รองหัวหน้าพรรค ปชป. แนะ กกต. ทำงานเชิงรุก ป้องกันปัญหาซื้อเสียง แทนใช้งบไล่จับคนทำผิด สะกิด “ประยุทธ์” เลิกกังวล เชื่อหลังเลือกตั้งบ้านเมืองสงบ
วันนี้ (10 มิ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมการเลือกตั้ง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ต้องใช้งบประมาณมากกว่าเดิม ว่า การที่ กกต. คาดการณ์ว่า การเลือกตั้ง ส.ส. จะใช้งบประมาณ 5,500 - 5,800 ล้านบาท เพราะกฎหมายให้อำนาจ กกต. เพิ่มขึ้นมาก ทั้งอำนาจสืบสวน ไต่สวน การจัดตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ก็เป็นสิ่งที่พอเข้าใจได้ การใช้เงินจำนวนมากที่เพิ่มขึ้น เพื่อไปไล่จับพวกซื้อเสียงทุจริตเลือกตั้ง ถึงแม้เป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีการทุจริตเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ก็เป็นการทำงานที่ไปแก้ปัญหาปลายเหตุ อยากฝากให้ กกต. แก้ปัญหาที่ต้นเหตุควบคู่ไปด้วย ช่วยกันรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชน และ นักการเมือง เห็นผลร้ายของการซื้อสิทธิขายเสียง
นายองอาจ กล่าวว่า การทำงานของ กกต. จึงไม่ควรใช้งบประมาณที่เพิ่มขึ้นไปไล่จับคนซื้อเสียงทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น แต่ควรทำงานเชิงรุก หาทางป้องกันการซื้อเสียงทุจริตเลือกตั้ง พร้อมกับการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเห็นพิษภัยของการซื้อเสียงทุจริตเลือกตั้ง ซึ่งจะช่วยทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และ เป็นการส่งเสริมพัฒนาการเมืองไทยให้มั่นคงต่อไป
ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. มีความกังวลว่า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งแล้วอาจมีความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น ว่า การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยตรงอยู่แล้ว เชื่อว่า นายกฯ เอาอยู่ เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งทุกพรรคการเมืองต่างมีภาระหน้าที่รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งมากกว่าที่จะมาสร้างความไม่สงบเรียบร้อย อีกทั้งกฎหมายพรรคการเมืองก็มีข้อห้ามมากมายไม่ให้พรรคการเมืองส่งเสริม หรือ สนับสนุนการก่อความไม่สงบเรียบร้อย ใครฝ่าฝืนก็มีโทษสูงถึงขั้นติดคุก ถูกยุบพรรคได้
แต่ถ้ามีใครก็ตามสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ก่อความไม่สงบขึ้นระหว่างเลือกตั้งรัฐบาลก็มีอำนาจ มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยระงับยับยั้งได้ นอกจากนั้น ยังมีกฎหมายอาญา กฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะ และกฎหมายอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นเครื่องมือช่วยทำให้เกิดความเรียบร้อยขึ้นได้
“ขณะนี้ประชาชนคนไทยส่วนมากต่างอยากเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นในบ้านเมือง และอยากเห็นการเมืองไทยเดินไปข้างหน้ามากกว่าความวุ่นวาย นายกรัฐมนตรีจึงไม่ควรวิตกกังวล ว่า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งแล้วอาจนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อย แต่ควรสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทย และนานาชาติมั่นใจว่ารัฐบาลมีความสามารถเพียงพอที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้” นายองอาจ กล่าว