รองหัวหน้า ปชป.เผยพรรคน้อมรับคำชี้ขาดศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ปลดล็อกช้าอาจพาพรรคทำการเมืองลวกๆ เพื่อให้ทันเวลา ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ
วันนี้ (6 มิ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ไม่เป็นการเพิ่มภาระ หรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ และไม่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมแก่บุคคลว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เราน้อมรับคำวินิจฉัย แต่ก็จะรอดูคำวินิจฉัยฉบับสมบูรณ์ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีเหตุผลรายละเอียดอย่างไร เพื่อนำมาเป็นบรรทัดฐาน แนวทางในการพิจารณาเนื้อหาสาระของกฎหมายต่อไป ขณะนี้พรรคการเมืองต่างๆ ต้องเตรียมจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบ 4 ภาค และให้มีตัวแทนพรรคการเมืองภายใน 90 วันหลังยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ถ้าดำเนินการไม่ทันตามระยะเวลาจะส่งผลให้พรรคการเมืองสิ้นสภาพ และระหว่างที่พรรคการเมืองยังปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามกฎหมายจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ เพราะฉะนั้น การปลดล็อกคำสั่งที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองล่าช้า หรือไม่อยู่ในกรอบเวลาที่เหมาะสมก็จะส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองทุกพรรค จึงขอฝากให้หัวหน้า คสช.พิจารณาเรื่องนี้ด้วย
“ถ้าปลดล็อกล่าช้ามากจนพรรคการเมืองปฏิบัติตามกฎหมายอย่างฉุกละหุก พรรคการเมืองก็อาจทำลวกๆ เพียงเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เป็นเพียงทำตามพิธีกรรม แต่ไม่ได้ทำตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่อยากเห็นการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน อยากเห็นพรรคการเมืองเป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้การเมืองไทยไม่พัฒนาเท่าที่ควร” นายองอาจกล่าว