ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กตู่" วอน “พระ-คน” ที่ถูกกล่าวหาหนีคดีไปตปท. กลับมาพิสูจน์ผิดหรือไม่ ด้าน"บิ๊กป้อม" เผย"อดีตพระพรหมเมธี" ยึกยักไม่ยอมพบ "จักรทิพย์" ขอเวลา 3 วันเพื่อเดินเรื่องนำตัวกลับไทย ยันยังไม่ได้รับอนุมัติให้ลี้ภัย ขณะที่ทีม “บิ๊กแป๊ะ” คว้าน้ำเหลว จับ “เจ้าคุณจำนงค์” กลับไทยไม่ได้ หลังเยอรมันรับเข้าสู่กระบวนการศาล คาดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ตามคำร้องขอลี้ภัยที่อ้างกระบวนการยุติธรรมของไทยไม่โปร่งใส จ่อฟัน"เจ้าคุณปิง" ข้อหาค้ามนุษย์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมครม. ถึงความคืบหน้ากรณีประสานประเทศเยอรมัน เพื่อขอนำตัว นายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือ อดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด รวมถึงการแก้ปัญหาวิกฤติของพระสงฆ์ในประเทศไทย ว่า พระพุทธศาสนาของไทย คำสอนของพระพุทธเจ้าบิดเบือนไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ได้มา 2,500 กว่าปีแล้ว มีความเป็นจริง เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะผิดหรือถูกนั้นอยู่ที่คน รวมทั้งพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์ด้วย ทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน กติกาที่เกี่ยวข้องซึ่งพระสงฆ์ก็มี พ.ร.บ.สงฆ์และกฎหมายทั่วไปที่ต้องยึดถือทั้งสองแบบ เพราะฉะนั้นวันนี้ถือเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะทำถูกหรือทำผิดก็เป็นเรื่องการกระทำผิดของบุคคล ของพระ และผู้ที่นับถือศาสนาต้องแยกแยะออกจากกัน
"การที่รัฐบาลทำแบบนี้ เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ในเรื่องเหล่านี้ รวมไปถึงเรื่องของปัญหาเงินทอนวัด ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันในทางคดีความ และกฎหมายต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้สิทธิกับทุกคน และไม่ใช่หนีออกไปต่างประเทศไม่ยอมรับกฎหมาย มันไม่ได้ แล้วจะมาบอกว่ารัฐบาลทำลายพระพุทธศาสนายิ่งไม่ใช่ เราจะต้องช่วยกันทำให้เกิดการยอมรับจากทุกหมู่และทุกฝ่าย ในการนับถือพระสงฆ์ และพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา" นายกฯ กล่าว
วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกคนก็ต้องมีข้อมูลเพื่อประสานการทำงานร่วมกัน และหารือว่าจะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
"การที่ผมออกมาขอโทษในการกระทำของเจ้าหน้าที่ ที่เข้าจับกุมพระสงฆ์นั้น ไม่ใช่ขอโทษว่าเพราะเป็นใคร แต่ขอโทษเพราะบุคคลนั้นแต่งสงฆ์ การดำเนินการต่างๆจำเป็นต้องเหมาะสมต่อผู้ที่แต่งสงฆ์ ต้องเคารพผ้าเหลือง และเคารพพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องดูแลให้ถูกต้อง ในการทำอะไรก็ตาม วันนี้ก็มีการลงโทษกันแล้ว และอยากจะขอร้องสื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้อย่าไปตีข่าวคึกโครม จนกระทั่งกลายเป็นว่าเรากำลังรังแกพระสงฆ์ เหมือนกับเป็นคดีการเมือง แล้วเราก็จะไม่ได้คนที่หนีไปกลับมาสักที ไปลี้ภัยบ้าง อะไรบ้าง เป็นปัญหาที่มันไม่ง่ายนักที่จะเอาคนกลับมาลงโทษ เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันคิด ว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับกติกา กฎหมายของประเทศ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”นายกฯกล่าว
ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของคน เป็นเรื่องของพระที่ทำถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ก็ต้องพิสูจน์กันมา ตนไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นคดีการเมืองไปเสียทั้งหมด เสร็จแล้วก็เป็นเรื่องยาก ทั้งเรื่องการหารือส่งตัว กลายเป็นปัญหาทั้งหมด
