ข่าวปนคน คนปนข่าว
.
** เชื้อไม่ทิ้งแถว!! “ลูกบิ๊ก คสช.ผู้ยิ่งใหญ่”เจริญตามรอย “ตัวพ่อ”ไม่ผิดเพี้ยน ยึดมั่นสไตล์ “เสือเงียบ”ฟาดเรียบ “หัวคิว”ที่สุดอำมหิต ไม่สนว่าซื้อมาใช้งานได้ไหม ไม่ต่าง “ไม่ล้างป่าช้า - เรือเหี่ยว”ผลงานเอก สมัย “ตัวพ่อ”หารับประทานแถว “คลองหลอด”ไม่พอ ยังเพ่นพ่านไป “หาเศษหาเลย”ที่อื่นด้วย เห็นว่าเพิ่งไปสร้าง “อนุสรณ์แห่งความฉ้อฉล”มูลค่า 200 ล้านบาท ให้ “หน่วยงานวิจัยแถวๆ คลอง 5”นู่น
สมเหตุสมผล .. คือคำการันตีจากปาก “บิ๊กป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่พูดถึงวีรกรรม “กล้าต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ” ของ “ผู้ว่าฯหนึ่ง”ณรงค์ศักดิ์ โอสถาธนากร ผู้ว่าฯ พะเยา เอาไว้ .. โดยระบุว่า การที่“ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์”ไม่ยอมลงนามหลายโครงการที่ส่อไปในทาง “ไม่โปร่งใส” ของ “ท้องถิ่น”กว่า 20-30 โครงการ สมัยเป็นผู้ว่าฯเชียงราย นั้น “สมเหตุสมผลดี” ..แต่การกระทำที่สมเหตุสมผล กลับนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่กลับกลายเป็นว่าถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่ง ในลักษณะเหมือน “ลงโทษ”ไปอยู่ในจังหวัดที่เล็กกว่า จังหวัดที่แยกตัวไปจาก จ.เชียงราย อย่าง จ.พะเยา .. ทั้งที่ผลงานการเปิดโปง ป้องกันปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น ควรได้รับ “ความดีความชอบ”ด้วยซ้ำ .. แต่หากได้ติดตาม “คำชี้แจง”ที่เด้ง “ณรงค์ศักดิ์” พ้นเชียงราย ของเจ้าของรหัส “มท.1” มาตลอด ก็จะรับรู้ได้ทันทีว่า “ถือหาง”ฝั่งไหน .. จากที่เคยสาปส่งว่า มีข้อบกพร่องในการทำงาน หลังจาก “ณรงค์ศักดิ์” เปิดโปงโครงการส่งกลิ่น-มีทอนของ จ.เชียงราย ได้เพียงเดือนเดียว ก็ถูกเสนอย้าย .. ต่อมาช่วงต้น ก.ค. ที่ “ผู้ว่าฯหนึ่ง” โด่งดังเป็นพลุแตกกับภารกิจถ้ำหลวง ก็ออกมาชี้แจงประมาณว่า ทำงานกับหน่วยงานอื่นไม่ราบรื่น .. จนท้ายที่สุด เมื่อถูกกดดันให้ตรวจสอบ “โครงการส่งกลิ่น”ของ จ.เชียงราย ก็เลยออกมายืนข้าง “ผู้ว่าฯหนึ่ง”ว่า ทำหน้าที่ “สมเหตุสมผลดี” ..ที่ทำให้ “บิ๊กป๊อก” พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย พูดไม่ตรงกันซักหน ก็เพราะจำเป็นต้องเกาะกระแส “หัวหมู่ฮีโร่ถ้ำหลวง” ของ “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์” นั่นเอง ..
อีกทั้งก็เพื่อลดกระแสกดดันให้ตรวจสอบโครงการต่างๆ ของ จ.เชียงราย อันจะโยงใยไปถึง “โรงกำจัดขยะครบวงจร”มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่ปรากฏว่าใช้การไม่ได้ .. เป็นโครงการที่นอกเหนือจากจะเป็นการ “เปิดหัว” สำหรับโครงการเมกะโปรเจกต์หลายแสนล้านอย่าง “โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ”ที่ จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในจังหวัดต้นแบบแล้ว .. ยังต้องกลบเกลื่อน “ความผิดปกติ” ของ “โครงการกำจัดขยะครบวงจร”ของ จ.เชียงราย ที่สูญเสียงบฯ ไปถึง 300 ล้านบาท แต่ใช้การไม่ได้ด้วย .. เพราะเชื่อกันว่า โครงการดังกล่าว ที่นอกเหนือจาก “ท้องถิ่น” ไปทำริยำตำบอน ผลาญงบละลายน้ำ แล้ว ยังอาจจะมี “ลูกบิ๊ก คสช. ผู้ยิ่งใหญ่”เข้าไปมีเอี่ยวด้วย .. เป็น “ตัวลูก”ที่เจริญตามรอย “ตัวพ่อ” ไม่มีผิดเพี้ยนกับสไตล์ “รับประทานเงียบๆ” โดยไม่สนใจว่าของที่ซื้อมานั้น จะใช้การได้หรือไม่ คล้ายกับ “ไม่ล้างป่าช้า - เรือเหี่ยว”ผลงานเอกของรุ่นพ่อนั่นแหละ .. แล้วยังมีข่าวมาอีกว่า ไม่ใช่หารับประทานเฉพาะแถว “คลองหลอด” เท่านั้น “ลูกเสือ”ตัวที่ว่า ยังเพ่นพ่านไป “หาเศษหาเลย”กับหน่วยงานสังกัดกระทรวงอื่นด้วย .. ไม่นานมานี้ ก็เพิ่งไปมีเอี่ยวซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่ มูลค่า 200 ล้านบาท “หน่วยงานวิจัยแถวๆ คลอง 5-6” ที่สุด “ใช้การไม่ได้”ตามสูตร จนกลายเป็น “อนุสรณ์แห่ง ความฉ้อฉล” เย้ยนโยบายปราบโกงของ “รัฐบาลลุงตู่” อยู่ในตอนนี้
**ลายพรางรุกหนัก!! “บิ๊กตู่”ยังมาวิน โพลให้เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง เสียงเกินครึ่งเทใจให้ “พรรคการเมืองพรรคใหม่ๆ” ดูอะไรๆ ก็ไม่เป็นใจกับ“เพื่อไทย”แถมเจอ “สามมิตร ณ ประชารัฐ”เปิดเกมรุกหนัก ไล่ดูด-ไล่จีบไม่ว่า ปล่อย “หมากเด็ด”อย่าง “แรมโบ้อีสาน”มาจุดไฟเผารังเก่า ขยายแผล “บ้านนายใหญ่”ไม่เคยเหลียวแล ปูทางพรรคใหม่ สร้างความปรองดอง-สลายสีเสื้อ
ยังเหนียวแน่น .. หลัง “นิด้าโพล”เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน พบว่าส่วนใหญ่ยังอยากได้ "นายกฯตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯหลังการเลือกตั้ง มาเป็นอันดับ 1 ที่ คะแนน 31.26% .. ตกลงจากการสำรวจ 2 หนก่อน ที่ได้ 38.64% และ 32.24% ไปเล็กน้อย .. ถึง “คะแนนส่วนบุคคล” จะลดลงไปบ้าง แต่ก็ยัง “เบาใจ”ได้ เมื่อยังทิ้งคู่แข่งห่างไกลพอสมควร .. แต่ที่ดูจะเข้าทาง “รัฐบาลลายพราง”คงเป็นหัวข้อสำรวจเรื่องพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ที่เสียงเกินครึ่ง ยังเทไปให้ “พรรคการเมืองพรรคใหม่ๆ” .. ที่ดูจะเข้าสถานการณ์ในเวลานี้ที่ “กลุ่มสามมิตร ณ พลังประชารัฐ” กำลังเดินหน้าไล่ล่า “นักเลือกตั้ง”เข้าคอกอย่างเมามัน .. นับถึงเวลานี้ ทีมงาน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ - สมศักดิ์ เทพสุทิน ไล่ดูด-ไล่จีบ ระดับ“อดีตผู้แทน” มาเข้าคอกได้แล้วไม่ต่ำกว่าร้อยชีวิต .. แม้ว่าจะไม่เป็นบัญญัติไตรยางค์ การันตีที่นั่ง ส.ส. ดูดร้อย ได้ร้อย แต่อย่างใด แต่ใน “ทางอ้อม” ก็ทำให้เสถียรภาพของ “เพื่อไทย”สั่นคลอนไม่น้อย .. หาใช่เรื่องอดีตผู้แทนแปรพักตร์ แต่เป็นเรื่อง “ระหว่างบรรทัด” ที่ส่งผลมากกว่า จาก “ความในใจ” ของเหล่า “อดีตสมุนแม้ว” .. ที่ต่างก็พูดไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่ได้รับการดูแลจาก “บ้านนายใหญ่” มาตลอด 4 ปีในยุค คสช. ก็เลยต้องไปแสวง หา “อนาคตที่ดีกว่า” ..
