xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.งบปี 63 พิจารณางบกระทรวงพาณิชย์ ตั้งข้อสังเกตงบ 197.6 ล้าน ซื้อที่ทำการผู้แทนการค้าที่เจนีวา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โฆษก กมธ.งบฯ เผย การพิจารณางบประมาณรายกระทรวง ตั้งข้อสังเกตงบ 197.6 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารที่ทำการคณะผู้แทนการค้าไทยถาวรประจำองค์การการค้าโลก และ องค์การทรัพย์สินทางปัญญา ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คุ้มค่าหรือไม่ พร้อมเตรียมพิจารณางบกระทรวงกลาโหม ปลายเดือนพฤศจิกายน



วันนี้ (29 ต.ค.) นายชัยชนะ เดชเดโช โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แถลงความคืบหน้าการประชุมพิจารณางบประมาณรายกระทรวง โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงแรกที่เข้าสู่การพิจารณา โดยตั้งงบประมาณไว้ 7,553 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้พิจารณางบประมาณสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ 1,802 ล้านบาท และ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า 213 ล้านบาท โดยคณะกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตกรณีสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ตั้งงบประมาณ 197.6 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารที่ทำการคณะผู้แทนการค้าไทยถาวรประจำองค์การการค้าโลก และ องค์การทรัพย์สินทางปัญญา ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า คุ้มค่าหรือไม่ เนื่องจากงบประมาณปี 2563 เป็นงบประมาณขาดดุลและกู้เงินจากต่างประเทศมาทำงบประมาณเกือบ 5 แสนล้านบาท ขณะที่อาคารหลังนี้เช่ามาเป็นเวลา 24 ปีแล้ว จึงต้องพิจารณาว่าจะเอางบประมาณซึ่งมาจากการกู้ไปซื้อ จะคุ้มกับค่าดอกเบี้ยที่ต้องเสียหรือไม่ เมื่อเทียบกับค่าเช่าที่เช่าอยู่

นายชัยชนะ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่มีการตั้งเป้าปรับลดงบประมาณ เพราะต้องพิจารณารายละเอียดในชั้นอนุกรรมาธิการ เพียงแต่มีการตั้งข้อสังเกตถึงภาพรวม อาทิ การขอให้เน้นรับซื้อสินค้าเกษตรในประเทศก่อนนำเข้า มาตรการช่วยเหลือผู้ค้าออนไลน์ มาตรการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ GSP แนวทางการช่วยเหลือราคาสินค้าเกษตร มาตรการข้าวโพดและทุเรียน การดูแลผู้ประกอบการอัญมณี การช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย ความปลอดภัยด้านอาหารสินค้าตามแนวชายแดน การแก้ปัญหาลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม การจัดการ Big Data การแก้ไขปัญหาการกดราคาของพ่อค้าคนกลางหรือนกต่างๆ และขอคำชี้แจงตัวชี้วัดการบริหารงานของกระทรวง โดยคณะกรรมาธิการจะเร่งพิจารณาในส่วนกระทรวงพาณิชย์ให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ เพื่อจะได้พิจารณางบประมาณของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมช่วงเย็นวันนี้

นายชัยชนะ ยังกล่าวถึงกรอบเวลาที่กรรมาธิการวางไว้เบื้องต้น 226 ชั่วโมง แต่ทางกรรมาธิการ คาดว่า เวลาไม่เพียงพอ อาจต้องมีการขยายเวลา เช่น การประชุมวันจันทร์จากเลิก 22 นาฬิกา เปลี่ยนเป็นเที่ยงคืน วันพุธและพฤหัสบดีจากเลิก 18 นาฬิกา เปลี่ยนเป็นเลิก 22 นาฬิกา และอาจเพิ่มการประชุมวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนการพิจารณางบประมาณกระทรวงกลาโหม นายชัยชนะ เปิดเผยว่า จะมีการพิจารณาวันที่ 28-29 พฤศจิกายน ส่วนงบกลางจะพิจารณา วันที่ 4 และ 9 ธันวาคม

สำหรับสถานะของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการ ขณะที่ศาลสั่งไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. นายชัยชนะ เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมาธิการได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ และประธานกรรมาธิการได้ทำหนังสือไปถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณากันในชั้นกรรมาธิการ เพราะงานหลักคือการพิจารณางบประมาณปี 2563


กำลังโหลดความคิดเห็น