เมืองไทย 360 องศา
แม้ว่าจะไม่ค่อยมีน้ำหนักมากนักกับคำพูดของพวกระดับ “เด็กๆ ปลายแถว” ในพรรคเพื่อไทยที่แสดงอารมณ์ไม่พอใจกับความเคลื่อนไหว “ปล่อยพลังดูด” อดีต ส.ส.ระดับ “ขาใหญ่” ออกไปจากพรรคแบบเป็นกลุ่มเป็นก้อน และ “ดูดได้เรื่อยๆ” โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญทั้งในอีสานและภาคเหนือ
อารมณ์ดังกล่าวเหมือนกับการรับลูกจาก “นายใหญ่” นายทักษิณ ชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้ เคยออกอาการ"ปรี๊ดแตก"ให้เห็นมาแล้วที่ได้เห็นพวกกลุ่ม"สามมิตร"ย้ายค่ายไปสวามิภักดิ์ฝ่ายตรงข้ามในเครือข่ายของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในนามพรรค “พลังประชารัฐ”
แน่นอนว่า สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร ย่อมต้องมีอาการ “เสียหน้า” ปะปนมาอยู่ด้วย เพราะระดับกลุ่มสามมิตร เช่น สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมศักดิ์ เทพสุทิน สุชาติ ตันเจริญ ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เป็นต้น คนพวกนี้ย่อมไม่ธรรมดา อย่างน้อยก็ย่อมเป็น “ดาวฤกษ์” แม้ว่าจะเป็นแบบ “ขนาดเล็กมาก” เมื่อเทียบกับ ทักษิณ แต่ก็ถือว่าพวกเขาก็ “พอมีแสงในตัวเอง” อยู่บ้าง ความหมายก็คือคนพวกนี้ “มีทุน” มีเครือข่ายของตัวเองซ้อนอยู่ในเครือข่ายใหญ่
ที่สำคัญก็คือบรรดา “ขาใหญ่” เหล่านี้ขยับตัวออกไปมันก็จะทำให้เกิดอาการ “กระเพื่อม” ขึ้นภายในพรรคเพิ่มมากขึ้นจากที่เป็นอยู่ที่มันสั่นไหวหนักหน่วงอยู่แล้ว เพราะหากสังเกตให้ดีจนถึงเวลานี้ยังไม่มีโดดเด่นสำหรับการ “ถูกเชิด” ให้มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ล่าสุด “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ทำท่าต้องถอนยวงออกไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ “แรงต้าน” จากภายในหนักหน่วง บรรดาพวกอดีตสส.ในภาคอีสาน หรือแม้แต่ในกลุ่ม “ฝั่งธนฯ” ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางยอมรับเป็นอันขาด
ขณะเดียวกัน หากมองในมุมของกลุ่มพวก “สามมิตร” ที่ว่านี้ เมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวนด์แต่ละคนถือว่าไม่ธรรมดา เอาเป็นว่าหากให้แซวก็ต้องแนะนำว่า “ห้ามเดินถอยหลัง” เข้าเป็นอันขาด เพราะ “เขี้ยวจะครูดพื้น” เสียหาย
ความหมายก็คือระดับ “เขี้ยว” พวกนี้หากมีการขยับตัวก็ย่อมถึงความคุ้มค่า ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของพวกเขาสำหรับคอการเมืองก็พอมองออกว่าจะต้องไหลไปทาง “พรรคพลังประชารัฐ” ที่รับรู้กันว่าเป็นเครือข่ายของรัฐบาล คสช. ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมคนพวกนี้จึงพร้อมใจกันตัดสินใจแบบนี้ เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เคยไปกับ ทักษิณ ชินวัตร ในยุคของพรรคไทยรักไทย
เมื่อพิจารณาจากตารางเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเคยกล่าวเอาไว้ระหว่างเยือนสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสเมื่อช่วงก่อนวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมาในทำนองให้เข้าใจว่า “จะเปิดตัว” ในเดือนกันยายน ซึ่งความหมายก็น่าจะประกาศยอมรับให้พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และหากคาดเดาก็ถือว่านี่คือคำตอบว่าทำไมคนพวกเขาไหลออกมาทางนี้
และยังเป็นคำตอบว่าทำไม นายทักษิณ ชินวัตร จึงหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับพวก “สามมิตร” ที่เดินสายดูด ซึ่งในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้พรรคเพื่อไทย “เลือดไหลไม่หยุด” แม้ว่าจะเป็นอาการที่เคยทำให้คนอื่นเจ็บปวด แต่คราวนี้เมื่อต้องเจอกับตัวเองบ้างยังไงก็ต้องระงับความโกรธไม่ได้หรอก เพราะหากโฟกัสเฉพาะเรื่องดูดเรื่องเดียวมันก็เหมือนกับกรรมสนองกรรมยังไงยังงั้น!!