ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ไม่รู้หรือแกล้งโง่!! แฉอีกต้นตอโครงสร้างราคาน้ำมันบิดเบือน กางหลักฐาน “โรงกลั่นน้ำมันไทย”ส่งออก “ดีเซล” ทำกำไรเป็นล่ำเป็นสัน ส่วน “เบนซิน” ดั๊มพ์ราคาต่ำกว่าขายในประเทศอื้อซ่า จับตา “โรงกลั่น” เล็งขยายกำลังผลิต หวังโกอินเตอร์โกยกำไร ผลักภาระให้คนไทยแบก ถามตรงๆ “รมว.พลังงาน” ผู้คว่ำหวอดในวงการไม่รู้หรือ
จัดอีกชุดใหญ่ .. ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง กางหลักฐานชำแหละ “โครงสร้างบิดเบือน” ราคาน้ำมันที่ขายในประเทศ ว่าภาระที่ประชาชนแบกๆ อยู่ สุดท้ายมันกลายเป็นกำไรมหาศาลของ “โรงกลั่นน้ำมันไทย” .. ยิงหมัดตรงไปที่ ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ที่จะมาบอกว่า “ไม่รู้ไม่ได้” .. ไล่เป็นฉากๆ ถึงขบวนการ “สวมตอ” นโยบายตกยุค ที่เคยจูงใจให้ลงทุนโรงกลั่นน้ำมันไทย กำหนดราคาขายให้เท่าที่ “สิงคโปร์” แถมใจดีบวก “ค่าขนส่งเทียม -ค่าใช้จ่ายเทียม” ให้ด้วย .. พอโรงกลั่นน้ำมันในไทยผุดขึ้นจนเกินพอ ก็เอา “นโยบายตกยุค” มาใช้เป็นเครื่องมือในการบิดเบือนราคาน้ำมันในประเทศต่อ จาก “ค่าใช้จ่ายเทียม” ก็เลยกลายเป็น “กำไรแท้ๆ” ของนายทุนโรงกลั่น .. ไม่เท่านั้นยังมีการกระตุ้นให้มีการขยายกำลังกลั่น จนน้ำมันเกินปริมาณใช้ในประเทศ เป็นช่องให้ส่งขายเมืองนอก .. ทำให้ไทยกลายเป็น “ประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน” ที่แม้จะไม่ถึงระดับ “มหาอำนาจ” แต่ที่ “เอ็กซปอร์ต” ไปก็ไม่ใช่ “เศษน้ำมัน” อย่างที่ภาครัฐพยายามบอก .. เพราะวันๆ นึงมากถึงราว 20% ของที่ใช้ๆ กันอยู่ในไทย เรียกว่าส่งออกกันเป็นล่ำเป็นสันเลยทีเดียว .. แล้วสงสัยจะโกยกำไรจากคนไทยจนอ้วนพีแล้ว ก็เลยยอม “ขาดทุนกำไร” ตัดราคาให้ต่ำกว่าราคาจาก “สิงคโปร์” เพื่อส่งออกไปเพื่อนบ้าน พม่า ลาว มาเลเซีย .. โดยอ้างว่าที่ส่งออกได้ถูกกกว่าในประเทศ เพราะไม่มีการคิดภาษีเหมือนราคาปลีกที่ขายในประเทศ อันนั้นก็ว่ากันไป ..
