นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ เผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พบผู้ป่วยปอดอักเสบเฉียบพลันจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ผสมสารกัญชา CBD และ THC เพื่อรักษาโรคมะเร็งด้วยตัวเอง เตือน อย่าหลงเชื่อยิ่งสูบยิ่งทำร้ายปอด
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. นพ. มนูญ ลีเชวงวงศ์ อายุรแพทย์ทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยหลังพบผู้ป่วยปอดอักเสบเฉียบพลัน และระบบหายใจล้มเหลว หลังสูบสารกัญชา CBD และ THC ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า รายแรกในประเทศไทย โดยนายแพทย์ มนูญ ได้โพสต์เล่าอาการของผู้ป่วยว่า
"ผู้ป่วยชายไทยอายุ 48 ปี ไม่สูบบุหรี่ ได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งปอดกลีบกลางและกลีบล่างขวาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ได้รับการรักษาด้วยยาพุ่งเป้า Ceritinib ตั้งแต่เดือนมีนาคม ผลการรักษาก้อนมะเร็งปอดเล็กลง และดีขึ้นตามลำดับ แต่ 3 เดือนก่อน ผู้ป่วยลดยาพุ่งเป้าเองโดยไม่ได้บอกแพทย์ เพราะเชื่อคำบอกเล่าของผู้อื่นว่ายารักษามะเร็งทานมากๆไม่ดี อาจมีผลเสียต่อร่างกาย ได้ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียสูบน้ำมันสารกัญชาด้วยบุหรี่ไฟฟ้า ช่วยรักษามะเร็งปอด และน้ำมันกัญชานี้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้สั่งซื้อมา (ดูรูป) และเริ่มใช้เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสูบวันละ 2 ครั้งเช้าและก่อนนอน ร่วมกับการหยดน้ำมันกัญชาใต้ลิ้น ผู้ป่วยสังเกตว่าตั้งแต่เริ่มสูบสารกัญชา CBD และ THC ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า เริ่มมีอาการเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งวันที่ 15 พ.ย. มีไข้ ไอ หอบ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หลังได้การรักษา ยังคงเหนื่อยมากในวันที่ 18 พ.ย. 2562 ต้องใส่ท่อหายใจและเครื่องช่วยหายใจ ความดันโลหิตต่ำ ขอย้ายมารักษาต่อในห้องไอซียู เอกซเรย์ปอดวันที่ 18 พ.ย.พบเนื้อปอดมีลักษณะเป็นฝ้าขาวทั้งสองข้าง ส่วนมะเร็งปอดขวาล่างมีขนาดใหญ่กว่าเดิม (ดูรูป) ฝ้าในปอดที่เห็นทั้งสองข้างมีลักษณะไม่เหมือนกับปอดอักเสบจากการติดเชื้อ และไม่เหมือนมะเร็งกระจายไปทั่วปอด ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้งหมดไม่พบสาเหตุ ประกอบกับประวัติสูบสารกัญชาด้วยบุหรี่ไฟฟ้าก่อนป่วย จึงวินิจฉัยเป็น e-cigarette, or vaping product, use associated lung injury (EVALI) ปอดอักเสบจากการใช้สารกัญชาด้วยบุหรี่ไฟฟ้า เริ่มให้สเตียรอยด์ในวันที่ 20-22 พ.ย.อาการเหนื่อยดีขึ้นตามลำดับ เอกซเรย์ปอดฝ้าขาวค่อยๆลดลง (ดูรูป) ในผู้ป่วยรายนี้ยังไม่ได้ส่งน้ำล้างปอดหาวิตามิน E acetate เหมือนในประเทศสหรัฐอเมริกา"
โดยเรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจ และมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวออกสู่โลกโซเชียลแล้วกว่า 1,200 ครั้ง นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก