมีคนนั่งอยู่ 80 ที่ กลับขายแล้วขาดทุน อีกร้านหนึ่งขายแล้วกำไร ท่านผู้ชมเห็นภาพหรือยังที่ผมบอก มันต้องมีอะไรผิดปกติ ที่ผิดปกติในที่สุดก็กลายเป็นว่า แม่ครัวของร้านที่ขาดทุน เวลาไปซื้อ ซื้อผักแพงกว่าเขา ซื้อหมูแพงกว่าเขา เพราะว่ามันได้เปอร์เซ็นต์จากคนขายผักขายหมู ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ร้านมีหลายสาขา ผู้ช่วยผู้จัดการร้านเวลาสั่งแอร์เข้ามา แอร์ก็แพงกว่าเขา เขาขาย btu ละ 1 บาท สมมุติว่า 12000 btu ก็ 12,000 บาท ไอ้นี่ทะลึ่งซื้อมาในราคา btu ละ 1.50 บาท 18,000 บาท อีก 6,000 บาท เข้ากระเป๋า สูงไปกว่านั้น ก็เซ้ง ร้านเซ้ง คนอื่นเขาเซ้งกัน 2 ล้าน แต่นี่เซ้ง 3 ล้าน ที่ผมพูดอย่างนี้ เป็นข้อเท็จจริง เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างประกอบให้ฟัง

ท่านผู้ชมครับ เวลาเราทำธุรกิจ ต้นทุนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และเวลาเราจะลดต้นทุน ข้อแรก เราลดคุณภาพอาหารไม่ได้ เพราะลดแล้วคนจะไม่มากิน คุณภาพอาหารในกรณีการบินไทยคืออะไร คือความปลอดภัยของนักบินที่บินแล้วปลอดภัย บริการที่ดี การต้อนรับที่ดี นี่คือคุณภาพอาหาร 3 ตัวนี้คุณลดไม่ได้นะ คุณจะไปลดได้อย่างไร แต่ที่คุณลดได้คืออะไร คือพวกผู้จัดการทั้งหลาย พวกที่นั่งอยู่บนห้อง มีห้องแอร์แล้วก็บอกให้ไปเปิดร้านที่โน่น เปิดร้านที่นี่ จะไปบิน route ใหม่ เดี๋ยวผมจะไปตรวจดูว่าจะพักโรงแรมไหนบ้าง โน่นนี่นั่น พวกนี้ลดได้ ถ้าคุณลดคุณภาพอาหารเมื่อไร ของๆ คุณจะขายไม่ออก แล้วการบินไทยทะลึ่งโพสิชันตัวเองว่าเป็นพรีเมียมแอร์ไลน์ นกแอร์เขาโพสิชันตัวเขาเองดี เขาโพสิชันว่าเป็นพรีเมียมโลว์คอสต์ แล้วตอนหลังไทยสไมล์ก็มาโพสิชันตัวเองอีกเหมือนกันเป็นพรีเมียมโลว์คอสต์ ในขณะที่โลว์คอสต์จริงๆ ก็คือแอร์เอเชีย และไทยไลอ้อนแอร์ เข้าใจนะครับท่านผู้ชม

ทีนี้ เขากินกันอย่างไร ระดับบอร์ด ระดับนักการเมือง ระดับ EVP เขาเรียกว่าระดับ 12 พวกนี้จะมีอำนาจ ฮั้วกัน จับมือกันสั่งซื้อของ สั่งซื้อเครื่องบิน บอร์ด กับนักการเมืองซึ่งเป็นเจ้าของบอร์ด พวกนี้จะกินของชิ้นใหญ่ จะกินราคาเครื่องบิน ผมเคยเล่าให้ท่านผู้ชมฟังแล้วไม่ใช่หรือว่า มาตรฐานของค่าคอมมิชชันของเครื่องบิน แอร์บัส กับโบอิ้ง เหมือนกันคือ 3 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นมีแอร์บัส A340-500 และ 600 เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าเพราะอะไร เพราะฉะนั้นแล้วข้างบนกินคำใหญ่ ข้างล่างลงมา ระดับกลางขึ้นมาสู่สูง ก็จะกินประเภทสัมปทาน สัมปทานอะไรบ้างล่ะ เป็นเอเยนต์ตั๋ว (GSA : General Sales Agent) การบินไทยต้องขายตั๋วไปทั่วประเทศ ทั่วโลก ท่านผู้ชมเคยสังเกตไหมว่าทำไมปริมาณหรืออัตราการขายตั๋วออนไลน์ของการบินไทยมันต่ำเหลือเกิน มันต่ำจริงๆ มันไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่สายการบินอื่นเขาเกิน 60-70 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว โลว์คอสต์นี่ 90 เปอร์เซ็นต์นะ ขายตั๋วออนไลน์ เพราะอะไรท่านผู้ชมรู้ไหม ง่ายนิดเดียว เพราะว่าถ้าคนซื้อตั๋วออนไลน์มากเท่าไร โอกาสที่ผู้บริหารในการบินไทยที่จะทำมาหารับประทานกับเอเยนต์ของตัวเองจะน้อยลง แล้วใครล่ะเป็นตัวการจัดการอันนี้


ท่านผู้ชมรู้ไหมสมัยก่อน ผมไม่รู้ว่าสมัยนี้ยังเป็นหรือเปล่า สมัยก่อนใครก็ตามที่จะไปเป็นผู้จัดการ เขาเรียก AA อยู่ที่ฮ่องกง ต้องเป็นเด็กนาย เพราะว่าตั๋วที่ขายไปที่ฮ่องกง เขาขายยกล็อต เด็กนายก็คือ DN มันเป็นภาษาสมัยที่การบินไทยยังอยู่ในเครือของสแกนดิเนเวีย DN ก็คือรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สาขาพาณิชย์ เอเยนต์ที่ฮ่องกงก็อาจจะเป็นหว่อง เกาเกา อะไรก็ตาม เขารู้จักกับ DN ขอเป็นเอเยนต์ใหญ่ เขาก็ยกล็อตตั๋วให้ สมมุติว่ากรุงเทพฯ-ฮ่องกง ไป-กลับประมาณ 12,000 เขาขายให้หมอนี่ 8,000 แล้วนี่ก็เอา 8,000 ไปขายในราคา 10,000 หรือ 12,000 แล้วส่วนต่างเข้ากระเป๋าใคร ก็เข้ากระเป๋า General Sales Agent แล้วอีกส่วนหนึ่งก็ kick back กลับไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่ พวกนี้ผมเรียกว่าพวกเจ้าอสูร นี่เรื่องนานแล้วนะ ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าการบินไทยก็เลยต้องมี AA ก็คือผู้จัดการภูมิภาค ที่ลอนดอนก็มี 1 คน ยุโรปอาจจะมีสัก 1 คน ฮ่องกงอาจจะมีสัก 1 คน คนพวกนี้คือหน้าที่ดูแลการตลาด เมื่อพวกนี้ดูแลการตลาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่มันเกิดขึ้นก็คือว่า ถ้าใครเป็น GSA อยู่ในนั้น ก็ต้องเข้าไปฮั้วกัน แบ่งเปอร์เซ็นต์กัน ช่วยกัน