“ธีระชัย” ตั้งข้อสังเกตน่าติดตามว่า หลายโรงกลั่นประกาศแผนจะขยายกำลังกลั่นใน 2-4 ปีข้างหน้า ทั้งที่แนวโน้มการใช้ในประเทศจะเพิ่มไม่มาก .. ก็เพราะว่า ได้กำไรดีจากส่งออกทั้ง “ดีเซล” ที่ขายได้เกือบเท่าราคาขายปลีกในไทย เพราะมีความต้องการในภูมิภาคสูง .. พอตะบี้ตะบันผลิต “ดีเซล” เพื่อส่งออก ก็ทำให้ “เบนซิน” เหลือ แต่ขายไม่ค่อยออก .. ก็เลยต้องดั๊มพ์ราคา “เบนซิน” แข่งกับสิงคโปร์หนัก เรียกว่าเอากำไรที่โกยๆ จากคนไทย ไปตัดราคาส่งออก ชนิดราคาต่ำจนน่าตกใจ .. ซึ่งการส่งออกน้ำมันนั้น ไม่ได้ทำให้คนไทยได้ประโยชน์ แต่เสียประโยชน์ด้วยซ้ำ กับการที่ควักเงินจ่าย “ค่าใช้จ่ายเทียม” เพื่ออุ้มโรงกลั่นให้ส่งออกกันมากขึ้น .. ในขณะที่โรงกลั่นกอบโกยกำไร โดยไม่ต้องเสียภาษี สิ่งที่คนไทยได้รับมีเพียงมลภาวะ จากรอบๆโรงกลั่น และน้ำมันรั่วในทะเล .. เรื่องบิดเบือน-หมกเม็ดแบบนี้ “รมต.ศิริ” ผู้คว่ำหวอดในวงการน้ำมัน ผ่านมาหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะเก้าอี้ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย .. ที่ก่อนมาได้มาเป็นรัฐมนตรี ก็ใช้ตำแหน่งเดินหน้าแก้ต่างภาคประชาชนที่พยายามย้ำความไม่ชอบมาพากลของธุรกิจพลังงานมาตลอด .. อีกทั้ง “รมต.ศิริ” กระทั่ง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เคยเป็นบอร์ดในบริษัทพลังงานที่มีโรงกลั่นมาก่อน “ต้นเหตุแห่งความบิดเบือน”พวกนี้ก็น่าจะรู้ๆ กันดีอยู่.
**กระแสดีเกินคาด!! “ทุกฝ่าย-ทุกสื่อ”รุมสหบาทา “เทพเทือก” ขนาด “ค่ายเนชั่น” ที่รวบรวม “ติ่งลุงกำนัน”ยังร่วมวงโซ้ย ชำแหละวีรกรรมละเอียดยิบ คงจับได้ไล่ทันว่า หลอกเอา “พลังมวลมหาประชาชน”ไปประเคน “รัฐบาลนายพล” โดยไม่ทวงถาม “วาระปฏิรูป”อะไรเลย จนทำ “คนที่ร่วมสู้กันมา” เมินหน้าหนีหมด ที่อยู่รอบๆ ตัว นี่ต้องบอกว่าเป็น “แก่นในสุด”ไม่ใช่พันธมิตรฯ ไม่ใช่สลิ่ม แต่เป็นติ่งล้วนๆ
สหบาทากันเลยทีเดียว .. การเปิดตัวของ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กับบทบาทใหม่ ผู้ร่วมก่อตั้ง “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” .. เอาแค่ฉากเค้นน้ำตาอาบนองหน้า ก็เจอล้อกันยันหลานบวชแล้ว .. ยิ่งเจาะเหตุผลความจำเป็นต้อง “ตระบัดสัตย์” หวนคืนการเมืองทั้งที่ออกปากหลายหน ก็ยิ่ง “ไม่มีใครซื้อ” จนดูเหมือน “ทุกฝ่าย-ทุกสื่อ” จะสามัคคีกัน “เฉพาะกิจ” ไล่โซ้ยไม่เลิก .. กับข้ออ้างที่ว่า ขอมาเป็น “ขี้ข้าประชาชน” ด้วยว่า “ภารกิจยังไม่จบ” ทั้งที่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยออกมาหืออือ อะไรกับ “วาระปฏิรูป” ที่ไม่เคยคืบหน้าในยุค คสช.เลย .. ที่น่าแปลกใจ ก็กระทั่ง “ค่ายเนชั่น” ที่ว่ากันว่าเป็น “ฐานทัพติ่งกำนัน” รวบรวมเซเลป กปปส.ไว้หลายหน่อ ก็ยังต้องตามกระแสสังคม รุมยำด้วยอีกแรง .. กับบทความในท้องเรื่อง "สุเทพ" ตระบัดสัตย์ ละครการเมืองอีกฉาก” ที่หาอ่านได้ในเว็บไซต์ “คมชัดลึก” ..
