“ประยุทธ์” สั่ง มท.1 พร้อม 5 รมต.แถลงความคืบหน้าไทยนิยมฯ ย้ำกระจายรายได้ไปสู่เศรษฐกิจฐานราก แย้ม มิ.ย.เริ่มดำเนินแผน บอกไม่ต้องรู้เอาเงินมาจากไหน แต่ให้รู้รัฐตั้งใจเพิ่มรายได้ ปัดแจกเงินแต่ให้เบ็ดหาปลา
วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการในช่วงท้ายการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับโครงการไทยนิยมยั่งยืน ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าโครงการไทยนิยมยั่งยืน ให้สื่อมวลชนรับทราบ
โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า แม้ตัวชี้วัดเศรษฐกิจจะดีขึ้นมากทุกตัว จีดีพีไตรมาสแรกโตถึง 4.8% แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อเรื่องกระจายรายได้ไปสู่เศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการไทยนิยม ยั่งยืน มีการส่งทีมระดับตำบล และชุมชน ลงไปกว่า 8 หมื่นแห่ง พูดคุยกับชาวบ้านประมาณ 8 ล้านคน เพื่อไปสร้างความรู้ความเข้าใจ และหาข้อมูลเชิงลึกมาแก้ปัญหาเรื่องรายได้ต่ำ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยนั้น โครงการหมู่บ้านละ 2 แสนบาท ขณะนี้ได้แผนงานโครงการแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาแผนงานระดับอำเภอ เสร็จแล้วจะส่งไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนาม และส่งไปให้สำนักงานจัดทำงบประมาณเขตพื้นที่พิจารณาให้ความเห็นชอบ
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ปัจจุบัน พ.ร.บ.งบรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 61 ได้มีผลบังคับใช้ ทำให้มีเงินพร้อม หากแผนงานผ่านการพิจารณาหมดแล้ว สำนักงบประมาณจะอนุมัติงบประมาณไปให้บัญชีคณะกรรมการหมู่บ้านได้เลย ขั้นตอนอนุมัตินี้จะเสร็จภายในเดือน พ.ค.นี้ ส่วนเดือน มิ.ย.จะเริ่มดำเนินการแผนงานต่างๆ ได้ทันที และนับจากวันที่ 17 มิ.ย. โครงการต่างๆ ต้องเสร็จภายใน 120 วัน โครงการเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ เพราะเป็นความต้องการของคนในพื้นที่เอง ส่วนโครงการโอทอป จะมีการพัฒนาโอทอปในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ประมาณ 3.2 พันกว่าแห่ง งบประมาณ 9 พันล้านบาท
รมว.มหาดไทยยังกล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวไม่ต้องรู้ว่าเงินมาจากไหน เพราะทุกชุดที่ลงไปลงไปในแนวทางประชารัฐ และถึงประชาชนทั้งหมด เงินมาจากก้อนไหน ขอให้เขาได้เท่านั้น ขอให้เขารู้ว่าจะพัฒนาตัวเองอย่างไร พัฒนากลุ่มอย่างไร เงินอะไรลงไปเขาไม่ต้องรู้ แต่อยากให้รู้ว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำให้เขามีรายได้ดีขึ้น เราไม่ได้เป็นลักษณะแจกเงิน และตามศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เราไม่ได้แจกปลา แต่เราแจกเบ็ดให้เขาหาปลากิน ตรงนี้เป็นสิ่งยาก ยืนยันว่าเราเน้นความยั่งยืนไม่แจกเงิน
“สังคมจะมาบอกว่าเป็นวิธีที่ได้ผลหรือไม่ได้ผลนั้น เราไม่รู้ แต่เราสร้างโอกาสให้เขาทำ เราเอาโอกาสไปถึงตัวเขา แล้วเก็บข้อมูลมาด้วย นี่คือตัวอย่างความยั่งยืน ถ้าเขายังจนอยู่เราจะได้ช่วยแก้ไข เรายังมีโครงการอื่นที่ทำอยู่ขอให้เรารู้ข้อมูลว่าจะพัฒนาเขาอย่างไร สื่อฯ ต้องช่วย” รมว.มหาดไทยระบุ