xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ” จ่อร้องผู้ตรวจฯ-กสม.สอบ ตร.บุกจับ “พุทธะอิสระ” ชี้ “บิ๊กตู่” ขอโทษแค่ลมปาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย (แฟ้มภาพ)
เลขาฯองค์การพิทักษ์ รธน. เตรียมร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน - กสม. พรุ่งนี้ สอบ ตร. ปมบุกจับอดีตพุทธะอิสระ ชี้ แม้นายกฯขอโทษ ก็แค่ลมปาก ไม่ทำให้เกิดบรรทัดฐานการจับกุมที่ถูกต้องตามกม. ได้ในอนาคต

วันนี้ (27 พ.ค) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ ได้การเข้าจับกุม พระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เมื่อเช้ามืดวันที่ 24 พ.ค. ตามคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยมีการทุบประตู และเข้าจับกุมขณะอยู่บนที่นอน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ไปทั่วสังคมออนไลน์อย่างล้นหลามต่อเนื่อง ซึ่งถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสม และอาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน และอาจมีความผิดในลักษณะเหยียดหยามศาสนาตามบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 และเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 27, 29 วรรค 2, 31 และมาตรา 67 ซึ่งถือได้ว่าเป็นการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาโดยชัดแจ้ง ซึ่งกรณีของพระพุทธะอิสระนั้น ในทางกฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจนว่าให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุด แสดงว่า บุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระพุทธะอิสระไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนีเลยแต่อย่างใด ยังคงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ ณ กองปราบปราบฯในหลายๆ กรณี และไปขึ้นศาลในคดีความต่างๆ เรื่อยมา เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจพึงที่จะต้องมีหมายเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำก็เพียงพอแล้ว มิใช่ใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยใช้กองกำลังคอมมานโดนับร้อย เข้าดำเนินการเข้าจับกุม ทำลายทรัพย์สิน และใช้วาจาในลักษณะเดียวกันกับบุคคลทั่วไปที่เป็นผู้ก่อการร้าย หรือผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรง

“กรณีดังกล่าวแม้นายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จะออกมากล่าวขอโทษต่อประชาชนและศิษยานุศิษย์ของพระพุทธะอิสระแล้วก็ตาม แต่คำขอโทษก็เป็นเพียงลมปากที่ใช้เป็นบรรทัดฐานในทางกฎหมายถึงการกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปในอนาคตไม่ได้” นายศรีสุวรรณ กล่าวและว่า จากเหตุดังกล่าวทางสมาคมฯจึงจำต้องใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 50(1) ไปยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อขอให้ตรวจสอบและมีข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคําสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดๆ ในการเกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนา อันก่อให้เกิดความเดือดร้อน หรือความไม่เป็นธรรมแก่พระภิกษุโดยไม่จําเป็นหรือเกินสมควรแก่เหตุ รวมทั้งตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกรณีดังกล่าว และเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย ในวันจันทร์ที่ 28 พ.ค. 2561 เวลา 10.00 น. ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินและยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในเวลา 11.00 น.


กำลังโหลดความคิดเห็น