xs
xsm
sm
md
lg

ศึกเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น วัดพลังหญิงหน่อย-บิ๊กป้อม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดเด็ดขาดว่า "นายนวัธ เตาะเจริญสุข" พ้นสภาพจากความเป็น ส.ส.เขต 7 จังหวัดขอนแก่นไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2562 ซึ่งก็คือวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ส.ส.ตามคำร้อง นั่นคือทำให้สมาชิกภาพ ส.ส.ต้องสิ้นสุดลงนับตั้งแต่บัดนั้น และต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน
ทั้งนี้ นายนวัธ ถูกศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาประหารชีวิตจากคดีจ้างวานฆ่า "นายสุชาติ โคตรทุม" อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น และถูกคุมขังโดยไม่ได้รับการประกันตัว
อย่างไรก็ดี ให้ถือว่าในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังโดยชอบ เป็นวันที่ตำแหน่ง ส.ส.ว่างลง
เอาเป็นว่านาทีนี้ นายนวัธ เตาะเจริญสุข ได้พ้นจากการเป็น ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และต้องมีการเลือกตั้งซ่อมในเขตเลือกตั้งดังกล่าวภายใน 45 วัน หลังจากที่ตำแหน่งส.ส.ว่างลง ซึ่งคาดกันว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้
**แน่นอนว่าเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมกันในเขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดขอนแก่น มันก็ทำให้การเมืองในพื้นที่เริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง หากพิจารณาว่า นี่คือฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ อีกทั้งจังหวัดขอนแก่น ยังถือว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญในภาคอีสานมานาน ที่จะแพ้ไม่ได้ง่ายๆ เด็ดขาด
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในวันนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตไปมากมายไม่น้อยแล้ว เนื่องจากมีคู่ต่อสู้ในรูปแบบใหม่ นั่นคือ เป็นการต่อสู้ขับเคี่ยวกับคนที่เคยอยู่ร่มชายคาเดียวกันมาก่อน แต่มาวันนี้ต้องมาเผชิญหน้า กลายมาเป็นคู่ต่อสู้สำคัญที่ยากต่อกรได้ง่ายๆ
หากปูแบ็กกราวด์คร่าวๆ ในพื้นที่ เขต 7 จังหวัดขอนแก่น โดยวัดเฉพาะการเลือกตั้งคราวที่แล้ว ที่เป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคเพื่อไทย ที่มีผู้สมัครคือ นายนวัธ เตาะเจริญสุข กับ นายสมศักดิ์ คุณเงิน จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะว่าไปแล้วทั้งคู่ก็ล้วนเติบโต หรือเคยเป็นผู้สมัครในพรรคเครือข่ายเดียวกัน โดยสมศักดิ์ เคยเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย แต่เมื่อพรรคถูกยุบ และตัวเองเป็นกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องเว้นวรรคไปช่วงหนึ่ง ทำให้นายนวัธ ได้มีโอกาสแทรกเข้ามาเป็นผู้สมัครพรรคพลังประชาชน และได้ชัยชนะเป็นส.ส. ขณะที่ นายสมศักดิ์ เมื่อมีโอกาสได้กลับมาลงสมัครส.ส. แต่ต้องย้ายไปสังกัดพรรคอื่น และแพ้เลือกตั้ง จนล่าสุดเมื่อการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา เขาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ที่ถือว่ามีความพร้อมไม่เบา แต่ถึงอย่างไรก็ยังพ่ายแพ้แก่ นายนวัธ ในเขตนี้ไปไม่กี่คะแนน โดยนายนวัธ ได้ 29,710 คะแนน ขณะที่นายสมศักดิ์ ได้ 26,553 คะแนน และผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ ได้ไป 12,414 คะแนน
