มท.1 เผย “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงรับสั่งนำแผนช่วยเหลือถ้ำหลวงมาเป็นโมเดลกู้ภัยในอนาคต พร้อมฝึกเจ้าหน้าที่ดำน้ำในถ้ำเพิ่มเติมโดยมีทัพเรือเป็นแม่งาน ส่วนหมูป่าที่เหลือออกมาพร้อมกันหมดทั้ง 5 คนหรือไม่ ขึ้นกับ จนท.ในพื้นที่ ยันใช้ทีมดำน้ำกู้ภัยชุดเดิม
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือ 13 เยาวชนที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในวันนี้ว่าเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา เมื่อคืนวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมาหลังปฏิบัติงานเสร็จจะมีการประชุมทั้งทีมงานปฏิบัติการในถ้ำ ทีมซีล และทีมของต่างประเทศว่าต้องมีการปรับอะไรหรือไม่ และเตรียมแผนที่จะดำเนินงานในวันต่อไป เชื่อว่าขณะนี้แผนสุดท้ายกำลังประชุมกันอยู่และวันนี้จะมีแผนนำโค้ชและเด็กออกมาโดยมีทีมซีลและทีมแพทย์ปิดท้าย
ส่วนจะนำออกมาได้ 5 คนในวันนี้ (10 ก.ค.) ได้เลยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทีมปฏิบัติงานที่จะประเมินสถานการณ์ว่าสามารถนำออกมาทั้ง 5 คนได้หรือไม่ ขึ้นกับอุปกรณ์และเครื่องมืออากาศด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนและนายกฯ ได้หารือกับนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัท สเปซเอ็กซ์ ที่จะส่งอุปกรณ์แคปซูลมาช่วยทีมหมูป่า ส่วนจะใช้หรือไม่ขึ้นกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ซึ่งนายกฯ มีความสนใจและได้ชวนเขามาลงทุนในไทย
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ซีลของไทยและต่างชาติทำทุกอย่างด้วยความไม่ประมาท มีการซ้อมแผน ซักซ้อมการปฏิบัติเพราะมีความเสี่ยงสูงในทุกๆ เรื่อง ทั้งท่อและอากาศในการลงพื้นที่ แต่ละจุดที่ปฏิบัติงานของแต่ละฝ่ายจะต้องไม่บกพร่อง อีกทั้งหนทางที่จะเข้าถึงเด็กได้แน่คือการเข้าไปทางหน้าถ้ำ แต่ปัญหาของถ้ำคือน้ำและต้องทำอย่างไรให้ระดับน้ำลดลงได้ ตรงนี้ได้เบี่ยงน้ำไม่ให้เข้าไปบนเขาโดยความร่วมมือของชาวบ้าน อีกส่วนคือการสูบน้ำออกจากภูเขาให้มากที่สุด ตรงจุดนี้ทำให้นักดำน้ำเข้าไปได้โดยไม่ต้องดำน้ำถึง 6 ชั่วโมง โดยมีจุดพักซึ่งเป็นที่แห้งให้ขึ้นมาเปลี่ยนออกซิเจนได้ โดยความสำเร็จเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของทุกคน ทั้งระบบทีมแพทย์ เครื่องมือมีมาตรฐาน ตนภูมิใจแทนคนไทยทุกคน ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำนั้นได้สำรวจตั้งแต่เริ่มการทำงาน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือชาวบ้านทุกคนเสียสละ และไม่ต้องการอะไร ถ้าไม่ได้ค่าชดเชยก็ไม่ว่าอะไร เพียงขอให้ช่วยเด็กได้
เมื่อถามว่าขณะนี้ยังใช้ทีมดำน้ำชุดเดิมในการช่วยเหลือหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ใช้ชุดเดิมและจะไม่มีการเปลี่ยนทีม เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้น การช่วยเหลือครั้งนี้ต้องหาโอกาสที่ดีที่สุด โดยเด็กต้องแข็งแรง คำนึงถึงระดับน้ำ และระดับออกซิเจนในน้ำ
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ทางกระทรวงมหาดไทยจะทำเป็นแผนกู้ภัยไว้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งมาในเรื่องของการบริหารจัดการที่จะให้ทำข้อมูลและทำรายงานเก็บไว้ ตนเข้าใจว่าน่าจะเป็นโมเดลเอาไว้ไปใช้เป็นต้นแบบและต้องเตรียมแผนที่จะฝึกต่อไป คิดว่าจากนี้กองทัพเรือคงจะส่งคนไปเรียนดำน้ำในถ้ำเพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะดำได้ในทะเลและน้ำจืด ส่วนในถ้ำจะประสบการณ์น้อย ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ก็มีแผนปฏิบัติการอยู่แล้วทั้งเรื่องอัคคีภัย เรื่องสึนามิ แต่กรณีเรื่องถ้ำนั้นเพิ่งเกิดขึ้นก็ต้องฝึกไว้ซึ่งกรณีนี้ต่างชาติก็ยังไม่เคยดำเนินการ
“การจัดการศูนย์ของจังหวัดขึ้นกับระดับการเกิดเหตุ ถ้าเป็นจังหวัดเดียว ผู้ว่าฯ จะเป็นคนดูแล ถ้าเป็นอำเภอเดียว นายอำเภอก็จะดูแล แล้วแต่สเกล ต้องบูรณาการหลายหน่วยงาน ถามว่าผู้ว่าฯ คนเดียวจบหรือไม่ ยังไม่จบเพราะต้องเข้าไปเกือบทุกกระทรวง ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ” รมว.มหาดไทยกล่าว