*** วอนเยอรมันให้เร่งใน3วัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุม อดีตพระพรหมเมธี หรือ นายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ที่หลบหนีอยู่ในประเทศเยอรมนี รวมถึงมีกระแสข่าวว่า นายจำนงค์ ได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยในประเทศเยอรมนี ว่า อดีตพระพรหมเมธี ยังไม่ได้ลี้ภัย ทางเจ้าหน้าที่ขอเวลาตรวจสอบก่อน ความจริงการทำเรื่องขอส่งตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมา เยอรมนีมีขั้นตอนดำเนินการ 2 เดือน แต่เราได้ขอให้รีบดำเนินการ ภายใน 3 วัน ทางเยอรมนี ก็รับว่าจะไปดำเนินการ ขณะเดียวกัน อดีตพระพรหมเมธี ก็ไม่ยอมพบกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.
เมื่อถามว่า ถ้าอดีตพระพรหมเมธี ไม่อยากพบ ผบ.ตร. จะสามารถนำคนอื่นไปแทน ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่ต้อง อดีตพระพรหมเมธี เขาไม่เอาอยู่แล้ว เขาไม่พบคนไทย ทางเยอรมนี ก็ดำเนินการตามกฎหมาย ที่ผิดกฎหมายในส่วนของไทย เราก็ได้ยื่นเรื่องไปแล้ว เพื่อให้มีน้ำหนักมากพอที่เยอรมนี จะให้ความร่วมมือกับไทย เราก็แลกเปลี่ยนกับเยอรมนีมาตลอด เป็นมิตรที่ดีต่อกัน
เมื่อถามว่า เชื่อว่าเยอรมนี จะเข้าใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ผมก็ไม่ใช่เยอรมนี ซะด้วย” เมื่อถามว่า มีคนไทยให้การสนับสนุนอดีตพระพรหมเมธี อยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มันก็ต้องมี เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ และเขาก็วางแผนไว้แล้ว เพราะเยอรมนี มีกฎหมายให้ลี้ภัยได้ ก็ต้องไปประเทศนั้น
**กต.หาช่องทางช่วยนำตัวมาดำเนินคดี
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการติดตามจับกุม อดีตพระพรหมเมธี ว่า การที่ ผบ.ตร. เดินทางไปเอง แสดงให้เห็นว่า ท่านเอาใจใส่กับเรื่องนี้ ทั้งนี้ไทยมีสนธิสัญญา ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเยอรมนี แม้ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้เข้าไปดูอย่างเป็นทางการกับเรื่องดังกล่าว แต่กำลังตรวจสอบดูว่า เราจะทำอะไรได้บ้าง
ต่อข้อถามว่า โดยหลักการขอตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย จะสามารถดำเนินการได้ช่องทางใดบ้าง นายดอน กล่าวว่า เดี๋ยวจะให้ทางกรมกงสุลตอบประเด็นนี้ เพราะเป็นหน่วยงานที่รู้เกี่ยวกับคดีต่างๆ และอาจจะถามไปถึงเรื่องที่ค้างคาได้ด้วย
เมื่อถามว่า การที่เรายกเลิกหนังสือเดินทางเล่มสีน้ำเงินก่อนแล้ว อดีตพระพรหมเมธี จะยังขอลี้ภัยได้หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปตรวจสอบว่ามีการยกเลิก ก่อนหรือหลัง
เมื่อถามอีกว่า ทางตำรวจพยายามจะให้ทางกระทรวงต่างประเทศ ใช้ช่องทางทางการทูตในการนำตัวกลับมา หรือการเข้าไปพบตัว อดีตพระพรหมเมธี นายดอน กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติในการขอเข้าพบ หรือเข้าเยี่ยมผู้ที่ถูกกักตัว ส่วนเรื่องการนำตัวกลับมา จะราบรื่นหรือไม่ ต้องรอฟังจากทางตำรวจ
นายดอน ยังกล่าวถึง กรณีปรากฏภาพ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน เห็นแต่ในข่าว และตนไม่ได้สอบถามไป เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การที่เขามีหนังสือเดินทางของประเทศอื่น ทำให้การติดตามตัวทำได้ยาก ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีซ่าประเทศอังกฤษ ระยะเวลา 10 ปีนั้น ตนก็ยังไม่ได้รับรายงาน และบางทีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติอาจไม่ได้รายงานเข้ามา เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีซ่าอังกฤษจริง ไทยไม่สามารถดำเนินการอะไรได้แล้ว ใช่หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า แล้วเราจะทำอย่างไร เพราะเขาถือหนังสือเดินทางอื่น และการที่เขาได้รับหนังสือเดินทางอื่น แสดงว่า ได้รับการรับรอง จากประเทศผู้ออกให้แล้ว
