“วิษณุ” ระบุเมื่อ กมธ.ยังไม่อ้างกฎหมายคำสั่งเรียก ไม่ไปแจงด้วยตัวเองก็ไม่ผิด ยัน “บิ๊กตู่” พยายามทำตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภาถึงที่สุดแล้ว แต่ถ้า กมธ.ยังไม่จบก็เป็นเรื่องนายกฯ กับ กมธ.
วันนี้ (15 พ.ย.) เวลา 10.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เสนอให้เปลี่ยนตัว พล.ต.อ.เสรีศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ว่าเป็นเรื่องของสภา ตนตอบไม่ถูก เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง ส่วนในอดีตมีหรือไม่นั้นไม่ทราบ อาจจะเคยเปลี่ยนแต่เราไม่รู้ เช่น กรณีประธาน กมธ.ลาออก แต่การลงมติเอาประธานออกไม่แน่ใจ ไม่เคยเห็น
เมื่อถามว่า มีระบุว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อาจเข้าข่ายใช้อำนาจเกินหน้าที่ นายวิษณุกล่าวว่า ขอไม่ตอบในเรื่องนี้ เมื่อถามว่าเคยมีการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ไม่ไปชี้แจงต่อ กมธ.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เข้าใจว่าคงไม่เคยมีการบังคับใช้ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คำสั่งเรียก พ.ศ. 2554 มาก่อน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเกี่ยวกับการออกคำสั่งให้มาชี้แจงต่อ กมธ. แต่ต้องเป็นการสั่งตาม พ.ร.บ.นี้ ทั้งนี้ การสั่งของ กมธ.เป็นได้ทั้งการขอความร่วมมือตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 และข้อบังคับการประชุม หรือสั่งให้มาตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ซึ่ง กมธ.ยังไม่ได้อ้างอำนาจตาม พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่เป็นเรื่องของความผิดทางอาญา ฉะนั้นจึงต้องมีการสั่ง และถ้าไม่ไปถือว่าขัดคำสั่ง
เมื่อถามย้ำว่า กมธ.ต้องลงมติให้เรียกตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียกใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ แต่กรณีของ กมธ.ได้ใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหนังสือที่เขาส่งมาให้นายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า การที่นายกฯ ส่งคนไปชี้แจงแทน ถือว่าเสร็จสิ้นแล้วหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ในส่วนของนายกฯ ได้พยายามทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 และข้อบังคับที่สุดแล้ว แต่เมื่อ กมธ.เห็นว่ายังไม่จบก็เป็นเรื่องของ กมธ. เป็นเรื่องระหว่าง กมธ.กับนายกฯ ตนคงไปตอบแทนใครไม่ได้
