อัดเพิ่มงบกลางปี 61 ก้อนสอง 343 ล้าน ปรับปรุง “หอประชุมกองทัพเรือ” รับงานใหญ่ตามนโยบายรัฐบาล หลังไฟเขียวก้อนแรกไปแล้วกว่า 140 ล้าน เน้นงานปรับปรุงหอประชุม “อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์-อาคารราชนาวิกสภา” ก่อสร้างอาคารจอดรถใหม่ ปรับปรุงอาคารจอดรถเดิน สาธารณูปโภคภายนอกใหม่ ปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับการก่อสร้างอาคารจอดรถหลังใหม่ “ย้ายกองพัน สห.ทร. ที่ 1” คาดใช้รองรับ “เอเปก 2565 หรือ APEC 2022” ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ
วันนี้ (13 ก.ค.) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ทีประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 ก.ค. เห็นชอบตามที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอให้มีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือตามนโยบายรัฐบาล เพิ่มเติม จำนวน 343,288,000 บาท โดยเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งถือเป็นแผนปรับปรุง หอประชุมกองทัพฺเรือ ตามนโยบายรัฐบาล ระยะแรก (ส่วนที่เหลือ) ตามแผนปฏิบติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2561
ทั้งนี้ ประกอบด้วย 1. งานปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ (อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์) วงเงิน 296,488,000 บาท 2. งานปรับปรุงอาคารราชนาวิกสภา วงเงิน 16,600,000 บาท และ 3. งานเพิ่มเติมอาคารจอดรถ วงเงิน 30,100,000 บาท
ในคราวประชุม ครม. (15 ต.ค. 59) นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้กระทรวงกลาโหม ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมระดับนานาชาติ ต่อมากองทัพเรือ ได้นำเสนอแนวทางในการปรับปรุงหอประชุม ซึ่งนายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้เป็นที่ประชุมจัดงานระดับชาติ
ขณะที่ คณะทำงานพิจารณาปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ ได้ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดทำรายละเอียดประมาณการการปรับปรุงในระยะแรก ซึ่งเป็นการปรับปรุงโดยไม่ได้เพิ่มขีดความสามารถหลักของหอประชุมกองทัพเรือ ในวงเงิน 474,759,400 บาท ใน 6 รายการ ประกอบด้วย 1. งานปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ วงเงิน 266,814,400 บาท 2. งานก่อสร้างอาคารจอดรถใหม่และปรับปรุงอาคารจอดรถเดิน วงเงิน 43,994,000 บาท 3. งานปรับปรุงอาคารราชนาวิกสภา วงเงิน 44,160,000 บาท 4. งานสาธารณูปโภคภายนอกใหม่ วงเงิน 12,400,000 บาท 5. งานปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับการก่อสร้างอาคารจอดรถหลังใหม่ (การย้ายกองพันสารวัตรทหารเรือ ที่ 1) วงเงิน 25,000,000 บาท และ 6. การจ้างออกแบบโครงการปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ วงเงิน 21,300,000 บาท
ต่อมา ปีงบประมาณ 2560 ครม. (16 พ.ค.60) อนุมัติงบประมาณ 3 รายการ ในงานก่อสร้างอาคารจอดรถใหม่และปรับปรุงอาคารจอดรถเดิม งานสาธารณูปโภคภายนอกใหม่ และ การจัางออกแบบโครงการปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ วงเงินรวม 77,694,000 บาท และสำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อๆ ไป ให้กระทรวงกลาโหม ดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณทั้งหมด
นอกจากนี้ สำนักงบประมาณ ได้อนุมัติให้กองทัพเรือเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 140,263,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายการ งานก่อสร้างอาคารจอดรถใหม่ และปรับปรุงอาคารจอดรถเดิม วงเงิน 93,963,000 บาท งานปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับการก่อสร้างอาคาร จอดรถหลังใหม่ (การย้ายกองพันสารวัตรทหารเรือ ที่ 1) วงเงิน 24,000,000 บาท และการจ้างออกแบบโครงการปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ วงเงิน 21,300,000 บาท
แหล่งข่าวระบุว่า กองทัพเรือ ได้ว่าจ้างบริษัท ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ออกแบบงาน โครงการปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ ในวงเงิน 21,300,000 บาท ซึ่งการออกแบบจะครอบคลุมงาน ปรับปรุงระยะแรก เพื่อให้สามารถรองรับการจัดงานเลี้ยงรับรองระดับชาติ และงานปรับปรุงในระยะยาว ที่มีแผนขยายขีดความสามารถให้รองรับการจัดงานเลี้ยงรับรองระดับนานาชาติ
“ล่าสุด บริษัท ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ส่งมอบงานออกแบบ และประมาณการงานปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ ระยะแรก (ส่วนที่เหลือ ) จำนวน 3 รายการ ดังกล่าววงเงิน 343,288,000 บาท เพื่อดำเนินการ โดย ครม.เห็นชอบแล้ว”
มีรายงานด้วยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีข้อสั่งการไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.กห.) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ที่จะใข้สำหรับการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก (APEC Economic Leaders Meeting) ในปี 2565 (APEC 2022) ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ โดยให้คำนึงถึงการออกแบบ และการกำหนดขนาดของห้องประชุม รวมทั้งอาคารประกอบที่ใช้ประโยขน์ได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และแสดงถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของไทยด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นเจ้าภาพหลัก ให้จัดหาสถานที่เพื่อเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย
ทั้งนี้ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ในปี 2565 หรือ APEC 2022 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ จะนับเป็นครั้งที่ 31 หลังจากประเทศไทยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว เมื่อปี 2546 หรือ ค.ศ. 2003 โดยสถานที่จัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ อย่างไม่เป็นทางการของผู้นำเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 11 ครั้งนั้น จัดขึ้น ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม และมีการจัดงานกาล่าดินเนอร์เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำเอเปกและคู่สมรส 21 เขตเศรษฐกิจ ณ อาคารราชนาวิกสภา หอประชุมกองทัพเรือ
โดยรัฐบาลสมัยนั้น ใช้งบประมาณจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก เมื่อปี 2546 หรือ ค.ศ. 2003 โดย มีมติ ครม. (23 เม.ย. 2545) มีมติอนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารกองทัพเรือ เพื่อสนับสนุนการจัดประชุมเอเปก 2003 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ได้ในวงเงินไม่เกิน 499,500,000 บาท โดยให้ดำเนินการในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545-2546 ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ให้ใช้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 179,450,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายที่เหลือให้ผูกพันงบประมาณปี พ.ศ. 2546 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค 2003 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยการใช้งบประมาณที่แท้จริง โดยมีการประเมินว่า ปี 2546 ในจัดประชุมเอเปก ไทยใช้เงินไปทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท โดยงบประมาณกว่า 2,083.71 ล้านบาท ส่วนค่าปรับปรุงตกแต่งสถานที่ต่างๆ เช่น งบที่จัดให้กองทัพเรือกว่า 500 ล้านบาท