"คุณหญิงสุดารัตน์" ลุยขอนแก่น พบชาวนาถูกเอาเปรียบ ไร้การเหลียวแลจากภาครัฐ แนะชาวนาชะลอการขายข้าวเพื่อเพิ่มราคา เรียกร้องรัฐดูแลทันที ก่อนข้าวจะอยู่ในมือพ่อค้า
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อสอบถามปัญหาราคาข้าวจากเกษตรกร โดยพบว่าฤดูกาลผลิตนี้ ข้าวสารและข้าวเหนียวขาดตลาด เกษตรกรควรได้ราคาดี เพราะต้องประสบปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ทำให้ผลผลิตมีน้อย แต่ปรากฏว่าปัจจุบันชาวนากลับถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยไม่มีมาตรการของภาครัฐออกมาช่วยเหลือ ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิคุณภาพดีที่สุดของโลก ซึ่งปลูกในพื้นที่ภาคอีสาน ขายได้เพียงกิโลกรัมละ ประมาณ 12 บาทเท่านั้น
“ในห้วงของการเก็บเกี่ยวรัฐบาลต้องเข้ามาดูแล ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ไม่ใช่ไปดูแลในช่วงปลายเดือนหรือต้นเดือน ธ.ค. ซึ่งข้าวจะอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางแล้ว โดยเฉพาะข้าวเปลือกจะถูกขาย และเปลี่ยนมือจากชาวนาไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง อยู่กับโรงสี ราคาจึงปรับตัวสูงขึ้นไปที่ประมาณกิโลกรัมละ 20 -25 บาท ซึ่งพี่น้องชาวนาไม่ได้รับประโยชน์ ดังนั้นรัฐต้องมีมาตรการออกมาช่วย ชะลอการขายข้าวทันที
และในขณะที่ชาวนาถูก กดราคา ขายข้าวได้ราคาไม่เป็นธรรม กลับยังไม่เห็นมาตรการ รวมถึงความช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาล อย่างเป็นรูปธรรม” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยพยายามช่วยเหลือเท่าที่ทำได้โดยเฉพาะการหาช่องทางจัดจำหน่าย พร้อมสื่อสารไปถึงพี่น้องเกษตรกรว่า อย่าเพิ่งรีบขายข้าว ให้เก็บไว้รอราคาที่เหมาะสม จึงทยอยขาย ดังนั้นหากรัฐจริงใจจะช่วยเหลือเกษตรกรต้องช่วยในช่วงเวลานี้ ก่อนที่ข้าวจะไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง
ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมคณะ ส.ส. ปละอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายบัลลังก์ อรรณนพพร, นางมุกดา พงษ์สมบัติ, นายพงศกร อรรณนพพร, นายอดิศร เพียงเกษ, นายธนิก มาสีพิทักษ์ และนายสุรชัย เบ้าจรรยา ร่วมลงพื้นที่
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้พบปะกลุ่มเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ ให้กำลังใจในการประกอบอาชีพ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ข้าวปลอดสารพิษ รวมถึงแนะนำวิธีการปลูกและขายข้าวอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและได้ราคาอย่างเหมาะสม จากนั้นได้ร่วมกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวกับเกษตรกร ด้วยรอยยิ้ม สร้างความอบอุ่นให้กับพี่น้องเกษตรกร ถือเป็นการรักษาวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย โดยเฉพาะเป็นการสืบสาน สิ่งที่พี่น้องชาวนาได้ถือปฏิบัติมาช้านาน กิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นการเปิดศักราช ฤดูกาลเก็บเกี่ยว และเป็นหนึ่งใน ความต่อเนื่อง จากโครงการ"ข้าวสานธรรม" ที่ดำเนินการมาทุกปีด้วย.
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อสอบถามปัญหาราคาข้าวจากเกษตรกร โดยพบว่าฤดูกาลผลิตนี้ ข้าวสารและข้าวเหนียวขาดตลาด เกษตรกรควรได้ราคาดี เพราะต้องประสบปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ทำให้ผลผลิตมีน้อย แต่ปรากฏว่าปัจจุบันชาวนากลับถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยไม่มีมาตรการของภาครัฐออกมาช่วยเหลือ ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิคุณภาพดีที่สุดของโลก ซึ่งปลูกในพื้นที่ภาคอีสาน ขายได้เพียงกิโลกรัมละ ประมาณ 12 บาทเท่านั้น
“ในห้วงของการเก็บเกี่ยวรัฐบาลต้องเข้ามาดูแล ตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ไม่ใช่ไปดูแลในช่วงปลายเดือนหรือต้นเดือน ธ.ค. ซึ่งข้าวจะอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางแล้ว โดยเฉพาะข้าวเปลือกจะถูกขาย และเปลี่ยนมือจากชาวนาไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง อยู่กับโรงสี ราคาจึงปรับตัวสูงขึ้นไปที่ประมาณกิโลกรัมละ 20 -25 บาท ซึ่งพี่น้องชาวนาไม่ได้รับประโยชน์ ดังนั้นรัฐต้องมีมาตรการออกมาช่วย ชะลอการขายข้าวทันที
และในขณะที่ชาวนาถูก กดราคา ขายข้าวได้ราคาไม่เป็นธรรม กลับยังไม่เห็นมาตรการ รวมถึงความช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาล อย่างเป็นรูปธรรม” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยพยายามช่วยเหลือเท่าที่ทำได้โดยเฉพาะการหาช่องทางจัดจำหน่าย พร้อมสื่อสารไปถึงพี่น้องเกษตรกรว่า อย่าเพิ่งรีบขายข้าว ให้เก็บไว้รอราคาที่เหมาะสม จึงทยอยขาย ดังนั้นหากรัฐจริงใจจะช่วยเหลือเกษตรกรต้องช่วยในช่วงเวลานี้ ก่อนที่ข้าวจะไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง
ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมคณะ ส.ส. ปละอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายบัลลังก์ อรรณนพพร, นางมุกดา พงษ์สมบัติ, นายพงศกร อรรณนพพร, นายอดิศร เพียงเกษ, นายธนิก มาสีพิทักษ์ และนายสุรชัย เบ้าจรรยา ร่วมลงพื้นที่
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้พบปะกลุ่มเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรอินทรีย์ ให้กำลังใจในการประกอบอาชีพ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ข้าวปลอดสารพิษ รวมถึงแนะนำวิธีการปลูกและขายข้าวอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและได้ราคาอย่างเหมาะสม จากนั้นได้ร่วมกิจกรรมลงแขกเกี่ยวข้าวกับเกษตรกร ด้วยรอยยิ้ม สร้างความอบอุ่นให้กับพี่น้องเกษตรกร ถือเป็นการรักษาวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย โดยเฉพาะเป็นการสืบสาน สิ่งที่พี่น้องชาวนาได้ถือปฏิบัติมาช้านาน กิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นการเปิดศักราช ฤดูกาลเก็บเกี่ยว และเป็นหนึ่งใน ความต่อเนื่อง จากโครงการ"ข้าวสานธรรม" ที่ดำเนินการมาทุกปีด้วย.