นายกฯ ลั่น ขู่รัฐบาลไม่ได้ หลังประมงรวมตัวประท้วงหยุดเรือ ยันรัฐต้องบริหารตาม กม. พร้อมรับทุกข้อเรียกร้องไปดำเนินการ
วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีสมาคมประมง 22 จังหวัด ขู่หยุดทำการ เพื่อประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และจะดำเนินการยื่นถวายฎีกาต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากรัฐบาลไม่แก้ไขปัญหาภายใน 7 วัน ว่า เรื่องตัวแทนสมาคมประมง ตนไม่อยากให้ใช้คำถามของสื่อถามมา ขู่จะหยุดทำการประมงเพื่อประท้วงรัฐบาล และจะยื่นฎีกาถวาย ตนว่าไม่ต้องไปขยายความ เขาขู่รัฐบาลไม่ได้อยู่แล้ว เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการกำกับดูแล ในการบริหารต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามกระบวนการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รัฐบาลก็ฟังความต้องการ ต้องทำความเข้าใจกันว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ สิ่งที่เขาเสนอขึ้นมาว่าวันที่ 1 ส.ค.จะยื่นหนังสือร้องเรียนและ 7 วันขอคำตอบ ตนก็รับเรื่องนี้ไว้และนำสู่การพิจารณา ซึ่งประเด็นปัญหาตอนนี้กำลังพิจารณาดำเนินการอยู่ โดยกรมประมงกำลังดูเรื่องการซื้อเรือคืน
นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องการขาดแคลนแรงงานประมงเป็นสิ่งที่ยาก เพราะเท่าที่จดทะเบียนไป คนที่จะมาเป็นแรงงานในเรือประมงหายากมาก ส่วนใหญ่ไม่ถนัดและไม่ชอบงานหนัก รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานตนได้ให้นโยบายไปแล้ว ว่า จะทำอย่างไรในการจัดหาแรงงานประมง ที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานประมงเรือทั้งในน่านน้ำและนอกน่านน้ำ ต้องไปดูว่าใช้แรงงานต่างด้าวและแรงงานต่างประเทศจะควบคุมกันได้อย่างไร ต้องขอเวลา ให้เวลารัฐบาลบ้าง ที่ผ่านมา เราอาจจะไม่ได้ดูแลในเรื่องเหล่านี้มากนัก ก็ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการติดตามดูแลเรื่องการค้ามนุษย์ เรื่องสวัสดิการแรงงาน เราต้องดูแลสวัสดิการของแรงงานทุกคนที่ทำงานในประเทศไทยด้วย ไม่ใช่ใครจ้างมาก็ได้ เสร็จแล้วภาระก็ตกอยู่ที่รัฐบาลหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องครอบครัว การรักษาพยาบาล การศึกษา เราต้องรับผิดชอบเขาด้วยทั้งหมด เพราะฉะนั้นต้องร่วมมือกันทั้งฝ่ายรัฐ เอกชน ธุรกิจ วันนี้ตนก็ส่งเสริมหารือกับหลายประเทศในการร่วมทำการประมงนอกน่านน้ำ ขณะเดียวกัน ต้องไปหาการแก้ปัญหาแรงงานประมงด้วย
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องปัญหาวันนี้ที่เขาพูดมา คือ การขาดแรงงาน การซื้อเรือคืน รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งศูนย์บัญชาการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) คณะทำงานเรื่องไอยูยูกำลังพิจารณาเรื่องนี้เป็นการด่วน เรื่องการแจ้งเรือเข้า-ออกวันนี้ ก็ยังมีปัญหาอยู่ว่าทำยังไม่ค่อยเหมือนกัน มาตรฐานก็เกิดความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ก็ให้ ศปมผ.เร่งดำเนินการให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ส่วนเรื่องการผลักดันไทยเข้าภาคีตรงนี้กำลังพิจารณา เราต้องเน้นว่าจะดูแลภาคประมงและแรงงานได้อย่างไร ตนพูดทั้งหมดต้องดูแลทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทางด้วย ไม่ใช่ได้แรงงานเข้ามาแต่มีปัญหาเรื่องความมั่นคงตามมา มีปัญหาเรื่องการดูแลสิทธิประโยชน์ ขณะเดียวกัน ต้องดูเรื่องค้ามนุษย์หรือการลักลอบนำแรงงานเข้ามาในประเทศ ที่วันนี้จดทะเบียนแรงงานได้กว่าล้านคน ซึ่งไม่เคยทำได้มาโดยตลอด แต่วันนี้ทำมาแล้ว แน่นอนว่าต้องมีผลกระทบทั้งสิ้น
“รัฐบาลไม่ได้จะทำไปเอาใจใครโดยไม่นึกถึงคนไทย มันต้องนึกถึงคนไทยอยู่แล้ว ตนถึงบอกว่าการจะทำอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงกฎหมายของเราเอง และกฎหมายระหว่างประเทศด้วย เพราะตลาดเราอยู่ต่างประเทศ ถ้าตลาดไม่ได้อยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น จะทำอะไรก็ทำได้ ต้องเข้าใจตรงนี้ ไม่อย่างนั้นวันหน้าจะอยู่กันไม่ได้ทุกธุรกิจ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว