รองหัวหน้าพรรค ปชป. ระบุ คสช. ต้องรับผิดชอบหาทางแก้ปัญหาจัดการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นไปตามโรดแมป เผย ปชป. ยินดีไปร่วมถกทุกเวที
วันนี้ (17 มิ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้งเสนอ 3 ทางออก ให้ใช้ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด และ มาตรา 44 แก้ปัญหาการจัดการเลือกตั้ง ว่า หลังจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลประชุมร่วมกับ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ แล้ว ก็คงทราบดีว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง และควรใช้วิธีการอะไรในการแก้ไขปัญหา และอุปสรรคนั้นๆ ทางรัฐบาลก็คงนำข้อเสนอต่างๆ จากที่ประชุมรายงานให้ คสช. ทราบหลังจากนี้ ก็อยู่ที่ คสช. จะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะ คสช. เป็นผู้แต่งตั้งแม่น้ำ 5 สาย ทั้ง กรธ . มา ร่างกฎหมายแต่งตั้ง สนช. มาออกกฎหมาย ขณะเดียวกัน คสช. ก็ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. หลายฉบับที่กลายเป็นเงื่อนไขให้ต้องมาหาทางออกแก้ปัญหาการจัดการเลือกตั้งกันอยู่ทุกวันนี้
“ต้องยอมรับความจริงว่า ปัญหานี้มีจุดกำเนิดมาจาก คสช. ทั้งสิ้น ถ้า คสช. ตัดสินใจแก้ปัญหาถูกวิธีก็มีโอกาสที่ทุกอย่างจะเดินหน้าไปตามโรดแมป แต่ถ้า คสช. แก้ปัญหาไม่ถูกวิธีก็มีโอกาสที่ปัญหาจะบานปลายออกไป กลายเป็นวัวพันหลัก จนยากต่อการแก้ไข และอาจสร้างปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก การหาทางออกแก้ปัญหาการจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป เพื่อให้มีการเลือกตั้งภายในเดือน ก.พ. ปีหน้า จึงเป็นความรับผิดชอบของ คสช. โดยตรง”
ส่วนการที่รัฐบาล และ คสช. จะเชิญพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมประชุมนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรขัดข้อง เราพร้อมให้ความร่วมมือ เพราะที่ผ่านมาเมื่อพรรคฯ ได้รับคำเชิญจากองค์กร หน่วยงานต่างๆ ไปประชุมปรึกษาหารือให้ความเห็นในเรื่องต่างๆ เราก็พิจารณาส่งบุคลากรของพรรคฯ ที่มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ ไปร่วมประชุมด้วยเสมอ เพราะเราเชื่อว่าการพบปะพูดคุยกันจะสามารถสร้างความเข้าใจก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าการหันหลังให้กัน แต่ทางผู้จัดการประชุม คือ รัฐบาล และ คสช. ควรแจ้งมาให้ชัดเจนด้วยว่าเนื้อหาสาระประเด็นที่จะพูดคุยประชุมกันมีอะไรบ้าง ทางพรรคประชาธิปัตย์จะได้จัดบุคลากรที่เกี่ยวข้อง กับเรื่องนั้นๆ โดยตรงไปเข้าร่วมประชุมด้วยซึ่งจะช่วยทำให้เกิดประโยชน์ต่อที่ประชุมในการหาข้อสรุปเพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดผลต่อประเทศชาติ และประชาชนต่อไป