ต่อข้อถามว่า ถือเป็นเรื่องเล็กที่ไทยไม่ต้องติดตามใกล้ชิด ใช่หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า เราไม่ได้ตามเรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะมีเรื่องที่ต้องติดตามอีกเยอะ แยะไม่อย่างนั้นจะตกหล่นหลายเรื่อง
** ยกกระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือขอลี้ภัยเยอรมัน
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า สำหรับเหตุผลที่อดีตพระพรหมเมธี ใช้อ้างในการขอลี้ภัยที่ประเทศเยอรมนีนั้น มีมูลเหตุจากกระบวนการยุติธรรมของไทย ยังไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ ไม่โปร่งใส และตรวจสอบไม่ได้ เพราะประเทศยังอยู่ในสถานการณ์พิเศษ มีกฎหมายที่ไม่ได้มาจากประชาชน หากกลับไปต่อสู้คดี อาจจะไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างที่ควรจะเป็น
ทั้งนี้ ทางสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือ Federal Office for Migration and Refugees (BAMF) อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาถึงเหตุผลดังกล่าว เข้าข่าย หรือสมควรอนุญาตให้ลี้ภัยหรือไม่
มีรายงานข่าวว่า เจ้าคุณจำนงค์ ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการศาลเรียบร้อยแล้ว กว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นคาดจะใช้เวลานานกว่า 1 ปี ขึ้นไป
จากการตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารเที่ยวบินที่ TG921 ซึ่งออกจากแฟรงก์เฟิร์ต เวลา 14.20 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 06.20 น. วันที่ 7 มิ.ย.นี้ พบมีชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะรวม 5 คน เดินทางกลับไทย โดยไม่มีชื่อของอดีตพระพรหมเมธี จึงคาดว่าอดีตพระพรหมเมธียังไม่ได้รับการปล่อยตัวจากทางการเยอรมัน
*** จ่อฟัน"เจ้าคุณปิง"ข้อหาค้ามนุษย์
พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ อดีตพระวิสุทธิศาสนวิเทศ (กวีศิลป์ วิ สุทธิกุโล) หรือ เจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระเลขานุการส่วนตัวของ อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นกุฏิเจ้าคุณปิง และยึดโทรศัพท์มาตรวจสอบพบภาพลามกอนาจาร ซึ่งเป็นภาพการร่วมเพศกันระหว่างเจ้าคุณปิงกับฆราวาสชายหนุ่มคู่ขา และภาพเปลือยผู้ชายจำนวนหนึ่งในโทรศัพท์ซึ่งผิดวินัยสงฆ์ว่า ปคม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับตำรวจกองปราบปราม โดยทราบว่าอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่ โดยกรณีนี้จะต้องมีการไปตรวจสอบว่าฆราวาสชายคนดังกล่าว อายุต่ำกว่า 18 ปีหรือไม่ มั่นใจว่าจะสามารถตามตัวฆราวาสชายที่ปรากฏในภาพได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ส่วนสื่อลามกอนาจารที่พบในกุฏิจะต้องมีการสืบสวนขยายผลอยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมครม. ถึงความคืบหน้ากรณีประสานประเทศเยอรมัน เพื่อขอนำตัว นายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือ อดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด รวมถึงการแก้ปัญหาวิกฤติของพระสงฆ์ในประเทศไทย ว่า พระพุทธศาสนาของไทย คำสอนของพระพุทธเจ้าบิดเบือนไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ได้มา 2,500 กว่าปีแล้ว มีความเป็นจริง เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะผิดหรือถูกนั้นอยู่ที่คน รวมทั้งพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์ด้วย ทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน กติกาที่เกี่ยวข้องซึ่งพระสงฆ์ก็มี พ.