“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบต้อนรับ เลขาธิการอาเซียน พร้อมร่วมผลักดันวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เห็นพ้องสร้างพันธมิตรที่ครอบคลุมในทุกระดับ ย้ำร่วมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างอำนาจต่อรองเรื่องต่างๆ
วันนี้ (18 มิ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดาโต๊ะ ปาดูกา ลิม จ็อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุม ACMECS ครั้งที่ 8 สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบเลขาธิการอาเซียนอีกครั้งหลังการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 8 และขอแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการต่อการเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนคนที่ 14 ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่ไทยและสำนักเลขาธิการอาเซียนจะเสริมสร้างความร่วมมือให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ไทยเตรียมการเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 ไทยพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานร่วมกับสำนักเลขาธิการอาเซียนในการผลักดันวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งสนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรในสำนักเลขาธิการอาเซียน เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนอาเซียนให้พัฒนาและแข็งแกร่งต่อไป
เลขาธิการอาเซียนกล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ได้เชิญให้เข้ามาร่วมการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 8 พร้อมแสดงความยินดีและชื่นชมไทยที่ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมครั้งนี้ โดยเลขาธิการอาเซียนจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม-วัฒนธรรม รวมทั้งแสดงความพร้อมในการร่วมมือกับรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศในการเตรียมความพร้อมของไทยในการเป็นประธานอาเซียนปี 2562 โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวสนับสนุนบทบาทในการเป็นผู้ประสานงานของเลขาธิการอาเซียน และยังสนับสนุนให้สำนักเลขาธิการอาเซียนประสานงานกับคณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียนและองค์กรในอาเซียนเกี่ยวกับประเด็นคาบเกี่ยวมากขึ้น เพื่อให้ทุกฝ่ายของอาเซียนเห็นภาพรวมการดำเนินการของอาเซียนทั้งหมด
ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงการผลักดันให้ประเทศสมาชิกอาเซียนก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต โดยมีความสมดุลในทั้ง 3 เสาความร่วมมือ ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องเรื่องการเสริมสร้างความร่วมมือและสร้างพันธมิตรที่ครอบคลุมในทุกระดับ ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชนในภูมิภาค รวมทั้งส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคกับโลก เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความสำคัญของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ต้องรวมมือกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้สามารถสร้างอำนาจต่อรองในเรื่องต่างๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสินค้าทางการเกษตร ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งเลขาธิการอาเซียนเห็นด้วยเพราะสินค้าทางการเกษตรเป็นเอกลักษณ์และข้อได้เปรียบของอาเซียนทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยอาเซียนสามารถเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโลกได้