วานนี้ (13 พ.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปปช.) ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานในที่ประชุม โดยเป็นครั้งแรกที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี และ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. จากพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมประชุมในฐานะกรรมาธิการฯ โดยเป็นการพิจารณา กรณีการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลัง ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณ ไม่ครบ
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นตัวแทนนำหนังสือมาชี้แจง ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มอบหมายให้ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกฯ มาเป็นผู้ชี้แจง
พล.อ.ชัยชาญ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงว่า นายกฯ ไม่ได้ฝากอะไรมาเป็นพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามเอกสารที่ชี้แจงตามข้อเท็จจริง ไม่มีอะไรน่ากังวล
ด้านนายประสาน กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการถวายสัตย์ฯ เราคงไม่ชี้แจง เพราะถือว่าจบแล้ว สำหรับเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณ ยืนยันว่า ครม.ได้เสนอไปตามพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณทุกอย่าง
สำหรับบรรรยากาศในการชี้แจงนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า กมธ.มีอำนาจเรียกบุคคลมาชี้แจง ในประเด็นที่มีข้อสังสัย ตามที่ รธน.ปี 60 ระบุไว้ ที่จริงนายกฯ และรองนายกฯ ควรมาชี้แจงเอง แต่เมื่อมอบหมาย และให้คนนำเอกสารที่ลงนามมามอบ ตนก็ยินดีที่จะรับไว้ โดยในระหว่างนี้ น.ส.ปารีณา ได้ยกมือเพื่อขอชี้แจง แต่ถูกตัดบท โดยให้ตัวแทนของนายกฯ และตัวแทน พล.อ.ประวิตร ได้ชี้แจงก่อน ซึ่งพล.อ.ชัยชาญ ระบุว่า การกำหนดให้บุคคลมาชี้แจงข้อเท็จจริง อยู่ในอำนาจของประธานฯ แต่เรื่องของการถวายสัตย์ฯ ถือว่าจบลงไปแล้ว และไม่ได้อยู่ในอำนาจการสอบสวนขององค์กรใด สภาฯไม่อาจตรวจสอบได้ ส่วนเรื่องของงบประมาณ ก็ผ่านขั้นรับหลักการของสภาฯไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาฯ ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบ ทำให้ไม่อยู่ในอำนาจตามข้อบังคับ ตามอำนาจหน้าที่ของ กมธ.ปปช.
จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้กล่าวว่า คำสั่งของศาลฯ ไม่ได้เป็นข้อวินิจฉัย และถ้าทำไม่ถูกต้อง ตนก็ไม่รับฟัง ทำให้ น.ส.ปารีณา ยกมือขึ้นประท้วง พร้อมกล่าวว่า "เห็นประธานเปิดรัฐธรรมนูญอ่าน พร้อมกับให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มาตอบเอง เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต จริงอยู่ที่มีอำนาจ แต่การเชิญถือว่าเป็นการขอความร่วมมือ จะมา หรือไม่มาก็ได้ ไม่ใช่บังคับให้มา ถือว่าทำผิดกฎหมาย" ซึ่ง พล.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็กล่าวโต้ตอบว่า ผิดกฎหมายก็รับผิดชอบ ช่วงนี้ น.ส.ปารีณา กล่าวย้อนขึ้นว่า ท่านอาจจะติดคุกก็ได้ ทำให้ พล.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบสวนด้วยเสียงดังว่า " คุณขู่ผมหรือ คุณจบอะไรมา ตอนผมมอบหมายงานคุณยังไม่รับเลย" น.ส.ปารีณา จึงกล่าวว่า ท่านต้องเข้าใจกฎหมายด้วยว่า แม้แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนเรียกมา แล้วไม่มา ก็มอบคนอื่นมาแทนได้ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ส.ส.ใหม่ไม่รู้เรื่อง พล.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงตัดบททันที ทำให้ทุกคนในที่ประชุมต่างนั่งเงียบ ก่อนที่ประธานในที่ประชุม จะให้ นายประสาน ชี้แจงต่อ โดยนายประสาน ยืนยันว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น คือ เรื่องการถวายสัตย์ฯ และ การจัดทำงบประมาณ ในส่วนของการถวายสัตย์ฯ ถือเป็นพระราชอำนาจ ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ก็ถือว่าผ่านขั้นตอน และอยู่ในขั้นตอนของสภาฯไปแล้ว