ที่ทำเอา “พรรคทักษิณ” เต้นกันเป็นเจ้าเข้า ก็การขยายท่อมาดูด “แกนนำเสื้อแดง”ที่ส่ง “สัญญาณ”ในทางการเมืองอย่างรุนแรง .. โดยเฉพาะ รายของ “แรมโบ้อีสาน”สุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย อดีตแกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ .. ที่เป็น “หมากชั้นดี” มาตั้งแต่สมัยยึดอำนาจใหม่ๆ ที่ “ขุนพลลายพราง”ใช้ “สุภรณ์”ในการสร้างภาพ สลายขั้ว สาบานดิบดีว่าจะไม่ยุ่งการเมืองตลอดชีวิต .. มาวันนี้ถูกหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นใช้อีกครั้ง ถึงขนาดไปถอนคำสาบานกับ “คุณย่าโม” ขอหวนคืนสังเวียนการเมือง แจ้งย้ายสำมะโนครัวเข้า “กลุ่มสามมิตร” ที่ประกาศเป็น “นั่ง ร้านทหาร” .. เห็นได้ชัดว่า คงไม่ใช่คะแนนเสียง หรือเก้าอี้ ส.ส.ที่ “สามมิตร”หวังจาก “แรมโบ้อีสาน” แต่หวังใช้เป็น “หอก” ขยายแผลความไม่จริงใจของ “บ้านนายใหญ่”มากกว่า .. กับการพรั่งพรู “ปมในใจ” ที่จำต้องตีจาก แยกทาง “เพื่อไทย - เสื้อแดง” มาเป็น “นั่งร้านทหาร” ..ก็ด้วยความที่ “โดนหนัก” มาตลอด หลังรัฐประหาร 22 พ.ค.57 แต่ก็ไร้การเหลียวแลจากผู้ใหญ่ทั้ง “เพื่อไทย - เสื้อแดง” แม้กระทั่งไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ ก็ไม่มี .. แถมด้วยการหยอดว่า ตัดสินใจเข้าร่วม “กลุ่มสามมิตร” เพราะมีแนวทางการสร้างความปรองดอง สลายสีเสื้อ คีย์เวิร์ดสำคัญของ “รัฐบาล คสช.”อีกด้วย
**สองประสานรุมขย้ำ!! เปิดเหตุ “กระทรวงทรัพย์-กรมอุทยานฯ”เจอยัดข้อหา “เกียร์ว่าง” ภารกิจช่วย 13 หมูป่า อิทธิฤทธิ์ “มาดาม อ. นามสกุลดัง” อดีตทีมหน้าห้องเจ้ากระทรวง แค้นฝังหุ่น “บิ๊กเต่า”ที่ตะเพิดออกจากตำแหน่ง หาทางเสี้ยมให้ “เพื่อนผิดใจเพื่อน” อีกราย “อดีตผู้แทนเมืองลุง”คนเก่าแก่ป่าไม้ ที่หลังๆ “เด็กฝาก”คุณภาพไม่ผ่าน ก็เลยฟาดงวงฟาดงา หวังโค่น “บิ๊กเต่า-อธิบดีธัญญา”ให้ได้
พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก .. เห็นทีต้องไปสะเดาะเคราะห์ซักหน่อยแล้ว รายของ “บิ๊กเต่า” พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ กับ ธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ช่วงนี้สะบักสะบอมไม่น้อย .. ตั้งแต่เจอ “โจทก์เก่า”อาศัยช่วงชุลมุน