โฆษกอนค. ได้ที่ซัดรัฐบาล ขอนับคะแนนญัตติตั้งกมธ.ศึกษาม.44 ใหม่ ชี้จะมีสภาไปทำไม ตั้งกมธ.ไม่ได้ชี้เป็นชี้ตายแบบซักฟอก จวกไม่ต้องการเยียวยาผู้รับผลกระทบจากคสช.
วันนี้ (27พ.ย.) ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายรัฐบาลขอให้มีการนับคะแนนใหม่การโหวตตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของ คสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ว่า เป็นที่แน่ชัดและมีการถ่ายทอดสดการประชุมไปยังประชาชนทั่วประเทศในการลงมติฝ่ายที่เห็นด้วยในการตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาผลกระทบจาก ม.44 ด้วยคะแนน 234 ต่อ 230 คะแนน แต่กลับมีการขอโดยทางประธานวิปรัฐบาลให้มีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งตามข้อบังคับการประชุมสภาสามารถนับคะแนนใหม่ได้จริง ถ้าหากคะแนนห่างกันไม่เกิน 25 คะแนน แต่ว่าการนับคะแนนใหม่ กับการรวมคะแนนใหม่นั้นไม่เหมือนกัน
“ไม่ต้องทราบเรื่องระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาใดๆ เลยก็ได้แต่ขอให้ประชาชนใช้สามัญสำนึกพิจารณาดูว่าถ้าหากการโหวตของสภา ฝ่ายที่แพ้โหวตมาขอให้นับคะแนนใหม่แบบนี้ เราจะมีสภาไว้ทำไม เสียงข้างมากเมื่อชนะแล้วจำเป็นต้องดำเนินต่อไป ที่สำคัญการตั้ง กมธ.ชุดนี้ไม่ได้เป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายอย่างการอภิปรายไม่วางไว้วางใจ การตั้ง กมธ.เราคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน จะอยู่ฝักฝ่ายการเมืองใดก็ย่อมสมควรที่จะเห็นด้วยและนำเสนอความเห็นของตัวเองในชั้น กมธ. ตนจึงไม่เห็นความจำเป็นใดๆ ที่ทางประธานวิปรัฐบาลต้องมาขอให้มีการนับคะแนนใหม่ และทำให้เกิดความวุ่นวาย” น.ส.ปารีณา กล่าว
น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ทั้งนี้ทางเรายืนยันว่าหากมีการให้นับคะแนนใหม่จริงๆ จากนี้สภาจะมีสภาพเป็นอย่างไรถ้าฝ่ายหนึ่งแพ้หรือฝ่ายหนึ่งขอให้นับใหม่ไปเรื่อยๆ แบบนี้ สภาอันเป็นตัวแทนของประชาชนเป็นตัวแทนของระบอบประชาธิปไตยจริงหรือไม่ และหากผลโหวตออกมาไม่เหมือนเดิม ประชาชนก็คงต้องเป็นผู้ตัดสินว่าเมื่อฝ่ายที่เห็นด้วยกับฝ่ายที่ต้องการตั้ง กมธ.ชนะไปแล้ว กลับมีการประท้วงจากฝ่ายรัฐบาลขอให้ลงคะแนนใหม่อีกครั้ง และกลับกลายเป็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ตั้งหมายความว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ต้องการให้เกิดการเยียวยาชดเชยกับผู้ได้รับผลกระทบจาก คสช.หรือไม่ ไม่ต้องการให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้ถูกพรากสิทธิเสรีภาพจากประชาชนในยุค คสช.หรือไม่