หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเรื่องพลังดูด ชี้ชาวบ้านเบื่อการเมืองเรื่องผลประโยชน์ แนะ ครม.สัญจร ควรดูความจำเป็น ติงจัดงบฯ ไม่ควรขึ้นอยู่กับสัญจรที่ไหน
วันนี้ (19 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพลังดูดในช่วงนี้ ว่าตนไม่มีอะไรที่จะต้องแสดงความเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้ เพราะพูดชัดเจนไปแล้วว่าการเอาผลประโยชน์หรืออะไรมาใช้แลกเปลี่ยนกันทางการเมืองเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ดี มีแต่จะทำให้การเมืองแย่ลง แต่ไม่ประสงค์จะไปต่อปากต่อคำกับใครในเรื่องนี้ และประชาชนก็คงจะเบื่อหน่าย ถ้าคิดว่าการเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ของนักการเมือง ใครจะอยู่ที่ไหนแล้วได้ดี ได้ตำแหน่ง เขาก็อยากจะเห็นการเมืองเป็นเรื่องเขามากกว่า ทั้งเศรษฐกิจ การศึกษา และเรื่องอื่นๆ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย
ส่วนการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ ที่จะมีการลงพื้นที่ไปพบเจอประชาชนด้วยนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จริงๆ รูปแบบของ ครม.สัญจร มีแนวความคิดที่แตกต่างกันไป ตนคิดว่าการที่ผู้บริหารลงพื้นที่เพื่อมีโอกาสได้รับฟังประชาชน ได้สัมผัสกับข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อมาปรับปรุงการบริหารก็เป็นเรื่องที่ดี แต่รูปแบบของ ครม.สัญจร สมัยตนเป็นรัฐบาลมีทำครั้งเดียวคือเรื่องของ 3 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น เพราะประเด็นที่ลงไปในแต่ละพื้นที่คงไม่ใช่จะอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐมนตรีทุกกระทรวง และสมัยนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ มีการประเมินกันว่าค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการไป ครม.สัญจร กับสิ่งที่ได้กลับมาจริงๆ คุ้มค่ากันหรือไม่ แล้วกลายเป็นไปสร้างประเพณีอีกแบบหนึ่งด้วยว่า ครม.สัญจรไปที่ไหน อาจจะเป็นลักษณะของสังคมไทยว่าต้องมีอะไรติดไม้ติดมือเช่นอนุมัติงบประมาณหรือให้อะไรต่างๆ
“ถ้าพูดถึงการบริหารจัดการที่ดีแล้ว ระบบงบประมาณไม่ควรจะมาขึ้นอยู่กับว่า ครม.ไปที่ไหน ถึงไปจัดสรรงบประมาณให้ เพราะฉะนั้น การจัดลำดับความสำคัญ หรือการดูงบประมาณให้เป็นระบบ ถ้าไปถูกแรงกดดันตรงนี้ก็กระทบ เพราะพอไปจังหวัดไหนแน่นอนว่าต้องมีคนมาเสนอโครงการต่างๆ แล้วถามว่าจังหวัดที่ไม่ได้ไปงบประมาณก็ต้องมาดึงจากกองเดียวกัน ฉะนั้นต้องระมัดระวังตรงนี้ แต่ในแง่ประโยชน์จริงๆ ถ้าสามารถไปหาข้อเท็จจริงในพื้นที่ซึ่งไม่สามารถจะหาได้ แล้วทำให้มีปรับปรุงการแก้ไขปัญหาดีขึ้น เช่นไปดูปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แล้วเห็นได้ชัดว่าการพัฒนาเมืองตรงนั้นก่อให้เกิดมลพิษ ก่อให้เกิดปัญหาการจัดการในเรื่องของเสีย มีความขัดแย้งในชุมชนแล้วจะไปแก้ปัญหา ก็เป็นเหตุผลที่จะไป แต่ถามว่าวาระที่จะประชุม ครม. หรือเวลา ครม.สัญจรไม่ได้เกี่ยวกับพื้นที่อีกตั้งมากมาย การต้องประชุมที่ไหนมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องยกกันไปทั้งหมดเพื่อไปคุยกันเรื่องนั้นตรงนั้น” นายอภิสิทธิ์กล่าว