น่าจะเป็นบทความ “แรงที่สุด” ที่ชำแหละลากไส้ “สุเทพ” ได้อย่างรู้เช่นเห็นชาติ ถูกใจสายฮาร์ดคอร์เป็นอย่างยิ่ง .. ย้อนอดีตเส้นทางเติบโตของ “เทพเทือก”ตั้งแต่เข้าการเมือง จนสร้างตราบาป “ส.ป.ก.4-01” ทำเอา “รัฐบาลชวน” มีอันเป็นไป .. ตลอดจนวีรกรรม “ริยำตำบอน” ในสมัยเป็นนักการเมืองขาใหญ่อีกเพียบ .. ปิดท้ายด้วยคำเย้ยหยันว่า ดราม่า “หลั่งน้ำตา” อ้างขอเป็นขี้ข้าประชาชน ก็แค่สร้างความชอบธรรมเพื่อกลับเข้าวงการเท่านั้น .. อ่านจนจบ ก็ต้องงง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และต้องขยี้ตาว่านี่ “สื่อบางนา” หรือ “สื่อเสื้อแดง” กันแน่ .. หรือว่า “คนที่ร่วมสู้” กันมา ก็เริ่มหันหน้าหนี ไม่ให้ราคา “ลุงกำนัน” คนเดิม .. ก็มีอย่างที่ไหน หลอกใช้ “พลังมวลมหาประชาชน” เอาไปประเคนให้ “รัฐบาลนายพล” ท่องคาถา ดีครับผม เหมาะสมครับนาย .. ไม่เคยคิดจะทวงถาม “วาระปฏิรูป” ที่ตัวเองเคย แผดเสียงกึกก้องท้องถนนบนเวที กปปส. เลย .. ก็เลยได้เห็นแค่พวกที่ยังราย ล้อมรอบตัว “เทพเทือก” คงเป็นระดับหัวปักหัวปำ ไม่ใช่พันธมิตรฯ ไม่ใช่สลิ่ม แต่เป็นติ่งล้วนๆ
** เขย่าเก้าอี้สายแข็ง!! ยื้อเก้าอี้ “ทูตดอน”สุดฤทธิ์ หวั่นกระทบ “พี่ใหญ่” ไม่ทันไร “สื่อใหญ่”เต้าข่าว “ครม.ประยุทธ์ 6” อวย “เสี่ยแป๊ะ” นั่ง รมว.ท่องเที่ยว ไร้ที่มาที่ไป แถมแซะ “บิ๊กป๊อก” หลุด “มท.1” ทั้งที่เก้าอี้มั่นคงที่สุดใน “รัฐบาล คสช.” ยังมี “อภิมหาโปรเจกต์แสนล้าน” รอให้ “ทิ้งทวน” ทั้ง “ไทยนิยมยั่งยืน-โรงไฟฟ้าทางเลือก” ระดับ “พี่รอง”แล้วคงไม่ปล่อยใครมา “ปาดหน้าเค้ก”ไปได้
กระทบไปทั่ว .. ลูกชิ่งจากปม ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ที่ถูก กกต.เสียงข้างมากชี้ว่า ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี .. จากกรณี “หลังบ้าน” ถือหุ้นเอกชนเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทำเอาลูกผี ลูกคน อาจตกเก้าอี้กลางทาง .. งานนี้คนในรัฐบาล ทั้ง “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ วิษณุ เครืองาม ก็เลยต้องออกมา “ให้ท้าย”กันเป็นแถว .. คงกลัวว่าถ้าถอดใจไป จะกลายเป็น “หลุมดำ”สะเทือนทั้งยวง เผลอๆ งานจะมาเข้า “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เสียอีก .. อิหรอบนี้คงกัดฟัน ยื้อ-กระเตง กันไปยกหยดสุดท้าย ดีไม่ดีถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนานหน่อย ก็พากันไปจนถึงเลือกตั้งโน่น .. ทำเอา “ทูตดอน” เหมือนได้ยาชูกำลัง ยิ้มแฉ่ง โชว์ความสบายใจ ตอบสื่อแบบไม่ยี่หระว่า “คำตอบอยู่ที่ใบหน้า”ส่วน “สปิริต” อะไรน่ะ ไปถามหากับ “นักกีฬา” นู่น ..