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมจำได้ การบินไทยกำลังจะเปิด destination ที่อินเดียเมืองหนึ่ง ผมจำไม่ได้ว่าเมืองอะไร โอ้โห คนมาวิ่งเต้นขอเป็น GSA ที่อินเดีย ถึงกับ offer เลยว่าเดี๋ยวจะแบ่งกำไรให้ 50 เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้การบินไทยสูญเสียเป็นพันล้านต่อปี หลายพันล้านด้วย เรามี AA ที่อยู่ต่างประเทศเยอะพอสมควร แล้ว AA พวกนี้มีหน้าที่ทำอะไร หลักๆ คือดูแลการตลาด ขายตั๋ว แต่หน้าที่ที่แท้จริงคือต้อนรับผู้ใหญ่ เวลาผู้ใหญ่ไปเที่ยว หรือจะเป็นรัฐมนตรีไป หรือจะเป็นระดับพลอากาศเอกไป หรือจะเป็นระดับผู้หลักผู้ใหญ่ในการบินไทย พวกนี้ต้องจัดรถไปรับพร้อมคนขับรถ บ่อยครั้งออกค่าโรงแรมให้ เลี้ยงอาหารการกินอีกต่างหาก AA พวกนี้ไม่มีประโยชน์ จ้างฝรั่งสัก 1 คน จ้างคนจีนสัก 1 คน ด้วยเงินเดือนที่ดี ผมเชื่อว่าเขาทำงานถวายสุดใจขาดดิ้น เพราะ AA พวกนี้ต้องมีค่าเช่าบ้านให้เขา เงินเดือนอีกต่างหาก ค่าเลี้ยงดูบุตรอีก ค่าเล่าเรียนลูก เรียนโรงเรียนไหน การบินไทยออกให้หมด กระทรวงการต่างประเทศ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศไปต่างประเทศ เอาลูกไปด้วย ลูกไปเรียนที่นั่น กระทรวงการต่างประเทศยังออกให้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์ นี่ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เฉพาะส่วนนี้ เรียกกลับมาให้หมด เรียกกลับมาให้หมดจริงๆ ไม่มีความจำเป็น ผมเชื่อว่าไม่มี AA อยู่ในต่างประเทศ การบินไทยยังไปได้ ไปได้อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่าเราสามารถจะหาตัวแทน 1 คน เป็นผู้จัดการของการบินไทยในเงินเดือนและค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า หนึ่ง เขามีบ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องไปจ่ายค่าอพาร์ตเมนต์ให้เขา เงินเดือนอาจจะสูงหน่อย แต่ไม่เป็นไร และกำหนดเลยว่าคุณมีคนได้ไม่เกินเท่านี้ๆ นะ จบ ไม่ต้องปวดหัว ไม่ต้องมีอะไรทั้งสิ้น เฉพาะตรงนี้อย่างเดียว เรียกกลับมา เงินที่จะเซฟไปเป็นพันล้านต่อปี ท่านผู้ชมนึกว่าน้อยเหรอ


เพราะฉะนั้นแล้ว ผมกำลังเล่าให้ฟังว่า ข้างบนกินของใหญ่ กินเครื่องบิน Air frame ท่านผู้ชมครับ เวลาเขาซื้อเครื่องบิน ท่านผู้ชมตามผมให้ดีๆ นะ ตัวเครื่องบินเขาเรียกว่า Air frame คือมีแต่เครื่อง ไม่มีเครื่องยนต์ ต่อมาที่ต้องซื้อคือเครื่องยนต์ เครื่องยนต์มีอยู่ 3 ยี่ห้อ อันแรกคือ โรลส์-รอยซ์ ที่มีเรื่องมีราวกัน แล้วเดี๋ยวผมจะเอาเรื่องโรลส์-รอยซ์มาพูดอาทิตย์หน้า ว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังการทุจริตสินบนโรลส์-รอยซ์ ที่ ป.ป.ช.ของอังกฤษเขาจับมาได้ แล้วจะโยนกลับมาที่เมืองไทย ผมจะชี้ให้เห็นเล่ห์กลของกรรมการ หรือประธานกรรมการบางคนในยุคนั้น วางหมากเอาไว้อย่างไรเพื่อให้ได้สินค้าที่คุณต้องการ เครื่องยนต์ประเภทที่สอง เขาเรียก GE อันที่สาม เขาเรียกว่า P&W คือ PLATT & WHITNEY สามเครื่องยนต์เท่านั้นเองที่ใช้กัน เมื่อไปซื้อเครื่องยนต์ แน่นอนที่สุดมีคนวิ่งเต้น แล้วมาสุดท้าย ก็คือระบบภายในเครื่องบิน ซึ่งแพง ไม่ใช่ถูกเลย อะไรบ้าง เก้าอี้นั่ง เก้าอี้ที่นอนแล้วเอนได้ 180 องศา เก้าอี้ที่นวดหลังได้ เก้าอี้ที่มีโทรทัศน์อยู่ข้างหน้า มันก็มีอยู่หลายประเทศขาย อิตาลีก็ขาย เยอรมนีก็ขาย ญี่ปุ่นก็ทำขาย และสุดท้ายที่แพงที่สุดคือระบบ Entertainment System ระบบดูทีวี ระบบฟังเสียงเพลง ระบบกดเลือกเพลงได้ ระบบโน่นนี่นั่น






