xs
xsm
sm
md
lg

7 ชุมชน กทม.ร้องผู้ตรวจฯ จี้รัฐบังคับ กม.สร้างตึกสูงเคร่งครัด ชี้เอื้อเอกชนทำเดือดร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


7 ชุมชน กทม.ร้องผู้ตรวจฯจี้รัฐบังคับใช้ กม.เคร่งครัด ปมอนุญาตก่อสร้างตึกสูงไม่ชอบด้วย กม. ด้านตัวแทนชุมชนพญาไทร้องซ้ำ กทม.เล่นเล่ห์เอื้อเอกชนให้อำนาจ ผอ.เขตอนุมัติก่อสร้างตึกสูงไม่เกิน 8 ชั้นได้โดยไม่ต้องทำอีไอเอ ด้านผู้ตรวจฯ แนะยื่นเป็นรายกรณีและภาพรวมทั้ง กทม. ยกรัฐธรรมนูญ ม.53, 58 บีบรัฐแก้ไข

วันนี้ (19 มิ.ย.) นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค นำตัวแทน 7 ชุมชน ประกอบด้วย ชุมชนพญาไท ชุมชนมหาดเล็กหลวง 1-2 ชุมชนบ้านเจ้าพระยา ชุมชนสุขุมวิท 28-30 ชุมชนซอยร่วมฤดี ชุมชนถนนส่วนบุคคลราชเทวี ชุมชนอารียา เมโทร ลาดปลาเค้า เข้ายื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีอนุมัติอนุญาตให้มีการก่อสร้างตึกสูงทั่วกรุงเทพมหานครโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยนางนฤมลกล่าวว่า ปัจจุบันการก่อสร้างตึกสูงในกรุงเทพมหานครก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลกระทบด้านเสียง ฝุ่นละออง น้ำเสีย การจราจรแออัด เช่น ในชุมชนบ้านเจ้าพระยา ระยะร่นและระยะเว้นของทางเดินเท้าไม่เท่ากัน อาคารสูงก่อสร้างมานาน 7 ปียังไม่แล้วเสร็จ ชุมชนพญาไทซึ่งพื้นที่มีที่ตั้งของหน่วยราชการหลายแห่ง ทำให้เกิดปัญหาข้าราชการเดินทางมาทำงาน คนในพื้นที่ต้องออกไปทำงานด้านนอก การจราจรคับคั่งขับรถกินเลนกันไปมา หรือชุมชนมหาดเล็กหลวง มีการก่อสร้างตึกสูง 52 ชั้น ทั้งที่พื้นที่บริเวณดังกล่าวถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีเขียว ไม่มีการสร้างงระบบความปลอดภัยให้แก่ผู้เดินเท้า เมื่อฝนตกหนักจะเกิดปัญหาน้ำท่วมระบายไม่ทัน เป็นต้น ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

“มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวมีทั้งหมด 5 ฉบับ แต่เจ้าหน้าที่รัฐก็ละเลยไม่บังคับใช้อย่างเคร่งครัด ทำให้ปัญหาตึกสูงลุกลามไปทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร ขณะที่ผู้ประกอบการก็จะไม่การก่อสร้างอาคารสูงแค่ 8-10 ชั้นจะไม่ค่อยได้กำไร แต่ถ้ามีการสร้างสูงขึ้นไปอีก 20-30 ชั้นรายได้ที่จะเพิ่มเป็นเท่าทีวีคูณจากหลักร้อยล้านก็จะเป็นพันล้าน ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจยอมที่จะจ่ายค่าปรับ จ่ายค่าเสียหาย ยอมที่จะเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องเพราะว่าการจะรื้อถอนในภายหลังก็ทำไม่ได้ง่ายๆ โดยปัญหาที่ตามมาหลังสร้างเสร็จคือความขัดแย้งระหว่างผู้ที่มาซื้อคอนโดมิเนียมกับคนของชุมชนดั้งเดิม ซึ่งไม่ยุติธรรมที่คนสองกลุ่มต้องมารับเคราะห์จากการกระทำที่ไม่ถูกต้องของผู้ประกอบธุรกิจกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ”

ด้านนายนรฤิทธิ์ โกมารชุน ตัวแทนชุมชนพญาไท ที่ก่อนหน้านี้ได้เคยนำเรื่องปัญหาการก่อสร้างตึกสูงได้พื้นที่มาร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้ว กล่าวว่า จนถึงวันนี้ปัญหาในพื้นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในคลี่คลาย แต่กลับเกิดปัญหาใหม่ซึ่งขอให้ผู้ตรวจได้ดำเนินการตรวจสอบกรณีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการเขตสามารถอนุมัติให้มีการมีก่อสร้างอาคารที่สูงไม่เกิน 8 ชั้นได้โดยไม่ต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการเขตพญาไทได้อนุมัติให้มีการก่อสร้างอาคารโครรงการ SAVVI ARI4 ในซอยชำนาญอักษร ทั้งที่คนในชุมชนได้ยื่นหนังสือคัดค้านไปก่อนหน้านี้เนื่องจากเห็นว่าถนนซอยดังกล่าวกว้างไม่ถึง 6 เมตร และยังเป็นซอยตัน แต่ทางผู้อำนวยการเขตฯ ก็ยังอนุญาต และเมื่อมีการร้องเรียนของการก่อสร้างที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้พักอาศัยใกล้เคียง ทางโครงการก็เลือกที่จะจ่ายค่าปรับรายวันแทนการหยุดดำเนินการและแก้ไขปัญหาตามที่มีการร้อง

ขณะที่นายสงัดได้แนะนำให้ผู้ร้องทำคำร้องแยกเป็นการร้องรายกรณี และร้องภาพรวม เนื่องจากเห็นว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วกรุงเทพมหานคร ขณะที่รัฐธรรมนูญหมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มาตรา 53 และ 58 กำหนดให้รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรื่องที่จะก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตประชาชนต้องให้มีการรับฟังความคิดเห็นประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งหากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นทั่วกรุงเทพมหานคร เมื่อผู้ตรวจฯ ได้รับและพิจารณาคำร้องดังกล่าวแล้วหากมีข้อเสนอแนะไปยังรัฐก็จะมีน้ำหนักให้รัฐดำเนินการแก้ไขให้มีการบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด เพราะหากไม่ดำเนินการรัฐก็จะมีความผิดเสียเอง และผู้ร้องก็สามารถใช้รายงานดังกล่าวฟ้องร้องขอให้หน่วยงานรัฐต้องรับผิดชอบแก้ไขด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น