“วิษณุ” ปัดวิจารณ์ หนังสือของ กมธ.ป.ป.ช.เรียก “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ชี้แจงรอบ 4 ชี้ เป็นเรื่องทางการเมืองและของนายกฯ-รองนายกฯ ระบุเปลี่ยนตัว ปธ.ได้ เคยเปลี่ยนมาแล้ว แต่สาเหตุต่างกัน เบื้องต้นยังเป็นโควตาฝ่ายค้าน ตามที่ตกลงกัน
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันป้องกันและปรามปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ใช้อำนาจรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 วรรค 4 และ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ออกหนังสือเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ไปชี้แจงต่อ กมธ.ป.ป.ช.อีกครั้ง ถือเป็นคำสั่งที่ชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ว่าตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเนื่องจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ทำหนังสือชี้แจงของนายกฯ และรองนายกฯ ซึ่งสำนักนายกฯ ไม่ได้ปรึกษาตน ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเป็นของฝ่ายการเมือง นายกฯ และสภาฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายวิษณุกล่าวว่า การลงมติของ กมธ.ป.ช.เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อเชิญนายกฯ และ พล.อ.ประวิตร มาชี้แจงเป็นครั้งที่ 4 นั้น การลงมติดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ซึ่งตนไม่ทราบว่า กมธ.ดังกล่าวลงมติกันอย่างไร แต่คงไม่ใช่ตามมาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวไว้ แม้แต่หนังสือเชิญนายกฯ ตนก็ไม่เห็น
เมื่อถามว่าท่าทีของนายกฯ ต้องการจบเรื่องการชี้แจงแล้ว รองนายกฯ กล่าวว่า ตอบไม่ถูก ต้องถามสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่านายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการใช้อำนาจประธาน กมธ.ป.ป.ช. นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบเรื่อง
ต่อข้อถามว่านายไพบูลย์สามารถยื่นร้องได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็เขาทำไปแล้ว โดยไปยื่นต่อผู้ตรวจการฯ และผู้ตรวจการฯ มีมติให้ส่งเรื่องต่อศาล ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้นไปคาดการณ์ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศาลจะรับเรื่องหรือไม่
เมื่อถามกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะ กมธ.ป.ป.ช. เตรียมเสนอขอมติที่ประชุมเพื่อปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พ้นจากประธาน กมธ. มีกฎระเบียบหรือข้อห้ามใดกำหนดไว้บ้าง นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี เป็นเรื่องของ กมธ.พิจารณา และเคยบอกไปแล้วว่าก่อนหน้านั้นเคยมีการเปลี่ยนมาก่อน แต่สาเหตุไม่เหมือนกัน เช่น ลาออก จึงมีการเปลี่ยนตัว
เมื่อถามย้ำว่าในเมื่อตำแหน่งประธานเป็นสัดส่วนของฝ่ายค้าน สามารถเปลี่ยนตัวได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ฝ่ายค้านก็มีอยู่หลายคน และใน กมธ.ก็มีทั้งสัดส่วนฝ่ายค้านและรัฐบาลซึ่งต้องแบ่งโควตากันไป แต่เรื่องโควตากับตัวบุคคลเป็นคนละเรื่องกัน และโควตาดังกล่าวอย่างไรก็ต้องเป็นของฝ่ายค้านเพราะตกลงกันไว้แบบนั้น เว้นแต่จะตกลงกันใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครมาปรึกษาและพูดคุยกับตนในเรื่องนี้