เก้าอี้ Entertainment System เครื่องยนต์ บวกๆ กันแล้วราคาเกือบเท่าค่าเครื่องบิน Air frame ตัวนั้น อันนี้ใครกิน นักการเมืองกิน ประธานบอร์ดบางคนกิน ส่วนใหญ่เท่าที่ผมตรวจสอบและเช็กมา ดีดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่จะไม่ค่อยได้ไปมีสิทธิ์มีส่วนในการสวาปามของใหญ่ๆ แบบนั้น ถ้าจะได้ก็ได้ในแง่ของสัมปทานตั้ง GSA ขึ้นมาที่ลอนดอน อะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้มากกว่า

เอาล่ะ ข้างบนกินของใหญ่ ระดับผู้บริหาร ระดับ 11-12 ขึ้นไป มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างโน่นนี่นั่น ล่างลงมาคือพวกที่ผมเรียกว่า พวกลักเล็กขโมยน้อย ก็คือแตะโน่นนี่นิด กำไรเดือนละ 50,000 เดือนละ 100,000 แฮปปี้แล้ว ท่านผู้ชมเชื่อหรือไม่ว่าการบินไทยมีระบบที่ผมเรียกว่า "สืบทอดทายาท" สมัยโบราณจะมีเจ้าอสูรเซ็ตระบบไว้เรียบร้อย แล้วก็ตั้งตัวเองขึ้นมาแทน ตัวเองนี่ก็เป็นทายาทอสูร แล้วก็เป็นทายาทรุ่นที่ 1 ทายาทรุ่นที่ 2 ทายาทรุ่นที่ 3 แรกๆ เจ้าอสูรกินคนเดียว 100 เปอร์เซ็นต์ หลังๆ พอออกไปมีทายาทอสูร ตัวเองอาจจะลดเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ 40 เปอร์เซ็นต์ แล้วไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดแล้ว ตีเสียว่าประมาณ 10 ปี ตัวเองก็หมดแล้ว ไม่มีแล้ว ก็มีเจ้าอสูรคนใหม่ขึ้นมา มันกินกันอย่างนี้จริงๆ นะท่านผู้ชม




Entertainment System ท่านผู้ชมเชื่อไหม เขาไม่มีราคาตายตัว ไม่มีราคาตายตัวเหมือนกับแอร์บัส หรือโบอิ้ง อย่างเช่น โบอิ้งบอกว่าจะขายเครื่อง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ตัวนี้ ANA ซื้อเท่าไร เมืองไทยก็ซื้อเท่านั้น แต่ว่าทั้งโบอิ้ง และทั้งแอร์บัส ให้เปอร์เซ็นต์คือ 3 เปอร์เซ็นต์ เอเยนต์ของโบอิ้งในประเทศไทย ก็คือ ล็อกซเล่ย์ ซึ่งเป็นเอเยนต์ของโบอิ้งมานานแล้ว ผมเคยสัมผัสมา ผมรู้ว่าเขาพูดตรงๆ ว่า ฝรั่งให้มา 3 เปอร์เซ็นต์ และ 3 เปอร์เซ็นต์นี้ ทั้งนักการเมือง หรือประธาน จะรู้เลยว่า 3 เปอร์เซ็นต์นี้จ่ายที่เมืองนอก เอาล่ะ ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน แต่เอเยนต์อีกเจ้าหนึ่ง แอร์บัส