ร.บ.สงฆ์และกฎหมายทั่วไปที่ต้องยึดถือทั้งสองแบบ เพราะฉะนั้นวันนี้ถือเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะทำถูกหรือทำผิดก็เป็นเรื่องการกระทำผิดของบุคคล ของพระ และผู้ที่นับถือศาสนาต้องแยกแยะออกจากกัน
"การที่รัฐบาลทำแบบนี้ เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก ในเรื่องเหล่านี้ รวมไปถึงเรื่องของปัญหาเงินทอนวัด ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันในทางคดีความ และกฎหมายต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้สิทธิกับทุกคน และไม่ใช่หนีออกไปต่างประเทศไม่ยอมรับกฎหมาย มันไม่ได้ แล้วจะมาบอกว่ารัฐบาลทำลายพระพุทธศาสนายิ่งไม่ใช่ เราจะต้องช่วยกันทำให้เกิดการยอมรับจากทุกหมู่และทุกฝ่าย ในการนับถือพระสงฆ์ และพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา" นายกฯ กล่าว
วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกคนก็ต้องมีข้อมูลเพื่อประสานการทำงานร่วมกัน และหารือว่าจะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
"การที่ผมออกมาขอโทษในการกระทำของเจ้าหน้าที่ ที่เข้าจับกุมพระสงฆ์นั้น ไม่ใช่ขอโทษว่าเพราะเป็นใคร แต่ขอโทษเพราะบุคคลนั้นแต่งสงฆ์ การดำเนินการต่างๆจำเป็นต้องเหมาะสมต่อผู้ที่แต่งสงฆ์ ต้องเคารพผ้าเหลือง และเคารพพระสงฆ์ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องดูแลให้ถูกต้อง ในการทำอะไรก็ตาม วันนี้ก็มีการลงโทษกันแล้ว และอยากจะขอร้องสื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้อย่าไปตีข่าวคึกโครม จนกระทั่งกลายเป็นว่าเรากำลังรังแกพระสงฆ์ เหมือนกับเป็นคดีการเมือง แล้วเราก็จะไม่ได้คนที่หนีไปกลับมาสักที ไปลี้ภัยบ้าง อะไรบ้าง เป็นปัญหาที่มันไม่ง่ายนักที่จะเอาคนกลับมาลงโทษ เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันคิด ว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับกติกา กฎหมายของประเทศ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”นายกฯกล่าว
ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของศาสนา เป็นเรื่องของคน เป็นเรื่องของพระที่ทำถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ก็ต้องพิสูจน์กันมา ตนไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นคดีการเมืองไปเสียทั้งหมด เสร็จแล้วก็เป็นเรื่องยาก ทั้งเรื่องการหารือส่งตัว กลายเป็นปัญหาทั้งหมด
*** วอนเยอรมันให้เร่งใน3วัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุม อดีตพระพรหมเมธี หรือ นายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ที่หลบหนีอยู่ในประเทศเยอรมนี รวมถึงมีกระแสข่าวว่า นายจำนงค์ ได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยในประเทศเยอรมนี ว่า อดีตพระพรหมเมธี ยังไม่ได้ลี้ภัย ทางเจ้าหน้าที่ขอเวลาตรวจสอบก่อน ความจริงการทำเรื่องขอส่งตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมา เยอรมนีมีขั้นตอนดำเนินการ 2 เดือน แต่เราได้ขอให้รีบดำเนินการ ภายใน 3 วัน ทางเยอรมนี ก็รับว่าจะไปดำเนินการ ขณะเดียวกัน อดีตพระพรหมเมธี ก็ไม่ยอมพบกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.