ไม่ทันไร ข่าว“ปรับ ครม.” ก็มีออกมาให้เสพกันบ้างแล้ว จาก “สื่อใหญ่ประชาชื่น” ที่ตั้งตัวเป็น “ผู้จัดการรัฐบาล” จุดพลุรื้อใหญ่ “ครม.ลุงตู่” กันแล้ว .. ขาหนึ่งก็ “อวย” ยกให้ “เสี่ยแป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษานายกฯ โควตาบ้านใหญ่ชลบุรี มีลุ้นซิวเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ ที่ “ดร.เอ” วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประจำการอยู่ .. เหตุผลไม่มีอะไรมาก แค่ “เต้า” ประมาณว่า “เสี่ยติ๊ก”อิทธิพล คุณปลื้ม น้องชายเสี่ยแป๊ะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีท่องเที่ยวอยู่ จะได้มาเป็น “บัดดี้พี่น้อง”ทำงานเข้าขากัน .. ฟังแล้วดูไม่ค่อยมีน้ำหนัก ไร้มูลโดยสิ้นเชิง ด้วยผลงานของ รมว.ท่องเที่ยวฯ คนปัจจุบันเอง ที่แตกต่างจาก “คนเก่า” หน้ามือเป็นหลังมือ .. หรือหากจะมีการขยับหมากตรงนี้ ก็อาจเป็นความต้องการของ “ผู้ใหญ่” ที่จะส่ง “ดร.เอ” ไปลุยมิชชั่นอื่น เพื่อหน้าตาของรัฐบาล หรือปูทางให้ “พรรคพลังประชารัฐ” อันนั้นไม่แน่ .. อีกขาหนึ่งก็ “แซะ” หว่านไปทั่วพวก กระทรวงโลกลืม โดยเฉพาะสายสังคม ที่ผลงานหยิบจับยาก .. แต่ที่เซอร์ไพร์ส ก็หาญกล้าไป “แซะ” เก้าอี้ที่ดูจะมั่นคงที่สุดใน “รัฐบาล คสช.”มาโดยตลอด .. ปล่อยออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ยว่าอาจะมีการปรับเปลี่ยนที่ “กระทรวงคลองหลอด”กระทรวงมหาดไทย ที่มี “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นว่าการฯ แล้วจะเอา “พลเรือน” มานั่งแทน .. ร้อนถึงเจ้าตัวต้องออกมาแก้ข่าวทันควัน ว่า ปกติก็ลงพื้นที่ ทำงานใกล้ชิดประชาชนอยู่แล้ว ประมาณว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ “พลเรือน” มาเป็นตัวเชื่อม เหมือนข่าลือ .. พร้อมตัดจบกระแสด้วยการโยนไปว่า ไม่ควรไปละลาบละล้วง เป็นอำนาจ “นายกฯน้องตู่” แต่เพียงผู้เดียว .. แต่เชื่อเถอะ ฟันธงไม่กลัวหน้าแหกเลย หากฟ้าไม่ถล่ม แผ่นดินไม่ทลาย “รัฐบาล คสช.” ปรับ ครม.อีกกี่รอบ รมว.มหาดไทย ก็ยังต้องชื่อ “อนุพงษ์ เผ่าจินดา” .. สายแข็งแบบนี้แซะออกยาก หัวเด็ดตีนขาด ก็คงไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ มท.1 ง่ายๆ ก็อุตส่าห์ก้มหน้าก้มตาทำงาน “เงียบๆ” .. ปั้นอภิมหาโปรเจกต์แสนล้าน ไว้มากมาย “โค้งสุดท้าย” ทั้งที คงอยากอยู่ทำงาน “ทิ้งทวน”มากกว่าปล่อยใครมา “ปาดหน้าเค้ก”ไป .. ทั้ง ไทยนิยมยั่งยืน เอย โรงไฟฟ้าทางเลือก เอย ประชารัฐ เอย เงินทั้งนั้น เอ้ย.... งบประมาณมากมากก่ายกองขนาดนี้ “น้องตู่”จะไว้ใจให้ใครมาดูแลได้ นอกจาก “พี่รอง”คนนี้คนเดียว.
