“ประวิตร” ชี้อดีต ส.ส.ย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติในช่วงฤดูการเมือง ป้อง “กลุ่มสามมิตร” เดินสาย อ้างยังไม่ใช่พรรคการเมือง ยันไม่ล้มเวทีพบผู้นำท้องถิ่นอีสานช่วงสัญจรบอกใครอยากพบนายกฯ ก็มาได้
วันนี้ (19 ก.ค.) ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการดูดอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เข้าสู่พรรคพลังประชารัฐว่า “ดูดอะไร ใครดูด ผมไม่รู้ ใครเป็นคนคิดเรื่องดูด แล้วใครทาบทาม พรรคพลังประชารัฐมีอยู่ที่ไหน เป็นของใคร เราไม่รู้เลย” ก็ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เขาว่ากันไป ส่วนการย้ายพรรคก็เป็นเรื่องธรรมชาติของอดีต ส.ส. เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงของการเมือง ทุกครั้งก็เป็นอย่างนี้
เมื่อถามว่าทุกครั้งที่ลงพื้นที่เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลมีความได้เปรียบทางการเมือง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ลงพื้นที่มาตลอด 2-3 ปี พอมาลงพื้นที่ตอนนี้ไม่ได้แล้วหรือ ไปก็ไม่ได้ไปพบอดีต ส.ส. ไม่ได้ให้นายกรัฐมนตรีไปหาอดีต ส.ส. แต่นายกฯ ไปพบประชาชน ติดตามงานที่สั่งการไว้ บางครั้งจังหวัดไหนที่ลงพื้นที่แล้วก็ลงพื้นที่ซ้ำอีก ในส่วนของตนก็ลงพื้นที่ไปดูงานที่รับผิดชอบ เช่น ไปดูการทำงานของตำรวจในโรงพัก รวมถึงไปดูทหารและกระทรวงมหาดไทย ตนไปดูทุกครั้ง เขาไม่สนใจเอง
เมื่อถามว่า จ.อุบลราชธานีเคยเป็นพื้นที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง และมีความขัดแย้งทางการเมืองสูง ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่เป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรียบร้อยดี ทุกพื้นที่ก็ไม่มีปัญหาอะไร มีแต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ยืนยันว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่มีการรวมกลุ่มและเดินขบวนชุมนุม จึงยังไม่มีอะไรเป็นข้อวิตกกังวล เพราะเขาเชื่อฟังและเชื่อมั่นว่าคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เรายังไม่ปลดล็อก เขาก็ดำเนินการไปตามขั้นตอนที่หากจะทำกิจกรรมอะไรก็ต้องขออนุญาตจาก คสช. ซึ่งทาง คสช.ก็อนุญาต เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สามารถลงพื้นที่ได้ในทุกพื้นที่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไปได้ทุกภาค ก็เป็นคนไทย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
เมื่อถามอีกว่า กำหนดการลงพื้นที่ ครม.สัญจรครั้งนี้ มีการยกเลิกกำหนดการพบผู้นำท้องถิ่น ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการพบผู้นำท้องถิ่นมาตลอดทุกจังหวัด ถือเป็นการหลบกระแสวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่ได้หลบ เขามาพบก็พบ ไม่มาพบก็ไม่พบ ทุกครั้งเขาขอพบ เราก็พบ เขาไม่ขอพบก็ไม่พบ เพราะไม่ได้มีอยู่ในกำหนดการในการไปพบ และทุกครั้งที่ไปพบก็เพราะเขาขอพบ ส่วนครั้งนี้ผมไม่รู้ เท่าที่ดูก็ไม่มี”
เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร หารือเครือข่ายชาวนา หวังคิดนโยบายช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ เคลื่อนไหวไปทำไม เรื่องที่เขาสัญญาก็ต้องไปถามเขา มาถามตน ตนจะรู้ไหม ส่วนการเคลื่อนไหวจะถือว่าผิดคำสั่ง คสช.หรือไม่นั้น เขาคุยกัน เป็นเรื่องของการพูดคุย ยังไม่ได้ทำอะไร และยังไม่เป็นพรรคการเมือง
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในต่างประเทศจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยของไทยหรือไม่ว่า ต้องให้ประชาชนได้ดูว่าเรื่องอดีตนายกฯ ที่ไปอยู่ต่างประเทศนี้จะมีผลไปสู่เรื่องประชาธิปไตยหรือเปล่า ประชาชนจะเป็นคนดู เพราะว่าเขาหนีไป เมื่อถามว่าคิดว่าการเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯ มีพลังกับการเมืองบ้านเราให้กลับไปเป็นแบบเดิมหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่คิด ผมเฉยๆ ก็แล้วแต่ถ้าคุณจะคิดก็คิด ผมไม่รู้ว่าเขาจะไปทำอะไร”
เมื่อถามอีกว่า ฝ่ายความมั่นคงได้กำชับติดตามตัวหรือไม่ รองนายกฯ ระบุว่า ทางตำรวจและอัยการเขาทำอยู่แล้ว