เมื่อถามว่า ถ้าอดีตพระพรหมเมธี ไม่อยากพบ ผบ.ตร. จะสามารถนำคนอื่นไปแทน ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่ต้อง อดีตพระพรหมเมธี เขาไม่เอาอยู่แล้ว เขาไม่พบคนไทย ทางเยอรมนี ก็ดำเนินการตามกฎหมาย ที่ผิดกฎหมายในส่วนของไทย เราก็ได้ยื่นเรื่องไปแล้ว เพื่อให้มีน้ำหนักมากพอที่เยอรมนี จะให้ความร่วมมือกับไทย เราก็แลกเปลี่ยนกับเยอรมนีมาตลอด เป็นมิตรที่ดีต่อกัน
เมื่อถามว่า เชื่อว่าเยอรมนี จะเข้าใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “ผมก็ไม่ใช่เยอรมนี ซะด้วย” เมื่อถามว่า มีคนไทยให้การสนับสนุนอดีตพระพรหมเมธี อยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มันก็ต้องมี เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ และเขาก็วางแผนไว้แล้ว เพราะเยอรมนี มีกฎหมายให้ลี้ภัยได้ ก็ต้องไปประเทศนั้น
**กต.หาช่องทางช่วยนำตัวมาดำเนินคดี
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการติดตามจับกุม อดีตพระพรหมเมธี ว่า การที่ ผบ.ตร. เดินทางไปเอง แสดงให้เห็นว่า ท่านเอาใจใส่กับเรื่องนี้ ทั้งนี้ไทยมีสนธิสัญญา ส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับเยอรมนี แม้ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้เข้าไปดูอย่างเป็นทางการกับเรื่องดังกล่าว แต่กำลังตรวจสอบดูว่า เราจะทำอะไรได้บ้าง
ต่อข้อถามว่า โดยหลักการขอตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย จะสามารถดำเนินการได้ช่องทางใดบ้าง นายดอน กล่าวว่า เดี๋ยวจะให้ทางกรมกงสุลตอบประเด็นนี้ เพราะเป็นหน่วยงานที่รู้เกี่ยวกับคดีต่างๆ และอาจจะถามไปถึงเรื่องที่ค้างคาได้ด้วย
เมื่อถามว่า การที่เรายกเลิกหนังสือเดินทางเล่มสีน้ำเงินก่อนแล้ว อดีตพระพรหมเมธี จะยังขอลี้ภัยได้หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปตรวจสอบว่ามีการยกเลิก ก่อนหรือหลัง
เมื่อถามอีกว่า ทางตำรวจพยายามจะให้ทางกระทรวงต่างประเทศ ใช้ช่องทางทางการทูตในการนำตัวกลับมา หรือการเข้าไปพบตัว อดีตพระพรหมเมธี นายดอน กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติในการขอเข้าพบ หรือเข้าเยี่ยมผู้ที่ถูกกักตัว ส่วนเรื่องการนำตัวกลับมา จะราบรื่นหรือไม่ ต้องรอฟังจากทางตำรวจ
นายดอน ยังกล่าวถึง กรณีปรากฏภาพ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน เห็นแต่ในข่าว และตนไม่ได้สอบถามไป เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การที่เขามีหนังสือเดินทางของประเทศอื่น ทำให้การติดตามตัวทำได้ยาก ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีซ่าประเทศอังกฤษ ระยะเวลา 10 ปีนั้น ตนก็ยังไม่ได้รับรายงาน และบางทีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติอาจไม่ได้รายงานเข้ามา เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีซ่าอังกฤษจริง ไทยไม่สามารถดำเนินการอะไรได้แล้ว ใช่หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า แล้วเราจะทำอย่างไร เพราะเขาถือหนังสือเดินทางอื่น และการที่เขาได้รับหนังสือเดินทางอื่น แสดงว่า ได้รับการรับรอง จากประเทศผู้ออกให้แล้ว
