“เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า” ชี้ผู้ป่วยโรคปอดใช้สารกัญชาซ้ำรอยที่สหรัฐฯ จี้ “ก.พาณิชย์” งัดมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าแทน “แบน” เพื่อให้สินค้าได้มาตรฐาน สามารถให้ข้อมูล-แนะนำผู้ใช้ได้ หลังถูกกลุ่มต้านบิดเบือนไปไกล
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST)” และเฟสบุ๊ค “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบเฉียบพลันจากการสูบสารสกัดกัญชา ด้วยเครื่องบุหรี่ไฟฟ้ารายแรกในประเทศไทยว่า ตามที่ทราบจากข่าว ผู้ป่วยรายนี้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำยากัญชาหรือ THC เช่นเดียวกับผู้ป่วยหลายรายที่พบในสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุดกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกาออกมาแถลงระบุว่าวิตามินซีอะซิเตทน่าจะเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ หลังพบสารชนิดดังกล่าวในทั้ง 29 กลุ่มตัวอย่างบุหรี่ไฟฟ้าของผู้ป่วยที่ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ ซึ่งวิตามินอีนี้ถูกใช้เป็นตัวทำละลายในบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชา
“กรมควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกายังย้ำคำแนะนำเดิมด้วยว่าผู้บริโภคไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชาหรือใช้ผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่ไม่ได้ทราบที่มา เช่นได้รับจากเพื่อน หรือซื้อตามท้องถนน และไม่ควรดัดแปลงอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้งยังย้ำด้วยว่าผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกบุหรี่ไม่ควรหันกลับไปสูบบุหรี่อีก” นายมาริษ ระบุ
โดยแถลงการณ์ของกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกาล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่วิตามินอีอะซิเตทเป็นสารเคมีที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน (EVALI) การทดสอบตัวอย่างจากของเหลวที่เก็บจากปอดของผู้ป่วย 29 ราย จาก10 รัฐ พบสารวิตามินอีอะซิเตทในทุกตัวอย่าง จึงได้ข้อสรุปว่าวิตามินอีอะซิเตทเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความเสียหายกับปอดของผู้ป่วย
นายมาริษ กล่าวต่อว่า สิ่งที่พวกเรากังวลคือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ถูกแบนอยู่ตอนนี้ ผู้ใช้จึงต้องหาซื้อจากแหล่งที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่นร้านค้าออนไลน์ ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าคุณภาพเป็นอย่างไร มีส่วนผสมอะไรบ้าง อีกทั้งยังมีการโฆษณาให้ข้อมูลสินค้าแบบไม่ถูกต้อง ขนาดกัญชาที่ให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์ ก็ยังมีการใช้กันผิดๆ เพราะผู้บริโภคเข้าใจไม่ถูกต้อง เราจึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประทศที่กำลังทบทวนมาตรการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนมาควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียที รวมถึงให้กระทรวงสาธารณสุขให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องกับผู้ใช้ และขอให้ NGO ต้านบุหรี่ไฟฟ้าหยุดบิดเบือนข้อมูลข่าวสารและให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนกับประชาชนเสียที.
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST)” และเฟสบุ๊ค “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบเฉียบพลันจากการสูบสารสกัดกัญชา ด้วยเครื่องบุหรี่ไฟฟ้ารายแรกในประเทศไทยว่า ตามที่ทราบจากข่าว ผู้ป่วยรายนี้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำยากัญชาหรือ THC เช่นเดียวกับผู้ป่วยหลายรายที่พบในสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุดกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกาออกมาแถลงระบุว่าวิตามินซีอะซิเตทน่าจะเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ หลังพบสารชนิดดังกล่าวในทั้ง 29 กลุ่มตัวอย่างบุหรี่ไฟฟ้าของผู้ป่วยที่ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ ซึ่งวิตามินอีนี้ถูกใช้เป็นตัวทำละลายในบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชา
“กรมควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกายังย้ำคำแนะนำเดิมด้วยว่าผู้บริโภคไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชาหรือใช้ผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่ไม่ได้ทราบที่มา เช่นได้รับจากเพื่อน หรือซื้อตามท้องถนน และไม่ควรดัดแปลงอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้งยังย้ำด้วยว่าผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกบุหรี่ไม่ควรหันกลับไปสูบบุหรี่อีก” นายมาริษ ระบุ
โดยแถลงการณ์ของกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกาล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่วิตามินอีอะซิเตทเป็นสารเคมีที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน (EVALI) การทดสอบตัวอย่างจากของเหลวที่เก็บจากปอดของผู้ป่วย 29 ราย จาก10 รัฐ พบสารวิตามินอีอะซิเตทในทุกตัวอย่าง จึงได้ข้อสรุปว่าวิตามินอีอะซิเตทเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความเสียหายกับปอดของผู้ป่วย
นายมาริษ กล่าวต่อว่า สิ่งที่พวกเรากังวลคือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ถูกแบนอยู่ตอนนี้ ผู้ใช้จึงต้องหาซื้อจากแหล่งที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่นร้านค้าออนไลน์ ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าคุณภาพเป็นอย่างไร มีส่วนผสมอะไรบ้าง อีกทั้งยังมีการโฆษณาให้ข้อมูลสินค้าแบบไม่ถูกต้อง ขนาดกัญชาที่ให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์ ก็ยังมีการใช้กันผิดๆ เพราะผู้บริโภคเข้าใจไม่ถูกต้อง เราจึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประทศที่กำลังทบทวนมาตรการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนมาควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียที รวมถึงให้กระทรวงสาธารณสุขให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องกับผู้ใช้ และขอให้ NGO ต้านบุหรี่ไฟฟ้าหยุดบิดเบือนข้อมูลข่าวสารและให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนกับประชาชนเสียที.