ระยอง - ดีเดย์ 1 ส.ค.นี้ สมาคมประมงทั้งประเทศพร้อมใจบุกยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เรียกร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างจริงจัง
วันนี้ (30 ก.ค.) นายพรศักดิ์ แย้มกลิ่น นายกสมาคมประมงระยอง ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้นายกสมาคมประมงฯ เดินทางเข้ายื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับความเดือดร้อนของกลุ่มประมง ต่อรัฐบาล ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล และยังให้ผู้แทนสมาคมประมงท้องถิ่น นำชาวประมงเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องปัญหาความเดือดร้อนที่ศาลากลางจังหวัด ในทุกจังหวัดชายทะเลรวม 22 จังหวัด ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ด้วยเช่นกัน
นายพรศักดิ์ ยังบอกอีกว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา สมาคมประมงระยอง ได้เชิญนายกสมาคมประมงในพื้นที่ จ.ระยอง รวม 5 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมประมงระยอง สมาคมประมงท่าเรือแกลง สมาคมประมงสุนทรภู่ สมาคมประมงปากน้ำประแสร์ และสมาคมประมงไดหมึกบ้านเพ เข้าร่วมประชุม ณ ที่ทำการสมาคมประมงระยอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง โดยให้ตัวแทนทั้ง 5 สมาคมประมงเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เพื่อให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาแรงงานโดยให้ใช้กฎหมาย พ.ร.ก.ประมง มาตรา 83 ที่สามารถเปิดให้แรงงานที่ผิดกฎหมายที่ยังอยู่ในประเทศไทยสามารถทำเอกสารซีบุ๊ก เพื่อลงเรือประมง จำนวน 50,000 คน
และยังคัดค้านการที่รัฐบาลจะให้สัตยาบันเพื่ออนุสัญญา C188 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรัฐบาลจะได้ซื้อเรือคืน และขอให้หน่วยงานของรัฐเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดตามที่ได้ขอมติ ครม.แล้ว รวมทั้งปัญหาด้านกฎระเบียบของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานที่ปฏิบัติต่อชาวประมง ก็ขอให้เร่งรัดการแก้ไข ปรับปรุง กฎ ข้อบังคับด้วยเช่นกัน
“ไม่เพียงเท่านั้น ในเรื่องการตรวจเรือของกรมเจ้าท่า ที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นไปหลายเดือนแล้ว ก็ขอให้แก้ไขปัญหากฎหมาย กฎระเบียบของกรมประมงที่เป็นปัญหาในแนวทางปฏิบัติของชาวประมงในหลายๆ ฉบับ ขอให้แก้ไขปัญหาการแจ้งเข้าออกของศูนย์ PIPOในการปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และปัญหาค่าบริการรายเดือนของอุปกรณ์ VMS ที่ชาวประมงต้องรับภาระในช่วงที่เรือจอด”
นายพรศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า นายกสมาคมประมงทั้ง 6 สมาคมในพื้นที่ จ.ระยอง รวมทั้งกลุ่มอาชีพค้าขายอาหารทะเลต่อเนื่องประมง จำนวนหลายร้อยคน ได้นัดหมายกันที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลาง จ.ระยอง ในเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ส.ค.นี้เพื่อให้ได้คำตอบในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนภายใน 7 วัน และหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องตามมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการเรือประมงก็จะพร้อมใจกันจอดเรือประมงทั้งประเทศอย่างน้อย 7 วัน
และหากรัฐบาลยังไม่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในด้านต่างๆ ทุกสมาคมประมง ก็จะเดินทางไปยื่นถวายฎีกาต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อไป