แอร์บัสสมัยก่อนคนเป็นเอเยนต์ใหญ่ชื่อ คุณอำนวย เกษมทรัพย์ แอร์บัสสมัยก่อนมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ข้างๆ การบินไทยเลย เป็นตึก 4-5 ชั้น อยู่ติดกับสำนักงานใหญ่การบินไทยที่วิภาวดีฯ และคุณอำนวย เกษมทรัพย์ ก็มีลูกน้องคนหนึ่ง ชื่อ คุณสุเนตร บุรกสิกร คุณสุเนตร บุรกสิกร ชื่อเล่นชื่อ เต๋า ผมจะเล่าให้ฟัง เขามีพี่ชายคนหนึ่ง เป็นวิศวกร และเป็นคนสร้างบ้านให้ทักษิณ ชินวัตร ที่ชะอำ พี่ชายคนนี้สนิทสนมที่สุดกับคุณบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงอ้อ พี่ชายของคุณเต๋ารถคว่ำตาย คุณบรรณพจน์ก็เลยสงสาร ก็ดูแลเต๋า เต๋าก็เข้ามาในจังหวะที่ดี ขายแอร์บัสต่อ แล้วก็มาจังหวะที่มันที่สุดในช่วงนั้น ก็คือจังหวะของการที่พรรคไทยรักไทยกำลังจะยุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งใหม่ มีความต้องการจะหาเงินหาทองเข้ามาในการเลือกตั้ง

พักตรงนี้ไว้ก่อน ยั่วน้ำลายท่านผู้ชมสักนิด ไปที่เรื่องอื่นก่อน เดี๋ยวเรื่องนี้จะตามมา รับรองว่าสนุกสนาน ถ้าวันนี้ไม่ทัน ขอต่อวันศุกร์อีกวันหนึ่ง เพราะว่าต่อเรื่องนี้เข้าไปแล้วท่านผู้ชมจะรู้ว่าใครกันแน่ที่ทำให้การบินไทยเจ๊ง


ท่านผู้ชมครับ ด้วยเหตุนี้ ทุกอย่างในการบินไทยมันแพงหมด เมื่อมันแพงหมดแล้ว เลยต้องขายตั๋วแพง ขายตั๋วแพงก็ยังขาดทุน เพราะว่าการบินไทยจะมีการทำโครงการที่ค่อนข้างจะใช้ไม่ได้ แต่ละโครงการ แต่ละเรื่อง ออกมาเจ๊งหมด เจ๊งทีพันกว่าล้าน เจ๊งทีสามพันกว่าล้าน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าไทยสไมล์เกิดขึ้นอย่างไร ไทยสไมล์เกิดขึ้นเพราะมีความรู้สึกว่าการบินไทยต้องทำโลว์คอสต์ เมื่อมีความรู้สึกว่าการบินไทยต้องทำโลว์คอสต์ ก็เลยเขียนโครงการมา แผนกวางแผน ต้องใช้เครื่องโบอิ้ง 737-800 ต้องใช้แอร์บัส 320 ทำแล้วจะต้องกำไรเท่านี้ๆ สวยหรูหมด ตั้งขึ้นมา ในช่วงเริ่มต้นก็ใช้บริการภาคพื้นดินของการบินไทยอยู่ตลอดเวลา ใช้สตาฟการบินไทย ท่านผู้ชมเชื่อไหม ปรากฏว่าตั้งแต่ตั้งขึ้นมาจนถึงวันนี้ หลายปีแล้ว 7 ปีได้แล้วมั้ง ขาดทุนทุกปี ผมเชื่อว่าน่าจะขาดทุนหลายพันล้าน คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้มันไม่อยู่แล้วท่านผู้ชม เพราะว่ามันสั่งเครื่องบินมาแล้วมันก็ได้ 3 เปอร์เซ็นต์ ไปแล้ว การบินไทยเจ๊งก็เจ๊งไป เพราะฉะนั้นท่านผู้ชมจะเห็นว่าการบินไทยมันโกงทุกเม็ด โกงทุกจุด


เวลานักการเมืองจะให้สัมภาษณ์ ท่านผู้ชมสังเกตอย่างหนึ่ง นักการเมืองจะไม่พูดถึงผู้บริหารระดับสูง นักการเมืองจะชอบไปเล่นแต่แอร์ สจ๊วต พวกเช็กอิน พวกกราวนด์ ว่ามากไป โน่นนี่นั่น คุณถาวร เสนเนียม เพิ่งจะพูดออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ ท่านให้สัมภาษณ์ ผมไม่รู้ว่าท่านถาวร เสนเนียม ซึ่งเรารู้จักกันดี ท่านมีที่ปรึกษาเป็นใคร แต่ถ้ามีที่ปรึกษาสอนท่านพูดเรื่องนี้ ท่านเชิญให้มันออกจากประตูห้องทำงานท่านโดยด่วน คุณถาวร เสนเนียม ต้องการโชว์ว่าตัวเองรู้เรื่อง