ปฏิบัติการที่ถ้ำหลวง สุมหัวกับ “แก๊งห้องแอร์” อาศัยคอนเนกชั่น “สื่อใหญ่” ยัดข้อหา “เกียร์ว่าง” .. เหมารวมว่า “ทั้งกรม”ในฐานะ “เจ้าของพื้นที่”ไม่ยอมไปลงช่วย เทียบกับ “คนเก็บรังนกจากภาคใต้”ไปนู่น ทั้งที่หากติดตามกันจริงๆ “ทีมกรมอุทยานฯ”ก็ระดมเจ้าหน้าที่หลายร้อยชีวิต เดินประกบ “ทีมเก็บรังนก” อยู่บนยอดเขา ไม่ได้ลงมาออกสื่อนั่นแหละ .. งานนี้แทบไม่ต้องจับมือใครดมให้เสียเวลา ฝีมือ “มาดาม อ.” โจทก์เก่าเจ้าเดิม ที่ “แค้นฝังหุ่น” จ้องเอาคืน “บิ๊กเต่า” มาตลอด .. หลังจากที่ “บิ๊กเต่า” อัปเปหิออกจาตำแหน่งใหญ่ในกระทรวงทรัพยากรฯ ไปเมื่อปีกลาย จนเดือดปุดๆ มาถึงปัจจุบัน .. พอมีจังหวะก็เลยหวด “อธิบดีธัญญา” ที่อยู่นานกว่าชาวบ้าน แถมถูกมองว่าเป็น “น้องเลิฟ” ของเจ้ากระทรวง ก็เลยหวังกระทบชิ่ง เขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีเลยทีเดียว ..
เป็น “มาดาม อ. นามสกุลดัง”ที่ครั้งหนึ่ง “ผู้หลักผู้ใหญ่”สนับสนุนให้เข้ามาทำงานหลังเกษียณ แต่เกิด "ผิดใจ" กับ “เจ้ากระทรวง” มีอันต้องตกเก้าอี้ ผันตัวมาสวมวิญญาณ “งูพิษ” เป่าหูไปถึง “ตึกไทยฯ” หวังให้ “เพื่อนผิดใจเพื่อน” ..ด้วยหวาดระแวงว่าจะโดน “บิ๊กเต่า” เช็กบิลย้อนหลัง ก็เลยใช้พื้นเพสาย “สื่อมวลชนเก่า” คอยเสี้ยม คอยแซะ หวังให้เปลี่ยนตัว รมว.ทรัพยากรฯ อยู่เรื่อย .. แล้วยังมาเจอศึกอีกด้าน “อดีตผู้แทนเมืองลุง” คนเก่าแก่แวดวงป่าไม้ ตีรวน ฟาดงวงฟาดงาใส่กรมอุทยานฯ ไม่หยุดหย่อน .. ด้วยเหตุที่เดิม “อดีตผู้แทนเมืองลุง”เคยฝากฝัง “คนคุ้นเคย” ขึ้นตำแหน่งในกรมอุทยานแห่งชาติฯ ประปราย คนไหนพอไปวัดไปวา “ผู้ใหญ่” ก็รับมาดูให้ ไม่เป็นปัญหา .. แต่หลังๆ ชักเยอะ ทั้งเรื่องปริมาณ ที่เหมือนได้ทีก็ขอไม่เลิก แต่ “คุณภาพ”นี่ชักไม่ไหว ออกไปทาง “สีดำ” ไม่น่าวางใจกับตำแหน่งที่ส่วนใหญ่ผลประโยชน์สูงปรึ๊ด .. พอ “เด็กฝาก” ไม่ถึงฝั่งฝัน ก็เลยพาลเอาทั้ง “บิ๊กเต่า” พ่วง “อธิบดีธัญญา” ไปด้วย .. กลายเป็น 2 ประสาน ที่ “แยกกันเดิน”หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสี ไล่ฟัด “กระทรวงทรัพย์”ไม่เลิก ด้วยมีจุดหมายเดียวกัน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง “เปลี่ยนขั้ว” แบบไม่รามือ
ช.ชฎา