ทั้งนี้หลังการชี้แจงของพล.อ.ชัยชาญ และนายประสาน ทางกมธ.ปปช. ก็ได้ประชุมกันต่อ
หลังการประชุม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาแถลงข่าวว่า ที่ประชุมคณะกมธ. มีมติ 6 ต่อ 3 เสียง ให้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาชี้แจงต่อ กมธ.ปปช. ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ในประเด็นเกี่ยวกับการถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ และการเสนอ ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ปี 63 ซึ่งการเชิญครั้งนี้ เป็นการเชิญเจาะจงไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร โดยตรง ดังนั้นคนอื่น แม้แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ จะมาชี้แจงแทนไม่ได้
พล.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า การประชุมกมธ.ครั้งนี้ มีกมธ.ใหม่มาร่วมประชุมด้วย 2 ราย คือ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ และ นายสิระ เจนจาคะ จากพรรคพลังประชารัฐ โดยน.ส.ปารีณา ไม่ได้อยู่ร่วมประชุมจนเสร็จสิ้น อีกทั้งระหว่างการประชุม ยังได้หยิบโทรศัพท์มาบันทึกภาพ และไลฟ์สด ซึ่งขัดต่อข้อบังคับการประชุมอีกด้วย และเมื่อมอบหมายให้ทำงานด้านการตรวจสอบในบางเรื่อง ก็กลับปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เป็นข่าวออกมาเกี่ยวกับการถือครองที่ดิน ภบท.5 โดยไม่ถูกต้อง ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพิจารณา ดังนั้น คณะกมธ. จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่น.ส.ปารีณา โดยหากน.ส.ปารีณา ไม่ผิดจริง สื่อมวลชนจะได้เลิกนำเสนอข่าวนี้ เสียที
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นตัวแทนนำหนังสือมาชี้แจง ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มอบหมายให้ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกฯ มาเป็นผู้ชี้แจง
พล.อ.ชัยชาญ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงว่า นายกฯ ไม่ได้ฝากอะไรมาเป็นพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามเอกสารที่ชี้แจงตามข้อเท็จจริง ไม่มีอะไรน่ากังวล
ด้านนายประสาน กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการถวายสัตย์ฯ เราคงไม่ชี้แจง เพราะถือว่าจบแล้ว สำหรับเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณ ยืนยันว่า ครม.ได้เสนอไปตามพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณทุกอย่าง
สำหรับบรรรยากาศในการชี้แจงนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า กมธ.มีอำนาจเรียกบุคคลมาชี้แจง ในประเด็นที่มีข้อสังสัย ตามที่ รธน.ปี 60 ระบุไว้ ที่จริงนายกฯ และรองนายกฯ ควรมาชี้แจงเอง แต่เมื่อมอบหมาย และให้คนนำเอกสารที่ลงนามมามอบ ตนก็ยินดีที่จะรับไว้ โดยในระหว่างนี้ น.ส.ปารีณา ได้ยกมือเพื่อขอชี้แจง แต่ถูกตัดบท โดยให้ตัวแทนของนายกฯ และตัวแทน พล.อ.ประวิตร ได้ชี้แจงก่อน ซึ่งพล.อ.ชัยชาญ ระบุว่า การกำหนดให้บุคคลมาชี้แจงข้อเท็จจริง อยู่ในอำนาจของประธานฯ แต่เรื่องของการถวายสัตย์ฯ ถือว่าจบลงไปแล้ว และไม่ได้อยู่ในอำนาจการสอบสวนขององค์กรใด สภาฯไม่อาจตรวจสอบได้ ส่วนเรื่องของงบประมาณ ก็ผ่านขั้นรับหลักการของสภาฯไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาฯ ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบ ทำให้ไม่อยู่ในอำนาจตามข้อบังคับ ตามอำนาจหน้าที่ของ กมธ.ปปช.
จากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้กล่าวว่า คำสั่งของศาลฯ ไม่ได้เป็นข้อวินิจฉัย และถ้าทำไม่ถูกต้อง ตนก็ไม่รับฟัง ทำให้ น.ส.ปารีณา ยกมือขึ้นประท้วง พร้อมกล่าวว่า "เห็นประธานเปิดรัฐธรรมนูญอ่าน พร้อมกับให้ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มาตอบเอง เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต จริงอยู่ที่มีอำนาจ แต่การเชิญถือว่าเป็นการขอความร่วมมือ จะมา หรือไม่มาก็ได้ ไม่ใช่บังคับให้มา ถือว่าทำผิดกฎหมาย" ซึ่ง พล.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็กล่าวโต้ตอบว่า ผิดกฎหมายก็รับผิดชอบ ช่วงนี้ น.ส.ปารีณา กล่าวย้อนขึ้นว่า ท่านอาจจะติดคุกก็ได้ ทำให้ พล.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบสวนด้วยเสียงดังว่า " คุณขู่ผมหรือ คุณจบอะไรมา ตอนผมมอบหมายงานคุณยังไม่รับเลย" น.ส.ปารีณา จึงกล่าวว่า ท่านต้องเข้าใจกฎหมายด้วยว่า แม้แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนเรียกมา แล้วไม่มา ก็มอบคนอื่นมาแทนได้ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ส.ส.ใหม่ไม่รู้เรื่อง พล.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงตัดบททันที ทำให้ทุกคนในที่ประชุมต่างนั่งเงียบ ก่อนที่ประธานในที่ประชุม จะให้ นายประสาน ชี้แจงต่อ โดยนายประสาน ยืนยันว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น คือ เรื่องการถวายสัตย์ฯ และ การจัดทำงบประมาณ ในส่วนของการถวายสัตย์ฯ ถือเป็นพระราชอำนาจ ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ก็ถือว่าผ่านขั้นตอน และอยู่ในขั้นตอนของสภาฯไปแล้ว
ทั้งนี้หลังการชี้แจงของพล.อ.ชัยชาญ และนายประสาน ทางกมธ.ปปช. ก็ได้ประชุมกันต่อ
หลังการประชุม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาแถลงข่าวว่า ที่ประชุมคณะกมธ. มีมติ 6 ต่อ 3 เสียง ให้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาชี้แจงต่อ กมธ.ปปช. ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ในประเด็นเกี่ยวกับการถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ และการเสนอ ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ปี 63 ซึ่งการเชิญครั้งนี้ เป็นการเชิญเจาะจงไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร โดยตรง ดังนั้นคนอื่น แม้แต่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ จะมาชี้แจงแทนไม่ได้
พล.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า การประชุมกมธ.ครั้งนี้ มีกมธ.ใหม่มาร่วมประชุมด้วย 2 ราย คือ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ และ นายสิระ เจนจาคะ จากพรรคพลังประชารัฐ โดยน.ส.ปารีณา ไม่ได้อยู่ร่วมประชุมจนเสร็จสิ้น อีกทั้งระหว่างการประชุม ยังได้หยิบโทรศัพท์มาบันทึกภาพ และไลฟ์สด ซึ่งขัดต่อข้อบังคับการประชุมอีกด้วย และเมื่อมอบหมายให้ทำงานด้านการตรวจสอบในบางเรื่อง ก็กลับปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เป็นข่าวออกมาเกี่ยวกับการถือครองที่ดิน ภบท.5 โดยไม่ถูกต้อง ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพิจารณา ดังนั้น คณะกมธ. จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่น.ส.ปารีณา โดยหากน.ส.ปารีณา ไม่ผิดจริง สื่อมวลชนจะได้เลิกนำเสนอข่าวนี้ เสียที