**ขณะเดียวกัน หากพิจารณาในภาพรวมในพื้นที่เลือกตั้งจังหวัดขอนแก่นทั้ง 10 เขต ก็ยังถือว่าพรรคเพื่อไทย ยังมีอิทธิพลสูงอยู่พอสมควร เมื่อวัดจากผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่พวกเขาชนะการเลือกตั้งไปถึง 8 เขต ขณะที่เหลืออีก 2 เขต เป็นของพรรคอนาคตใหม่ ที่ชนะในเขตเลือกตั้งที่ 1 และ พรรคพลังประชารัฐ ชนะในเขตเลือกตั้งที่ 2 แม้ว่ายังถือว่า พรรคเพื่อไทย ชนะไปถึง 8 เขตก็ตาม แต่ในทางการเมืองถือว่า “ถดถอย”เพราะถูกแย่งที่นั่งโดยพรรคหน้าใหม่ อย่างอนาคตใหม่ และพรรคพลังประชารัฐ ที่ทั้งสองเขตนี้ พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้อย่างขาดลอยเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี หากให้โฟกัสเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 7 ที่จะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ภายใน 45 วันหลังจากนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่วัดพลังทางการเมือง ของการเมืองทั้งสองขั้ว ตั้งแต่การเมืองระดับชาติลงมาถึงระดับท้องถิ่น ระหว่างสองขั้วใหญ่ฝ่ายค้านและรัฐบาล นั่นคือพรรคเพื่อไทยเจ้าของพื้นที่เก่า และพรรคพลังประชารัฐ ที่คราวที่แล้วพ่ายแพ้ไป แบบฉิวเฉียด
**สำหรับพรรคพลังประชารัฐนั้น แน่นอนว่าต้องการแก้มือให้ได้ มีการเรียกประชุมทีมงานส.ส.ในจังหวัดขอนแก่น และผู้สนับสนุนเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ก็มีมติส่ง "นายสมศักดิ์ คุณเงิน" ผู้สมัครคนเดิมที่พ่ายแพ้ให้กับ นายนวัธไม่กี่พันคะแนน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ก็ต้องการรักษาพื้นที่เอาไว้ให้ได้ ซึ่งก็แน่นอนว่าก็ต้องเป็นทายาทของนายนวัธ นั่นแหละ เพียงแต่ว่ายังต้องรอชี้ขาดกันอีกรอบ
นอกเหนือจากนี้ การเลือกตั้งซ่อมคราวนี้ยังเชื่อว่าต้องมีการทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่มั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลอื่นคงจะหลีกทางให้ เพราะเมื่อวัดจากผลคะแนน ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่ทางฝ่ายพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ต้องจับตามองว่าพรรคอนาคตใหม่ ที่คราวที่แล้วมาเป็นอันดับ 3 จะยอมถอยให้หรือไม่ เพราะเคยได้คะแนนหมื่นกว่า ก็ถือว่าไม่ใช่น้อยเหมือนกัน
แต่เหนืออื่นใด งานนี้น่าจะเป็นการวัดกันที่พลังของ “ขุนพล”หรือ แม่ทัพของแต่ละพรรคว่าใครจะมีพลังเหนือกว่ากัน หากมองไปที่พรรคเพื่อไทย ที่นาทีนี้ เชื่อว่า "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานยุทธศาสตร์พรรคจะลงมาเต็มตัวได้หรือไม่ หากลงมาได้เต็มตัว นั่นก็หมายความว่า เธอยังมีอำนาจนำพรรค ซึ่งอีกไม่นานก็จะได้คำตอบ เพราะที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคอีสาน เธอยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร แต่ที่ผ่านมาในช่วงสองสามวันนี้ เธอได้ฝังตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมาตลอด มันก็ย่อมมีความหมายเหมือนกัน
ขณะที่ฝั่งพรรคพลังประชารัฐ นอกจากต้องลุ้นให้ชนะเลือกตั้ง เพราะนั่นหมายถึงการเพิ่มเก้าอี้ที่นั่งส.ส.ให้กับพรรคอีก 1 ที่นั่ง เป็นผลดีกับรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่ทุกเสียงมีความหมาย จึงเชื่อว่าต้องทุ่มเททุกทาง ขณะเดียวกันยังเป็นการวัดบารมีของ “ขุนพล”ในพื้นที่ ซึ่งเวลานี้ยังเป็นชื่อ “เอกราช ช่างเหลา”ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน
ดังนั้น งานนี้แม้จะเป็นเพียงการเลือกตั้งซ่อม แต่สำหรับทั้งสองพรรคคือเพื่อไทยและพลังประชารัฐ ต่างก็มีเดิมพันสูง แต่หากมองกันตามสถานการณ์ในเวลานี้ก็ยังเชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลน่าจะเป็นต่อ และเพื่อหวังชัยชนะก็มีโอกาสที่จะได้เห็นการโดดลงมาคุมเกมแบบเต็มตัวครั้งแรกของ ประธานยุทธศาสตร์ของพรรคคือ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมไปถึงอาจได้เห็น “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรคก็เป็นได้ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น