อธิบายให้ฟังว่า การแลก schedule ของลูกเรือน่าจะลดได้ ต้องยกเลิก ต้องปรับปรุงใหม่หมด ไม่ใช่นะท่านถาวร schedule นั้นจะแลกกันอย่างไรก็ตาม จะต้องมีคนทำงานอยู่ คนไหนขาด ไปไม่ได้ มีธุระ แม่ไม่สบาย พ่อเสีย โน่นนี่นั่น สามีไปมีแฟนใหม่ ไปมีเมียน้อย จะต้องใช้เวลา 2 วันนี้ไปตามดูผัวว่าเวลาเราไปบิน ไปเที่ยวมีกิ๊กที่ไหน เธอช่วยบินแทนฉันหน่อยได้ไหม เธอว่างไหม เธอว่างเธอบินแทนฉัน ฉันยกเพอร์เดียมให้เธอ แต่ว่าไม่มีงานเสีย และอีกประการหนึ่ง การบินไทยเขาก็มีกฎระเบียบว่า ชั่วโมงบินต่อเดือนของแอร์ 1 คน ต้องไม่ต่ำกว่าเท่านี้ เพราะถ้ามีคนๆ หนึ่งมาแลกตลอดเวลา แล้วมันไม่ต้องบิน หรือบินสักเดือนละ 1 ครั้ง มันก็ทำให้งานเสีย เขามีกันเอาไว้เรียบร้อย เพราะฉะนั้นการแลก schedule ไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหายอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เป็นเรื่องปกติธรรมดา แม้กระทั่งบริษัท อย่างของผม โปรดิวเซอร์คนหนึ่ง ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ ช่างกล้อง เขาเกิดบอกว่าวันศุกร์นี้คุณสนธิไลฟ์สด ผมไม่ว่างนะ คุณทำแทนผมหน่อยได้ไหม ก็ได้ เพราะงานผมไม่เสีย เข้าใจหรือยังครับท่านผู้ชม กลับไปเล่นงานตรงนี้ซึ่งผิดประเด็น ไม่ใช่

อันที่สอง แอร์พวกนี้ คนการบินไทยพวกนี้ มีตั๋วฟรีปีละ 4 ใบ โน่นนี่นั่น ต้องลดสวัสดิการตรงนี้ไป ท่านผู้ชมครับ ไม่เข้าใจอีกแล้ว เครื่องบิน 1 ลำ บรรจุได้ 100 ที่นั่ง เฉลี่ยแล้วจะมีคนขึ้นประมาณ 80 กว่า สูงสุด ยังจะเหลืออีกกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ คนที่ได้ตั๋วฟรีตามสิทธิ์ จะขึ้นได้ต่อเมื่อมันมีที่ว่าง และที่ว่างตัวนี้ไม่ได้ขาย ขายไม่ได้แล้ว ท่านผู้ชมเวลาท่านบินท่านจะเห็นว่ามีคนอยู่กลุ่มหนึ่งจะยืนเกาะตรงเคาน์เตอร์ แล้วคอยถามว่าว่างไหมพี่ๆ มีว่างไหม เดี๋ยวๆ น้อง พี่รอผู้โดยสารคนสุดท้ายเข้ามาก่อน ถ้าเข้ามาแล้วยังมีว่างสิบกว่าที่ เดี๋ยวพี่เรียกให้ ผมเรียกพวกนี้ว่า ตั๋วขอทาน ท่านผู้ชมอย่าไปอิจฉาเขา เพราะปีหนึ่งเขาก็ได้กันไม่กี่ใบ แต่ที่ร้ายที่สุดก็คือว่า ผู้บริหารการบินไทยตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไป จะได้ตั๋วฟรีคนละ 18 ใบ 8 ใบบินต่างประเทศ อีก 8 ใบบินในประเทศ ท่านผู้ชมฟังให้ดีๆ นี่หมายถึงระดับ 9 นะ เสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถอัปเกรดขึ้นไป Business Class ได้ แต่ถ้าเป็นระดับ 10 ระดับ 11 ระดับ 10 คือ Director ระดับ 11 คือ VP : Vice President ระดับ 12 คือรองผู้จัดการใหญ่ พวกนี้ยิ่งใหญ่ ลูกนั่ง First Class เมียนั่ง First Class ถ้าผู้หญิงเป็นระดับ 12 หรือ 11 ผัวนั่ง First Class เป็นไปตลอดจนกระทั่งเกษียณ ลูกก็ได้ จนกระทั่ง ... ท่านผู้ชมเคยฟังเรื่องนี้ไหม จนกระทั่งลูกอายุ 35 ถึงจะไม่มีสิทธิ์ได้ เห็นหรือยังครับ ตรงนี้ที่ต้องตัด

สรุป ผมกำลังพูดว่า แทนที่ท่านรัฐมนตรีจะไปมุ่งกับพวกทาสเรือนเบี้ย แทนที่จะไปมุ่งหาเรื่องหรือลดโน่นลดนี่ อย่าไปยุ่งกับเขา เขาคือแถวหน้าที่สู้ให้การบินไทย และทำให้การบินไทยเป็นการบินไทยทุกวันนี้ แต่ท่านรัฐมนตรีครับ สำนักงานใหญ่ถ้าท่านลดคนได้สักครึ่งหนึ่ง ผมเชื่อว่างานก็ยังไปได้ดี บางคนมีเลขาฯ หน้าห้อง 5-6 คน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่า เงินรถประจำตำแหน่งที่เขาจ่ายให้ VP หรือ EVP น่ะ 75,000 บาทต่อเดือน ในช่วงวิกฤตนี้ต้องบอกทุกคนว่าเงินค่ารถ 75,000 ไม่มีแล้ว ตัดไป ทำไมท่านไม่ไปเล่นตรงนี้ล่ะ แต่ท่านเล่นไปตัดเพอร์เดียมเด็กที่มันบิน มันเคยได้อยู่ 8,000 มันลดเหลือ 7,000


ท่านผู้ชมอย่าไปเข้าใจว่าพวกแอร์นี่เงินเดือนเยอะนะ แอร์เข้ามาใหม่ๆ สัก 11 ปีที่แล้ว เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 10,000 ท่านผู้ชมรู้ไหม อยู่มา 11 ปี เงินเดือนเพิ่งจะ 18,000 บาท ที่ได้คือเพอร์เดียม เพอร์เดียมคือ เวลาคุณบินไปต่างประเทศคุณก็จะเงินก้อนหนึ่ง เงินก้อนนี้บวกเงินเดือน เฉลี่ยแล้วตกเดือนละประมาณ 4-5 หมื่นบาท แต่ที่ได้เป็นก้อนนี่ไม่ใช่ว่าเอาเข้ากระเป๋านะ อาจจะมีอยู่แค่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ที่ไปแล้วซื้อบะหมี่มาม่าแอบต้มกินในห้องโรงแรม แต่ต้องเอาเงินไปกินข้าวเช้า แต่ก่อนให้ข้าวเช้ากินฟรี เดี๋ยวนี้ลดค่าใช้จ่าย ตัดข้าวเช้าทิ้ง เขาต้องกินข้าว เขาต้องซื้อโน่นซื้อนี่ เพราะฉะนั้นแล้ว เพอร์เดียมของเขาเก็บกลับมาถึงบ้านก็ไม่เกิน 10,000-15,000 บาท 15,000 บาท บวกกับเงินเดือน 10,000 กว่า 20,000 กว่าบาทเอง ไม่ใช่เงินที่เยอะเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ผู้บริหารระดับตั้งแต่ระดับ 9 ขึ้นไป 10-11-12 พวกนี้โละซะ พวก AA ซึ่งไปอยู่ตามต่างประเทศ ที่มีเงินเดือนสูง มีค่าเช่าบ้านให้ ลูกเรียนหนังสือได้เรียนฟรี มีงบเอนเตอร์เทนต่างหาก มิหนำซ้ำยังได้รายได้พิเศษแอบได้กับ GSA : General Sales Agent เอเยนต์ขายตั๋วใหญ่ ทำไมไม่ได้ล่ะ

สมมุติว่าท่านผู้ชมเป็นเอเยนต์ขายตั๋วใหญ่ คุยกับผม ผมเป็นผู้จัดการภาคพื้นของลอนดอน ผมบอกว่า ถ้าผมเจรจากับสำนักงานใหญ่ให้ลดตั๋วที่คุณซื้อ ลดลงมาได้อีกสัก 10 เปอร์เซ็นต์ คุณแบ่งให้ผมสัก 5 เปอร์เซ็นต์ ได้ไหม มันเอาสิ จู่ๆ ได้อีก 5 เปอร์เซ็นต์ นี่ก็ไป นายมันนี่ นายเป็นคนส่งไปที่นี่ นายครับ ลอนดอนมันเป็นอย่างนี้นะครับ ช่วงนี้ตั๋วอาจจะไม่ค่อยออก ขอให้ลดสักนิดได้ไหมครับ หรือถ้าพูดกันรู้เรื่อง มากขึ้นก็อาจจะว่า นายครับ 5 เปอร์เซ็นต์ของผม ผมแบ่งให้นาย 3 เปอร์เซ็นต์ ผมเอา 2 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นอย่างนี้จริงๆ ด้วยเหตุนี้การจองออนไลน์มันถึงไม่ไปไหนไง เพราะถ้าจองออนไลน์สัก 70-80 เปอร์เซ็นต์ พวก GSA ก็ไม่มี ทำธุรกิจไม่ได้ เพราะทุกคนก็จองออนไลน์กันทั้งนั้น นี่คือข้อเท็จจริง แล้วมันจะไม่เจ๊งได้อย่างไรท่านผู้ชม


ท่านผู้ชมครับ การบินไทยเจ๊งมาตลอด ตามโครงการต่างๆ แต่เจ๊งที่หนักที่สุดคือช่วงปี 2548-2549 ในยุคที่คุณทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และในยุคที่ประธานการบินไทยชื่อ ดร.ทนง พิทยะ ยุคนั้นเป็นยุคของการเริ่ม route กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก เบื้องหลังการเริ่ม route กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก สนุกสนาน เหมือนหนังสปายไม่มีผิดเลย ท่านผู้ชม ผมคิดว่าวันนี้เอาแค่นี้ก่อน แต่ตามผมไป ดร.ทนง พิทยะ ประธานการบินไทย เริ่ม route กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก และ route กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก ขาดทุน โหล่งโจ้ง เสร็จเรียบร้อย 20,000 กว่าล้าน ท่านผู้ชมครับ ขอความเห็นชอบหน่อยว่า คนที่เป็นประธานควรจะรับผิดชอบด้วยไหม หรือว่าทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สะบัดก้นไป เบื้องหลังการซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340-500, 600 ผมจะเล่าให้ฟังงวดหน้า ใครเป็นคนวิ่งเต้นซื้อ แล้วสินบนโรลส์-รอยซ์นั้น วิธีการทำให้ได้สินบน ทำอย่างไร เอาเป็นน้ำจิ้มก็แล้วกัน


ดร.ทนง เป็นเพื่อนนักเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา รุ่นเดียวกับผม รุ่น 18 มีอยู่วันหนึ่งเขาบอก เฮ้ย โต (ผมชื่อเล่นชื่อโต) กูเพิ่งกลับมาจากลอนดอน ผมก็บอก เออ ก็ดีนี่หว่า ก็มึงเป็นประธาน มึงก็นั่งเครื่องไป เออ พอกูลงเครื่องบินที่ลอนดอน กูจะไปเที่ยวฝรั่งเศส โรลส์-รอยซ์มันจัดเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวมาให้กูไป เอาแค่น้ำจิ้มแค่นี้ก่อนนะท่านผู้ชม ถ้าอยากฟังอะไรที่มันหยดกว่านี้ ศุกร์หน้าเราเจอกัน ขอบพระคุณครับ สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น