ผู้ช่วย “บิ๊กป้อม” งง “เสรีพิศุทธ์” อ้างหนังสือแจง กมธ.ไม่มีลายเซ็นกำกับ จะเชิญไปอีก 20 พ.ย.ก็แล้วแต่ ชี้ตามข้อบังคับประชุมสภาให้มอบหมายหรือแจงเป็นหนังสือได้ ไม่สามารถเอาผิดทางอาญา เพราะไม่ได้เชิญตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียกฯ เตือนประเด็นเรียกแจงไม่ชัดเจนหรือทำนอกเหนืออำนาจ ระวังผิดกฎหมาย
วันนี้ (14 พ.ย.) เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ไม่รับหนังสือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร เนื่องจากไม่ได้ลงนามกำกับในหนังสือมาด้วยว่า ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรลงนามไปแล้ว และได้ตอบครบไปแล้ว แต่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ พูดแบบนั้น เพราะตนทราบว่า กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ จะเชิญไปอีกครั้งในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ซึ่งก็ถือว่าแล้วแต่ และเป็นอำนาจหน้าที่ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หากคิดว่ายังมีประเด็นที่เป็นข้อสงสัยที่อยากจะให้มีการชี้แจงเพิ่มเติม แต่ก็ขอให้กำหนดเป็นประเด็นๆ มา เราจะได้ตอบไปเป็นข้อๆ เนื่องจากข้อบังคับการประชุมสภาฯ ระบุไว้ว่า การชี้แจงจะไปชี้แจงด้วยตนเอง มอบหมาย หรือชี้แจงเป็นรายลักษณ์อักษรก็ได้
เมื่อถามว่าการเชิญเป็นครั้งที่ 4 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยืนยันว่าจะให้นายกฯ และ พล.อ.ประวิตรไปชี้แจงด้วยตัวเอง นายประสานกล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา ที่จริงแล้วการส่งหนังสือเชิญของ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ทั้ง 3 ครั้งเป็นการเชิญตามข้อบังคับการประชุมของสภาฯ ไม่ได้เป็นการเชิญตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียก พ.ศ. 2554 ส่วนตนจะไปชี้แจงแทน พล.อ.ประวิตรหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องแล้วแต่ว่าท่านจะมอบหมายหรือไม่
เมื่อถามย้ำว่ามีแนวโน้มที่ พล.อ.ประวิตรจะเดินทางไปเองหรือไม่ นายประสานกล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะภารกิจของทั้งสองท่านเยอะมาก ส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่า หากทั้งสองคนไม่ไปอาจจะมีการแจ้งดำเนินคดีทางอาญานั้น นายประสานกล่าวว่า ทำไม่ได้เพราะมีกระบวนการอยู่ เมื่อคุณออกหนังสือเรียกตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ต้องมีมติอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นการเรียกตาม พ.ร.บ.ตามคำสั่งเรียก พ.ศ. 2554 ซึ่งจะเข้ากระบวนการนี้ แต่ต้องมาดูตามกฎหมายว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการตาม พ.ร.บ.ตามคำสั่งเรียก พ.ศ. 2554 แล้ว อยู่ในกฎเกณฑ์อำนาจหน้าที่ของ กมธ.ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ หรือไม่
เมื่อถามอีกว่า สามารถดูข้อกฎหมายได้หรือไม่ ถ้าประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ เรียกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายประสานกล่าวว่า ได้ ถ้าเรียกโดยที่ข้อที่เรียกไปชี้แจงไม่ชัดเจนหรือนอกเหนืออำนาจ ก็เป็นการใช้อำนาจที่นอกเหนือจากกฎหมายให้อำนาจไว้ ซึ่งทุก กมธ.ก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เฉพาะ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ
