xs
xsm
sm
md
lg

แห่ร้อง “เงินติดล้อ” โขกดอกเบี้ยเกินกำหนด เหยื่อกว่าแสนราย เสียหายนับหมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลูกหนี้แห่ร้อง ตร.ฟัน “เงินติดล้อ” โขกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด คาดมีเหยื่อกว่าแสนคน เสียหายนับหมื่นล้านบาท ชี้ไม่เข้าข่ายสินเชื่อบุคคลตามประกาศ ธปท. แต่ต้องอยู่ใต้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ และ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกำหนด

นายศุภวุฒิ อยู่วัฒนา ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ลูกหนี้ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกหนี้สินเชื่อจำนวนมาก ได้ทยอยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายท้องที่ เพื่อให้ดำเนินคดีต่อบริษัท เงินติดล้อ จำกัด ในข้อหาคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้มีบันทึกข้อความไปยังผู้กำกับ สภ.บางกรวย เพื่อแจ้งความคืบหน้ากรณี สภ.บางกรวย ได้ทำหนังสือลงวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ส่งหมายเรียกผู้ต้องหาไปยังกรรมการ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด และพนักงานสาขารวม 7 ราย ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารอารีย์ ฮิลล์ เขตสอบสวนของ สน.บางซื่อ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดส่งหมายเรียกดังกล่าวไปยังบริษัทเรียบร้อยแล้ว โดยมีฝ่ายกฎหมายของบริษัทเป็นผู้รับหมายเรียกไว้แทน โดยกำหนดให้ผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวยในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ ในบันทึกแจ้งความเอาผิดกับบริษัทดังกล่าวระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เงินติดล้อ ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ที่จะสามารถคิดดอกเบี้ยได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับอันเป็นสินเชื่อที่ไม่มีทรัพย์เป็นหลักประกัน ซึ่งสามารถจะเรียกดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมใดๆ รวมกันไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี และแม้บริษัทจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (นาโนไฟแนนซ์) โดยสามารถปล่อยกู้ให้ลูกหนี้รายย่อยได้ไม่เกินรายละ 100,000 บาท และสามารถเรียกดอกเบี้ยค่าบริการต่างๆ รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี แต่สินเชื่อดังกล่าวไม่รวมถึงสินเชื่อที่เกิดจากการให้สินเชื่อจำนำรถจักรยานยนต์

ดังนั้น การที่บริษัทฯ ดำเนินการปล่อยเงินกู้ยืมเงินให้แก่ลูกหนี้โดยเรียกทรัพย์ค้ำประกันด้วย จึงไม่เข้าเกณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ต้องอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) ประกอบพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ที่ห้ามมิให้เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดคือร้อยละ 15 ต่อปี โดยผู้กระทำผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“จากงบการเงิน ที่บริษัทเงินติดล้อ แจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ปี พ.ศ. 2560 คาดว่าจะมีจำนวนผู้เสียหายหลายแสนคน และมีมูลค่าความเสียหากกว่าหมื่นล้านบาท หากการสอบสวนพบว่าบริษัท เงินติดล้อผิดจริง ทั้งนี้ คาดว่ามีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งที่รู้ตัวและยังไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเหยื่อ หากผู้เสียหายรายใดต้องการความช่วยเหลือหรือขอคำปรึกษา สามารถติดต่อมายังเพจเฟซบุ๊ก “กลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ลูกหนี้” หรือ Line : @cfpth หรือ โทร 0-2726-2255” นายศุภวุฒิกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น