**ทำการบ้านมาดี!! “ป๋าจำนงค์”อดีตพระพรหมเมธี ใช้สิทธิส่งคำขอลี้ภัยที่เยอรมนี ได้รับความคุ้มครองตาม “กติกาสากล”รอกระบวนการขึ้นศาลอีกร่วมปี เพื่อพิสูจน์ว่าเป็น “คดีการเมือง-ศาสนา”หรือ “คดีทุจริต” ดูทรงแล้ว แค่ลูกเล่นซื้อเวลา ความผิดมันชัด สุดท้ายต้องมากลับมารับกรรมในไทยอยู่ดี
ยากกว่าที่คิดแฮะ .. ปฏิบัติการล่าตัว “ป๋าจำนงค์”อดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงิน ที่ถูกกักตัวไว้ที่ ตม.ประเทศเยอรมนี .. และทาง “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่นำทีมสืบสวน จนแกะรอยได้ ก็บินไปรับตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศ .. ทว่าเมื่อเดินทางไปถึง แถมตีตั๋วจองไฟล์ทขากลับเรียบร้อย ดัน “ขัดข้องทางเทคนิค” เมื่อทีมตำรวจ-อัยการ ยังเข้าไม่ถึงตัว “อดีตเจ้าคุณ”และทำท่าว่าจะ “เสียเที่ยว” .. ก็ “ป๋าจำนงค์”ทำการบ้านมาดี ใช้สิทธิ์ส่งคำขอลี้ภัยไปยังสำนักงานดูแลผู้ลี้ภัยของทางเยอรมนี ทันทีที่เท้าเหยียบสนามบิน .. แม้จะมีการแจ้งคดีจากทางการไทยมาดักไว้ล่วงหน้า แต่ตาม “กติกาสากล” ก็ให้สิทธิ “ผู้ต้องหา” ยื่นคำร้องได้ เพื่อตรวจสอบว่าเป็น “คดีการเมือง” หรือไม่ อย่างไร และจะได้รับความคุ้มครองตามกฎเกณฑ์ว่าด้วยผู้ลี้ภัย .. เบื้องต้น ขั้นตอนตรวจสอบกินเวลาไม่ต่ำกว่า 2 เดือน .. โดย “ป๋าจำนงค์” จะถูกทางการเยอรมนีกักตัวไว้ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของเยอรมนี รวมแล้วคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี .. หากพิสูจน์ได้ว่าเป็น “คดีทุจริต” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ “การเมือง -ความเชื่อศาสนา”ก็จะถูกส่งตัวกลับมาดำเนินในประเทศไทยอยู่ดี .. ตามเนื้อผ้าแล้ว คงไม่รอดสันดอน แต่ก็อาจจะยื้อซื้อเวลากลับมาถูกเชือดในไทยได้อีกพักใหญ่ .. ที่น่าห่วงก็ที่มีการระบุว่า “ไทย-เยอรมนี”ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน มีเพียงสนธิสัญญาโอนตัวนักโทษเท่านั้นเอง.
ช.ชฎา