ต่อข้อถามว่า ถือเป็นเรื่องเล็กที่ไทยไม่ต้องติดตามใกล้ชิด ใช่หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า เราไม่ได้ตามเรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะมีเรื่องที่ต้องติดตามอีกเยอะ แยะไม่อย่างนั้นจะตกหล่นหลายเรื่อง
** ยกกระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือขอลี้ภัยเยอรมัน
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า สำหรับเหตุผลที่อดีตพระพรหมเมธี ใช้อ้างในการขอลี้ภัยที่ประเทศเยอรมนีนั้น มีมูลเหตุจากกระบวนการยุติธรรมของไทย ยังไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ ไม่โปร่งใส และตรวจสอบไม่ได้ เพราะประเทศยังอยู่ในสถานการณ์พิเศษ มีกฎหมายที่ไม่ได้มาจากประชาชน หากกลับไปต่อสู้คดี อาจจะไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างที่ควรจะเป็น
ทั้งนี้ ทางสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี หรือ Federal Office for Migration and Refugees (BAMF) อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาถึงเหตุผลดังกล่าว เข้าข่าย หรือสมควรอนุญาตให้ลี้ภัยหรือไม่
มีรายงานข่าวว่า เจ้าคุณจำนงค์ ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการศาลเรียบร้อยแล้ว กว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นคาดจะใช้เวลานานกว่า 1 ปี ขึ้นไป
จากการตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารเที่ยวบินที่ TG921 ซึ่งออกจากแฟรงก์เฟิร์ต เวลา 14.20 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 06.20 น. วันที่ 7 มิ.ย.นี้ พบมีชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะรวม 5 คน เดินทางกลับไทย โดยไม่มีชื่อของอดีตพระพรหมเมธี จึงคาดว่าอดีตพระพรหมเมธียังไม่ได้รับการปล่อยตัวจากทางการเยอรมัน
*** จ่อฟัน"เจ้าคุณปิง"ข้อหาค้ามนุษย์
พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ อดีตพระวิสุทธิศาสนวิเทศ (กวีศิลป์ วิ สุทธิกุโล) หรือ เจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระเลขานุการส่วนตัวของ อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นกุฏิเจ้าคุณปิง และยึดโทรศัพท์มาตรวจสอบพบภาพลามกอนาจาร ซึ่งเป็นภาพการร่วมเพศกันระหว่างเจ้าคุณปิงกับฆราวาสชายหนุ่มคู่ขา และภาพเปลือยผู้ชายจำนวนหนึ่งในโทรศัพท์ซึ่งผิดวินัยสงฆ์ว่า ปคม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับตำรวจกองปราบปราม โดยทราบว่าอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่ โดยกรณีนี้จะต้องมีการไปตรวจสอบว่าฆราวาสชายคนดังกล่าว อายุต่ำกว่า 18 ปีหรือไม่ มั่นใจว่าจะสามารถตามตัวฆราวาสชายที่ปรากฏในภาพได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน ส่วนสื่อลามกอนาจารที่พบในกุฏิจะต้องมีการสืบสวนขยายผลอยู่แล้ว